ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่มุสลิม แค่อยากพูดอยากแสดงความเห็นในเรื่องนี้บ้างเท่านั้น หากเข้าใจผิดในเรื่องใดไปก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
.
..
...
..
.
★★★ สิ่งที่หนูคิดกับเรื่องมุสลิมอุยกูร์ มีดังนี้ ★★★
1. พื้นที่แถบอุยกูร์อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซ ในปริมาณมากถึง 20-30% ของประเทศ
2. จีนก็คงอยากนำใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ก็ต้องทำทุกวิธีทาง เช่น
2.1 ทำให้มุสลิมอุยกูร์กลายเป็นชนกลุ่มน้อยในบ้านเกิดของตนเองด้วยการส่งเสริมชาวฮั่นให้เข้าไปตั้งรกรากทำมาหากินที่นั่น
2.2 บีบชาวอุยกูร์ให้ไม่มีงานทำหรือเข้าทำงานไม่ได้ ด้วยการกำหนดคุณสมบัติของคนงานว่า ต้องพูดแมนดาริน ห้ามกินอาหารฮาลาล ห้ามถือศีลอด เป็นต้น
2.3 ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จีนจัดตั้งที่นั่น เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่อ้างว่าสร้างขึ้นเพื่อคนพื้นถิ่น จริงๆ แล้วก็สร้างเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าของจีนกับประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าที่จะยังประโยชน์แก่คนพื้นถิ่นจริงๆ
3. การปฎิบัติต่ออุยกูร์อย่างความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความขัดแย้ง จนมีบางกลุ่มเข้าสนับสนุน กองกำลังแบ่งแยกดินแดน นำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรง
4. เมื่อเกิดกองกำลังแบ่งแยกดินแดนก็ยิ่งเข้าทางจีน ในการหาข้ออ้างที่ชอบธรรมแก่ตนเองสำหรับการกรีฑาทัพเข้าอุยกูร์
.
..
.
ส่วนข้อต่อๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี คิดอะไรในใจเยอะอยู่แต่เรียบเรียงไม่ค่อยถูก พูดอะไรไม่ค่อยออก สงสารก็สงสารนะ แต่มันก็ยากในการวางตัวของไทยเหมือนกัน
.
..
.
เคยคิดแบบนี้ในใจว่า.. ถ้าอุยกูร์ทำสนธิสัญญาเรื่องผลประโยชน์ทรัพยากรกับจีน เหตุการณ์มันจะดีขึ้นบ้างมั้ย.. เพราะจีนก็ไม่ได้รังเกียจหรือต่อต้านศาสนาอิสลามนะ เพราะมุสลิมจีนที่อาศัยในส่วนอื่นๆ ของประเทศก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ แค่ที่อุยกูร์เท่านั้นที่ถูกยกเรื่องศาสนามาบีบบังคับ อารมณ์ประมาณว่า.. หักขาได้หัก! หักแขนได้หัก! บีบคอได้บีบ! อะไรประมาณนี้เลย..
★★★ สิ่งที่หนูคิดกับเรื่องมุสลิมอุยกูร์ มีดังนี้... ★★★
.
..
...
..
.
★★★ สิ่งที่หนูคิดกับเรื่องมุสลิมอุยกูร์ มีดังนี้ ★★★
1. พื้นที่แถบอุยกูร์อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซ ในปริมาณมากถึง 20-30% ของประเทศ
2. จีนก็คงอยากนำใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ก็ต้องทำทุกวิธีทาง เช่น
2.1 ทำให้มุสลิมอุยกูร์กลายเป็นชนกลุ่มน้อยในบ้านเกิดของตนเองด้วยการส่งเสริมชาวฮั่นให้เข้าไปตั้งรกรากทำมาหากินที่นั่น
2.2 บีบชาวอุยกูร์ให้ไม่มีงานทำหรือเข้าทำงานไม่ได้ ด้วยการกำหนดคุณสมบัติของคนงานว่า ต้องพูดแมนดาริน ห้ามกินอาหารฮาลาล ห้ามถือศีลอด เป็นต้น
2.3 ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จีนจัดตั้งที่นั่น เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่อ้างว่าสร้างขึ้นเพื่อคนพื้นถิ่น จริงๆ แล้วก็สร้างเพื่อผลประโยชน์ทางการค้าของจีนกับประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าที่จะยังประโยชน์แก่คนพื้นถิ่นจริงๆ
3. การปฎิบัติต่ออุยกูร์อย่างความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความขัดแย้ง จนมีบางกลุ่มเข้าสนับสนุน กองกำลังแบ่งแยกดินแดน นำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรง
4. เมื่อเกิดกองกำลังแบ่งแยกดินแดนก็ยิ่งเข้าทางจีน ในการหาข้ออ้างที่ชอบธรรมแก่ตนเองสำหรับการกรีฑาทัพเข้าอุยกูร์
.
..
.
ส่วนข้อต่อๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี คิดอะไรในใจเยอะอยู่แต่เรียบเรียงไม่ค่อยถูก พูดอะไรไม่ค่อยออก สงสารก็สงสารนะ แต่มันก็ยากในการวางตัวของไทยเหมือนกัน
.
..
.
เคยคิดแบบนี้ในใจว่า.. ถ้าอุยกูร์ทำสนธิสัญญาเรื่องผลประโยชน์ทรัพยากรกับจีน เหตุการณ์มันจะดีขึ้นบ้างมั้ย.. เพราะจีนก็ไม่ได้รังเกียจหรือต่อต้านศาสนาอิสลามนะ เพราะมุสลิมจีนที่อาศัยในส่วนอื่นๆ ของประเทศก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ แค่ที่อุยกูร์เท่านั้นที่ถูกยกเรื่องศาสนามาบีบบังคับ อารมณ์ประมาณว่า.. หักขาได้หัก! หักแขนได้หัก! บีบคอได้บีบ! อะไรประมาณนี้เลย..