เข้าใจเรื่องอุยกูร์ ฉบับคนขี้เกียจแต่แคร์โลก
ที่มาจากเวบ
https://bkkinfoglut.wordpress.com/2015/07/13/%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%89%e0%b8%9a%e0%b8%b1/
ผมขอนำมาเพียงแต่บางส่วน ฉบับเต็ม (มีคลิปวีดีโอประกอบด้วย) เข้าไปอ่านได้ตามลิงค์ด้านบนนะครับ :
แล้วทำไมองค์กรระหว่างประเทศ ตุรกี อียู และสหรัฐ ถึงต้องประณามไทยด้วย?
เพราะการส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังจีนอาจทำให้พวกเขาต้องกลับไปได้รับอันตราย เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีอยู่ว่ารัฐบาลจีนนั้นมีนโยบายกดขี่ชาวอุยกูร์ จนทำให้พวกเขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศมาตั้งแต่แรก
การส่งผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตราย ไม่ใช่แค่ฟังดูโหดร้าย แต่ยังขัดกับหลักกฎหมายสากลที่เคารพเป็นธรรมเนียมกันทั่วโลกด้วย คือ Non-Refoulement หลักการห้ามผลักดันไปเผชิญอันตราย ที่ไม่ใช่แค่ห้ามส่งกลับไปประเทศต้นทาง แต่ห้ามส่งไปที่ไหนก็ตามที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือเสรีภาพของผู้อพยพ
หลักการนี้มีสถานะเป็นกฎหมายบังคับเด็ดขาด (jus cogens) แปลว่า สูงกว่ากฎหมายทั่วๆไป จะมาทำสนธิสัญญาอะไรเป็นข้อยกเว้นก็ไม่ได้ ต้องเคารพร่วมกันไปทั้งโลก
แล้วรู้ได้ไงว่าเขาจะได้รับอันตราย มโนไปเองรึเปล่า ทางการจีนเขารับปากเรื่องความปลอดภัยแล้ว
เล่าเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ “เขตปกครองตนเองซินเจียง” มณฑลที่ใหญ่ที่สุดของจีน อยู่ชายแดนฝั่งตะวันตก ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ ที่พูดภาษาตระกูลเตอร์กิค มองคร่าวๆทั้งหน้าตาและวัฒนธรรมจึงค่อนไปทางคนเอเชียกลางแบบตุรกี ทาจิกิสถาน หรือมองโกเลียซะมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่
และอันที่จริงซินเจียงก็เพิ่งตกอยู่ใต้ปกครองของจีนเต็มๆในปี 1949 นี้เอง พวกเขาเลยมีรากเหง้าของตัวเองอยู่แล้ว และไม่ได้แฮปปี้กับการตกอยู่ใต้ปกครองของจีนเท่าไหร่ กลุ่มนักกิจกรรมที่อยากแยกตัวนั้นไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่เป็น “เตอร์กีสถานตะวันออก” เคยมีความพยายามอยากแยกตัวหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลายและรัฐอิสลามในเอเชียกลางหลายแห่งแยกตัวออกมาเป็นอิสระ มุสลิมอุยกูร์ในซินเจียงก็อยากแยกบ้างแต่ไม่สำเร็จ
อยู่ไปอยู่มามณฑลพัฒนาขึ้น มีการค้นพบน้ำมันและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ คนจีนฮั่นก็เลยเริ่มย้ายเข้ามาอยู่จนเยอะเกือบถึงครึ่งของประชากร มาตักตวงสร้างความร่ำรวย และเริ่มเกิดความขัดแย้งว่า ทางการจีนเลือกปฏิบัติกับคนจีนฮั่นดีกว่าชาวอุยกูร์
เรื่องมาเข้มข้นตอนมีจลาจลครั้งใหญ่ปี 2009 เพราะชาวอุยกูร์ออกมาประท้วง เกิดการปะทะมีผู้เสียชีวิตเกือบสองร้อยคน (แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น)
ตั้งแต่นั้นมามีเหตุระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในซินเจียงหลายครั้ง รัฐบาลจีนมักจะตั้งแง่ไว้ก่อนว่าคนอุยกูร์ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนเป็นคนทำ เลยเข้ามาจำกัดเสรีภาพในทางศาสนาของชาวอุยกูร์ เช่น ห้ามพวกเขาอดอาหารในเดือนรอมฎอน ห้ามคนสวมผ้าคลุมศีรษะหรือเครื่องแต่งกายที่มีสัญลักษณ์อิสลามหรือแม้แต่ไว้หนวดยาวแบบอิสลามขึ้นรถเมล์ เรียกว่าระแวงกับกิจกรรมทางศาสนาอิสลามเอามากๆ
ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว (2014) รัฐบาลจีนรุกหนัก มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวอุยกูร์หลายครั้งจนมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งปีหลายร้อยคน และถึงขั้นเคยจัดพิจารณาคดีหมู่ 55 คนในสนามกีฬาของซินเจียงให้คนกว่า 7,000 คนมานั่งดู เป็นการเชือดไก่ให้ลิงกลัว โดยความผิดของพวกเขาเหล่านี้คือข้อหาก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน และฆาตกรรม ในจำนวนนี้ 3 คนได้รับโทษประหารชีวิต xinjiang sentence
แล้วหนีมาทำไม จะไปไหน?
ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็อยากไปอยู่กับประเทศมุสลิมประชาธิปไตยอย่างตุรกี ซึ่งมีชุมชนชาวอุยกูร์อยู่แล้ว และตุรกีเองก็เต็มใจรับ ถึงขั้นออกมาขอตั้งแต่ปีที่แล้วให้ไทยส่งชาวอุยกูร์ที่จับได้และกักตัวไว้ที่สงขลาไปที่ตุรกี และเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ไทยเองก็ส่งชาวอุยกูร์ 173 คนไปให้ตุรกีแล้ว แต่ต่อมากลับส่งชาวอุยกูร์กลุ่มที่สองให้จีนเสียนี่ โดยบอกว่าเพราะกลุ่มนี้พิสูจน์สัญชาติแล้วเป็นจีน
ส่วนหนีทำไมถ้าถามตุรกี ตุรกีตอบว่าพวกเขาแค่อยากรอดพ้นจากการกดขี่ของจีน ไม่ต้องเสี่ยงชีวิต และมีโอกาสปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเสรี
แต่ถ้าถามจีน เชื่อว่าพวกนี้ออกมาเพื่อไปฝึกกับกองกำลังมุสลิมในต่างชาติ เตรียมกลับไปรบแบ่งแยกดินแดนที่ซินเจียงอีกที
รอบนี้จึงไม่แปลกที่ตุรกีโกรธไทย ส่วนจีนโยงเข้าให้ว่าชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ จริงๆตั้งใจจะเดินทางไปร่วมกับ ISIS
แล้วจะมาเมืองไทยกันทำไม?
เปล่า เขาไม่ได้อยากมาอยู่กับเรา เราเป็นแค่ทางผ่านขณะที่พวกเขาพยายามเดินทางไปตุรกีแบบผิดกฎหมาย แต่เราดันจับได้ซะก่อน
เคยมีใครส่งเขากลับแบบเราไหม?
เคย เช่น กัมพูชาเมื่อปี 2009 ส่งชาวอุยกูร์ที่หนีออกมา 20 คนกลับไปเมืองจีนจนรัฐบาลจีนออกมาขอบคุณ (แต่สหรัฐและ UN ประณามเช่นกันกับที่เราโดน)
หลังจากนั้น 2 วัน กัมพูชาก็เซ็นสัญญารับเงินช่วยเหลือและเงินกู้จากจีน 14 ฉบับ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แล้วพวกที่ส่งกลับไปเป็นไงบ้าง?
2 คนได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ที่เหลือก็โดนกันไปคนละ 16-17 ปี ข้อหาแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย เดินทางผิดกฎหมาย แต่กลุ่มทำงานด้านสิทธิมนุษยชนบอกว่า เป็นเพราะพวกเขาเป็นพยานเห็นเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงปราบจลาจลเมื่อปี 2009
สรุปอุยกูร์ เกี่ยวอะไรกับกรู?
ตอนนี้คนไทยในตุรกีต้องอยู่อย่างระมัดระวังมากๆ เพราะชาวอุยกูร์ในตุรกียังคงเคืองกับการตัดสินใจครั้งนี้ของเรา
ส่วนข้างล่างคือวิดีโอแสดงภาพการคุมตัวชาวอุยกูร์ของทางการจีนที่รับปากว่าพวกเขาจะปลอดภัยและเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ดูแล้วคิดว่ามันปลอดภัยและยุติธรรมไหม
แต่เราทำตามขั้นตอน พิสูจน์สัญชาติ พบว่าเป็นคนจีนก็ส่งกลับประเทศ ผิดตรงไหน?
ถึงไม่ได้เป็นห่วงอะไรชาวอุยกูร์ มันก็ผิดตรงขัดกับหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศนี่ล่ะจ้ะ (ย้อนไปอ่านข้างบน) และเราไม่มีสิทธิอ้างว่าไม่รู้
นี่ไม่เกี่ยวกับการชอบหรือไม่ชอบลุงตู่ เป็นเรื่องเป็นไปได้อย่างยิ่งที่นายกฯจะไม่รู้กฎเหล่านี้ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วยนักกฎหมายระหว่างประเทศมากมายในกระทรวงการต่างประเทศจะอ้างว่าไม่รู้กฎข้อนี้
เรื่องมากจัง แล้วจะต้องทำยังไงถึงจะถูก?
ตุรกีเขารออยู่ คราวหลังก็ส่งไปได้นะ
เข้าใจเรื่องอุยกูร์ ฉบับคนขี้เกียจแต่แคร์โลก
ที่มาจากเวบ
https://bkkinfoglut.wordpress.com/2015/07/13/%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%89%e0%b8%9a%e0%b8%b1/
ผมขอนำมาเพียงแต่บางส่วน ฉบับเต็ม (มีคลิปวีดีโอประกอบด้วย) เข้าไปอ่านได้ตามลิงค์ด้านบนนะครับ :
แล้วทำไมองค์กรระหว่างประเทศ ตุรกี อียู และสหรัฐ ถึงต้องประณามไทยด้วย?
เพราะการส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังจีนอาจทำให้พวกเขาต้องกลับไปได้รับอันตราย เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีอยู่ว่ารัฐบาลจีนนั้นมีนโยบายกดขี่ชาวอุยกูร์ จนทำให้พวกเขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศมาตั้งแต่แรก
การส่งผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตราย ไม่ใช่แค่ฟังดูโหดร้าย แต่ยังขัดกับหลักกฎหมายสากลที่เคารพเป็นธรรมเนียมกันทั่วโลกด้วย คือ Non-Refoulement หลักการห้ามผลักดันไปเผชิญอันตราย ที่ไม่ใช่แค่ห้ามส่งกลับไปประเทศต้นทาง แต่ห้ามส่งไปที่ไหนก็ตามที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือเสรีภาพของผู้อพยพ
หลักการนี้มีสถานะเป็นกฎหมายบังคับเด็ดขาด (jus cogens) แปลว่า สูงกว่ากฎหมายทั่วๆไป จะมาทำสนธิสัญญาอะไรเป็นข้อยกเว้นก็ไม่ได้ ต้องเคารพร่วมกันไปทั้งโลก
แล้วรู้ได้ไงว่าเขาจะได้รับอันตราย มโนไปเองรึเปล่า ทางการจีนเขารับปากเรื่องความปลอดภัยแล้ว
เล่าเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ “เขตปกครองตนเองซินเจียง” มณฑลที่ใหญ่ที่สุดของจีน อยู่ชายแดนฝั่งตะวันตก ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ ที่พูดภาษาตระกูลเตอร์กิค มองคร่าวๆทั้งหน้าตาและวัฒนธรรมจึงค่อนไปทางคนเอเชียกลางแบบตุรกี ทาจิกิสถาน หรือมองโกเลียซะมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่
และอันที่จริงซินเจียงก็เพิ่งตกอยู่ใต้ปกครองของจีนเต็มๆในปี 1949 นี้เอง พวกเขาเลยมีรากเหง้าของตัวเองอยู่แล้ว และไม่ได้แฮปปี้กับการตกอยู่ใต้ปกครองของจีนเท่าไหร่ กลุ่มนักกิจกรรมที่อยากแยกตัวนั้นไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่เป็น “เตอร์กีสถานตะวันออก” เคยมีความพยายามอยากแยกตัวหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลายและรัฐอิสลามในเอเชียกลางหลายแห่งแยกตัวออกมาเป็นอิสระ มุสลิมอุยกูร์ในซินเจียงก็อยากแยกบ้างแต่ไม่สำเร็จ
อยู่ไปอยู่มามณฑลพัฒนาขึ้น มีการค้นพบน้ำมันและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ คนจีนฮั่นก็เลยเริ่มย้ายเข้ามาอยู่จนเยอะเกือบถึงครึ่งของประชากร มาตักตวงสร้างความร่ำรวย และเริ่มเกิดความขัดแย้งว่า ทางการจีนเลือกปฏิบัติกับคนจีนฮั่นดีกว่าชาวอุยกูร์
เรื่องมาเข้มข้นตอนมีจลาจลครั้งใหญ่ปี 2009 เพราะชาวอุยกูร์ออกมาประท้วง เกิดการปะทะมีผู้เสียชีวิตเกือบสองร้อยคน (แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น)
ตั้งแต่นั้นมามีเหตุระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในซินเจียงหลายครั้ง รัฐบาลจีนมักจะตั้งแง่ไว้ก่อนว่าคนอุยกูร์ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนเป็นคนทำ เลยเข้ามาจำกัดเสรีภาพในทางศาสนาของชาวอุยกูร์ เช่น ห้ามพวกเขาอดอาหารในเดือนรอมฎอน ห้ามคนสวมผ้าคลุมศีรษะหรือเครื่องแต่งกายที่มีสัญลักษณ์อิสลามหรือแม้แต่ไว้หนวดยาวแบบอิสลามขึ้นรถเมล์ เรียกว่าระแวงกับกิจกรรมทางศาสนาอิสลามเอามากๆ
ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว (2014) รัฐบาลจีนรุกหนัก มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวอุยกูร์หลายครั้งจนมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งปีหลายร้อยคน และถึงขั้นเคยจัดพิจารณาคดีหมู่ 55 คนในสนามกีฬาของซินเจียงให้คนกว่า 7,000 คนมานั่งดู เป็นการเชือดไก่ให้ลิงกลัว โดยความผิดของพวกเขาเหล่านี้คือข้อหาก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน และฆาตกรรม ในจำนวนนี้ 3 คนได้รับโทษประหารชีวิต xinjiang sentence
แล้วหนีมาทำไม จะไปไหน?
ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็อยากไปอยู่กับประเทศมุสลิมประชาธิปไตยอย่างตุรกี ซึ่งมีชุมชนชาวอุยกูร์อยู่แล้ว และตุรกีเองก็เต็มใจรับ ถึงขั้นออกมาขอตั้งแต่ปีที่แล้วให้ไทยส่งชาวอุยกูร์ที่จับได้และกักตัวไว้ที่สงขลาไปที่ตุรกี และเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ไทยเองก็ส่งชาวอุยกูร์ 173 คนไปให้ตุรกีแล้ว แต่ต่อมากลับส่งชาวอุยกูร์กลุ่มที่สองให้จีนเสียนี่ โดยบอกว่าเพราะกลุ่มนี้พิสูจน์สัญชาติแล้วเป็นจีน
ส่วนหนีทำไมถ้าถามตุรกี ตุรกีตอบว่าพวกเขาแค่อยากรอดพ้นจากการกดขี่ของจีน ไม่ต้องเสี่ยงชีวิต และมีโอกาสปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเสรี
แต่ถ้าถามจีน เชื่อว่าพวกนี้ออกมาเพื่อไปฝึกกับกองกำลังมุสลิมในต่างชาติ เตรียมกลับไปรบแบ่งแยกดินแดนที่ซินเจียงอีกที
รอบนี้จึงไม่แปลกที่ตุรกีโกรธไทย ส่วนจีนโยงเข้าให้ว่าชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ จริงๆตั้งใจจะเดินทางไปร่วมกับ ISIS
แล้วจะมาเมืองไทยกันทำไม?
เปล่า เขาไม่ได้อยากมาอยู่กับเรา เราเป็นแค่ทางผ่านขณะที่พวกเขาพยายามเดินทางไปตุรกีแบบผิดกฎหมาย แต่เราดันจับได้ซะก่อน
เคยมีใครส่งเขากลับแบบเราไหม?
เคย เช่น กัมพูชาเมื่อปี 2009 ส่งชาวอุยกูร์ที่หนีออกมา 20 คนกลับไปเมืองจีนจนรัฐบาลจีนออกมาขอบคุณ (แต่สหรัฐและ UN ประณามเช่นกันกับที่เราโดน)
หลังจากนั้น 2 วัน กัมพูชาก็เซ็นสัญญารับเงินช่วยเหลือและเงินกู้จากจีน 14 ฉบับ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แล้วพวกที่ส่งกลับไปเป็นไงบ้าง?
2 คนได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ที่เหลือก็โดนกันไปคนละ 16-17 ปี ข้อหาแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย เดินทางผิดกฎหมาย แต่กลุ่มทำงานด้านสิทธิมนุษยชนบอกว่า เป็นเพราะพวกเขาเป็นพยานเห็นเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงปราบจลาจลเมื่อปี 2009
สรุปอุยกูร์ เกี่ยวอะไรกับกรู?
ตอนนี้คนไทยในตุรกีต้องอยู่อย่างระมัดระวังมากๆ เพราะชาวอุยกูร์ในตุรกียังคงเคืองกับการตัดสินใจครั้งนี้ของเรา
ส่วนข้างล่างคือวิดีโอแสดงภาพการคุมตัวชาวอุยกูร์ของทางการจีนที่รับปากว่าพวกเขาจะปลอดภัยและเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ดูแล้วคิดว่ามันปลอดภัยและยุติธรรมไหม
แต่เราทำตามขั้นตอน พิสูจน์สัญชาติ พบว่าเป็นคนจีนก็ส่งกลับประเทศ ผิดตรงไหน?
ถึงไม่ได้เป็นห่วงอะไรชาวอุยกูร์ มันก็ผิดตรงขัดกับหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศนี่ล่ะจ้ะ (ย้อนไปอ่านข้างบน) และเราไม่มีสิทธิอ้างว่าไม่รู้
นี่ไม่เกี่ยวกับการชอบหรือไม่ชอบลุงตู่ เป็นเรื่องเป็นไปได้อย่างยิ่งที่นายกฯจะไม่รู้กฎเหล่านี้ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่รัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วยนักกฎหมายระหว่างประเทศมากมายในกระทรวงการต่างประเทศจะอ้างว่าไม่รู้กฎข้อนี้
เรื่องมากจัง แล้วจะต้องทำยังไงถึงจะถูก?
ตุรกีเขารออยู่ คราวหลังก็ส่งไปได้นะ