ความจริงของเรื่องอาชญาบัตร
สมัยปีก่อนประมาณปี. 2531 ที่บ้านของผมได้ไปทำการประมงร่วมกับประเทศพม่า สมัยนั้นใช้เรือ (อวนลากเดี่ยว) จนกระทั่งปลายปี. 2536 การประมงไทย-พม่าได้ปิดทำการหรือที่เรียกว่า "ปิดตั๋ว" ไม่ให้เรือประมงไทยไปจับสัตว์ในน่านน้ำพม่าได้ ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา พ่อของผมจึงได้นำเรือมาทำการประมงแบบ (อวนลากคู่)
####[ประเดนอยู่ตรงนี้]####
พ่อของผมก็ได้ไปขอต่ออาชญาบัตร กับเจ้าหน้าที่. เพื่อที่จะออกอาชญาบัตรใบใหม่ให้ถูกต้อง เป็น [เรืออวนลากคู่] เดิมมีอาชญาบัตร ลากเดี่ยว 2 ใบ. ใบละ600 รวมเป็น 1200 แต่ถ้าเป็นเรือลากคู่ จะเสียแค่ใบเดียว 600 บาทต่อปี. ผู้ออกอาชญาบัตร พูดว่า "เสียภาษีให้รัฐ ต่อปี อีก 600บาทไม่ได้หรือ" ซึ่งพ่อผมก็บอกว่าได้ โดยไม่รู้ว่ามันจะร้ายแรงถึงขั้นจะทำมาหากินไม่ได้ในอนาคต ซึ่งก็เป็นความผิดเรื่อยมา เพราะทุกปีไปต่อเจ้าหน้าที่ก็จะพูดคำเดิม. เสมอ ซึ่งพ่อของผมก็พยายามทุกปี
หลังจากปี 2539 ได้ปิดการจด อาชญาบัตร ซึ่งทำให้เราชาวประมง ก็ทำได้แต่ก้มหน้ารับชตากรรม แบบนี้มาโดยตลอด
ซึ่งในกฎหมายปัจจุบัน 15 ข้อเราชาวประมงสามารถทำให้ได้ 14 ข้อ เว้นแต่เรื่อง. อาชญาบัตรเรื่องเดียว. ที่ยังไม่มีทางออกให้กับพวกเราชาวประมง
และถ้ามีคนถามว่าทำไมไม่กลับไปใช้เครื่องมือ ตามอาชญาบัตรเดิม
เหตุผลเพราะว่า เราจะต้องลงทุนเพิ่มอีก 1-2ล้านบาท เพื่อทำการแปลงเครื่องมือ ซึ่งใช้เวลา อีก 2-3 เดือนถึงจะแล้วเสร็จ แล้วในเวลา2-3เดือนนี้ คนงานที่เราไปจดทะเบียนไว้ 20 คนเราต้องจ่ายค่าจ้าง ทุกคนรายวัน ร่วมเดือนเดือนนึงประ มาน. แสน8หมื่นบาท. ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีมาตรการของรัฐบาลมารองรับในเรื่องนี้.
ลูกหลานชาวประมง (ความจริงเรื่องของอาชญาบัตร)
สมัยปีก่อนประมาณปี. 2531 ที่บ้านของผมได้ไปทำการประมงร่วมกับประเทศพม่า สมัยนั้นใช้เรือ (อวนลากเดี่ยว) จนกระทั่งปลายปี. 2536 การประมงไทย-พม่าได้ปิดทำการหรือที่เรียกว่า "ปิดตั๋ว" ไม่ให้เรือประมงไทยไปจับสัตว์ในน่านน้ำพม่าได้ ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา พ่อของผมจึงได้นำเรือมาทำการประมงแบบ (อวนลากคู่)
####[ประเดนอยู่ตรงนี้]####
พ่อของผมก็ได้ไปขอต่ออาชญาบัตร กับเจ้าหน้าที่. เพื่อที่จะออกอาชญาบัตรใบใหม่ให้ถูกต้อง เป็น [เรืออวนลากคู่] เดิมมีอาชญาบัตร ลากเดี่ยว 2 ใบ. ใบละ600 รวมเป็น 1200 แต่ถ้าเป็นเรือลากคู่ จะเสียแค่ใบเดียว 600 บาทต่อปี. ผู้ออกอาชญาบัตร พูดว่า "เสียภาษีให้รัฐ ต่อปี อีก 600บาทไม่ได้หรือ" ซึ่งพ่อผมก็บอกว่าได้ โดยไม่รู้ว่ามันจะร้ายแรงถึงขั้นจะทำมาหากินไม่ได้ในอนาคต ซึ่งก็เป็นความผิดเรื่อยมา เพราะทุกปีไปต่อเจ้าหน้าที่ก็จะพูดคำเดิม. เสมอ ซึ่งพ่อของผมก็พยายามทุกปี
หลังจากปี 2539 ได้ปิดการจด อาชญาบัตร ซึ่งทำให้เราชาวประมง ก็ทำได้แต่ก้มหน้ารับชตากรรม แบบนี้มาโดยตลอด
ซึ่งในกฎหมายปัจจุบัน 15 ข้อเราชาวประมงสามารถทำให้ได้ 14 ข้อ เว้นแต่เรื่อง. อาชญาบัตรเรื่องเดียว. ที่ยังไม่มีทางออกให้กับพวกเราชาวประมง
และถ้ามีคนถามว่าทำไมไม่กลับไปใช้เครื่องมือ ตามอาชญาบัตรเดิม
เหตุผลเพราะว่า เราจะต้องลงทุนเพิ่มอีก 1-2ล้านบาท เพื่อทำการแปลงเครื่องมือ ซึ่งใช้เวลา อีก 2-3 เดือนถึงจะแล้วเสร็จ แล้วในเวลา2-3เดือนนี้ คนงานที่เราไปจดทะเบียนไว้ 20 คนเราต้องจ่ายค่าจ้าง ทุกคนรายวัน ร่วมเดือนเดือนนึงประ มาน. แสน8หมื่นบาท. ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีมาตรการของรัฐบาลมารองรับในเรื่องนี้.