สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ประชานิยม คือเม็ดเงินที่หมุนเวียนในประเทศ
เงินกระเป๋าซ้ายออกแล้วเข้ากระเป๋าขวา
พอกระเป๋าขวามือเงินก็ใช้จ่าย กระเป๋าซ้ายก็รับกลับมาในรูปแบบภาษี
แต่งบทหารซื้ออาวุธ เป็นเงินที่ไหลออกอย่างเดียว
ถ้าในกระเป๋ามีเงินเหลือเยอะก็ไม่ว่ากัน เหมือนเจ้าของธุรกิจเบียร์ จะไปซื้อลัมโบกินี่ ก็เรื่องของเขา
แต่ทุกวันนี้ พูดทุกวันให้ช่วยกันประหยัด ไม่เหลือเงินช่วยเหลือเกษตกรแล้วเพราะค้าขายไม่ดี แต่กลับคิดจะเอาเงินออกจากกระเป๋าไปซื้อของที่ไม่จำเป็น"เร่งด่วน" ถึงถูกต่อต้านอย่างที่เห็น มันแปลกตรงไหนหรือฮ้า
เงินกระเป๋าซ้ายออกแล้วเข้ากระเป๋าขวา
พอกระเป๋าขวามือเงินก็ใช้จ่าย กระเป๋าซ้ายก็รับกลับมาในรูปแบบภาษี
แต่งบทหารซื้ออาวุธ เป็นเงินที่ไหลออกอย่างเดียว
ถ้าในกระเป๋ามีเงินเหลือเยอะก็ไม่ว่ากัน เหมือนเจ้าของธุรกิจเบียร์ จะไปซื้อลัมโบกินี่ ก็เรื่องของเขา
แต่ทุกวันนี้ พูดทุกวันให้ช่วยกันประหยัด ไม่เหลือเงินช่วยเหลือเกษตกรแล้วเพราะค้าขายไม่ดี แต่กลับคิดจะเอาเงินออกจากกระเป๋าไปซื้อของที่ไม่จำเป็น"เร่งด่วน" ถึงถูกต่อต้านอย่างที่เห็น มันแปลกตรงไหนหรือฮ้า
ความคิดเห็นที่ 4
💶💶💶---มองต้นเหตุวิกฤตกรีซ จากนโยบายรัฐ ผลที่อาจตามมาต่อการค้าและเศรษฐกิจไทย---💶💶💶
(อ่านที่เหลือได้จากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/33882136 )
สาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจกรีซนั้น เริ่มมาจาก การขาดดุลภาครัฐของรัฐบาล โดยในปีพ.ศ. 2552 การขาดดุลการคลังของกรีซอยู่ที่ 12.7% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าระดับที่เหมาะสมที่ทางกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดไว้ถึงประมาณ 4 เท่าตัว (เพดานของ The Stability and Growth Pact (SGP) โดยกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดไว้ที่ระดับไม่เกิน 3% ของ GDP)
การขาดดุลภาครัฐของรัฐบาลนั้นส่งผลให้หนี้ของภาครัฐของกรีซเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 170% ของ GDP
เศรษฐกิจของกรีซมีความเปราะบางมาก ซึ่งปัญหาหลักเกิดจากการส่งออกไม่ได้ และการที่รัฐบาลใช้จ่ายเกินตัว
หลังจากที่กรีซใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักของประเทศเมื่อ พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นการเปิดประตูเข้าสู่ตลาดการเงินโลก ทำให้กรีซสามารถกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้น เพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเงินยูโร โดยตั้งแต่กรีซได้เป็นสมาชิกยูโรโซน( เหมือนตอน bibf )รัฐบาลกรีซก็ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการสูงๆ มีโครงการต่างๆ มากมาย เพราะหาเงินได้ง่ายๆ ด้วยการก่อหนี้ ค่าใช้จ่ายภาครัฐจึงสูงมาก ในขณะที่ รายได้จากการเก็บภาษีนั้นไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
เกิดเหตุการณ์ค่าเงินยูโรแข็งค่าเกิดขึ้น ทำให้ความสามารถในการส่งออกลดลง แต่กรีซไม่สามารถทำอะไรกับค่าเงินได้ เพราะเป็นเงินสกุลร่วมที่ใช้ร่วมกัน 16 ชาติ อีกทั้งยังทำให้การดำเนินนโยบายการเงินการคลังของกรีซไม่คล่องตัวเท่าที่ควร จริงๆ แล้ว เมื่อเศรษฐกิจทรุดตัวลง ค่าเงินควรจะอ่อน แต่เมื่อผูกกับยูโรซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
ฐานะการคลังของประเทศซึ่งย่ำแย่ตั้งแต่ใช้เงินถึง 9,000 – 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกในปี 2547 และมีการขาดดุลงบประมาณ 3.2% ของจีดีพีมาตั้งแต่ปีนั้นยิ่งทำให้เศรษฐกิจกรีซทรุดตัวมากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ทำให้รัฐบาลมีภาระจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นและเมื่อค่าเงินแข็งขึ้น การนำเข้าสินค้าของกรีซก็เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมในประเทศมีการแข่งขันอย่างดุเดือดขึ้น อีกทั้งกรีซมีรายได้จากการบริการเดินเรือและการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยมีแรงงานถึง 60% อยู่ในภาคบริการ เมื่อเศรษฐกิจโลกทรุดตัว การค้าโลกลดลงเป็นอย่างมาก ภาคการท่องเที่ยวและ อุตสาหกรรมเดินเรือจึงถูกกระทบ
ย้อนวิกฤติกรีซ!สาเหตุหนึ่งเกิดจากทุ่มงบทหารเกินตัว-ใช้เงินแสนล้านซื้อเรือดำน้ำ
กรีซเริ่มเผชิญปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงปี 2010 แม้ว่าภาครัฐจะรู้ (หรือไม่รู้) ในเรื่องนี้ แต่ยังคงทุ่มงบจำนวนมากในการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพ ทั้งที่กรีซเป็นประเทศขนาดเล็กมีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่กลับเป็นประเทศที่นำเข้าอาวุธสงครามสูงที่สุดในแถบยุโรปหรือคิดเป็นอันดับ 5 ของโลก หากคิดเป็นสัดส่วน GDP จะพบว่ากรีซมีการใช้งบประมาณทางทหารเกือบสูงที่สุดในยุโรป
ขณะที่เมื่อปี 2010 กรีซซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำจากเยอรมนีมูลค่า 1.3 พันล้านยูโร เรือรบขนาดใหญ่ 6 ลำและเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยอีก 15 ลำจากฝรั่งเศส รวมถึงเครื่องบินรบ F-16 อีกกว่า 20 ลำจากสหรัฐ ที่คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพูดได้ว่ากรีซเป็นประเทศที่มีรถถังมากถึง 1,300 คัน มากกว่าประเทศอังกฤษถึงสองเท่า
ด้านสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ในปีที่ผ่านมานั้นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกรีซทุ่มเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2แสนล้านบาท) ในการซื้อเรือดำน้ำที่ยังต่อไม่เสร็จ ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในกรุงเอเธนส์
โดยสำนักข่าวบิซิเนสอินไซด์เดอร์เผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลกรีซทุ่มงบประมาณมหาศาลให้กับกองทัพมากที่สุดแม้ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากแค้น มาจากเหตุผล 3 ประการ 1. งบประมาณเหล่านั้นเป็นเงินเดือนให้กับบุคลากรกองทัพ 2. การเมืองระดับภูมิภาค 3. ความกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับกองทัพนั้นเป็นโครงการที่ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด
สรุปปัญหาของกรีซ รายได้และค่าใช้จ่าย
รายได้อันดับหนึ่งของประเทศ คือการท่องเที่ยว และการเดินเรือ
ขณะที่มีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่มีข้าราชการถึง 1 ล้านคน เท่ากับข้าราชการ 1 คนต่อประชากร 10 คน ถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก รายจ่ายประจำก็แทบไม่เหลืองบลงทุนเลย
- รายจ่ายภาครัฐอันดับหนึ่งคือเงินเดือนข้าราชการ และมีการขึ้นเรื่อยๆแถมด้วยโบนัส
- ค่าใช้จ่ายบำนาญ และสวัสดิการผู้ตกงาน
- การจัดซื้ออาวุธทางการทหารที่เกินตัว และคอรัปชั่นสูงมาก
- การจัด Olympic ที่สร้างหนี้อีกมหาศาล
- การใช้เงินยูโร ด้วยความไม่พร้อม ทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและมีแต่กู้มาใช้จ่าย
- การหลบเลี่ยงภาษี tax evasion ( ขอบคุณ คุณผึ้งน้อยพเนจรครับ )
การใช้เงินยูโร ทำให้ Greece ไม่มีเสรีภาพในการกำหนดนโยบายค่าเงิน ถ้าเป็นเงินสกุลพื้นฐานเงินควรอ่อนค่าตามภาวะอ่อนแอของประเทศ สามารถช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และการค้าได้บ้าง
(อ่านที่เหลือได้จากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/33882136 )
สาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจกรีซนั้น เริ่มมาจาก การขาดดุลภาครัฐของรัฐบาล โดยในปีพ.ศ. 2552 การขาดดุลการคลังของกรีซอยู่ที่ 12.7% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าระดับที่เหมาะสมที่ทางกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดไว้ถึงประมาณ 4 เท่าตัว (เพดานของ The Stability and Growth Pact (SGP) โดยกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดไว้ที่ระดับไม่เกิน 3% ของ GDP)
การขาดดุลภาครัฐของรัฐบาลนั้นส่งผลให้หนี้ของภาครัฐของกรีซเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 170% ของ GDP
เศรษฐกิจของกรีซมีความเปราะบางมาก ซึ่งปัญหาหลักเกิดจากการส่งออกไม่ได้ และการที่รัฐบาลใช้จ่ายเกินตัว
หลังจากที่กรีซใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักของประเทศเมื่อ พ.ศ. 2544 ซึ่งเป็นการเปิดประตูเข้าสู่ตลาดการเงินโลก ทำให้กรีซสามารถกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้น เพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเงินยูโร โดยตั้งแต่กรีซได้เป็นสมาชิกยูโรโซน( เหมือนตอน bibf )รัฐบาลกรีซก็ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการสูงๆ มีโครงการต่างๆ มากมาย เพราะหาเงินได้ง่ายๆ ด้วยการก่อหนี้ ค่าใช้จ่ายภาครัฐจึงสูงมาก ในขณะที่ รายได้จากการเก็บภาษีนั้นไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
เกิดเหตุการณ์ค่าเงินยูโรแข็งค่าเกิดขึ้น ทำให้ความสามารถในการส่งออกลดลง แต่กรีซไม่สามารถทำอะไรกับค่าเงินได้ เพราะเป็นเงินสกุลร่วมที่ใช้ร่วมกัน 16 ชาติ อีกทั้งยังทำให้การดำเนินนโยบายการเงินการคลังของกรีซไม่คล่องตัวเท่าที่ควร จริงๆ แล้ว เมื่อเศรษฐกิจทรุดตัวลง ค่าเงินควรจะอ่อน แต่เมื่อผูกกับยูโรซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
ฐานะการคลังของประเทศซึ่งย่ำแย่ตั้งแต่ใช้เงินถึง 9,000 – 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกในปี 2547 และมีการขาดดุลงบประมาณ 3.2% ของจีดีพีมาตั้งแต่ปีนั้นยิ่งทำให้เศรษฐกิจกรีซทรุดตัวมากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ทำให้รัฐบาลมีภาระจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นและเมื่อค่าเงินแข็งขึ้น การนำเข้าสินค้าของกรีซก็เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมในประเทศมีการแข่งขันอย่างดุเดือดขึ้น อีกทั้งกรีซมีรายได้จากการบริการเดินเรือและการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยมีแรงงานถึง 60% อยู่ในภาคบริการ เมื่อเศรษฐกิจโลกทรุดตัว การค้าโลกลดลงเป็นอย่างมาก ภาคการท่องเที่ยวและ อุตสาหกรรมเดินเรือจึงถูกกระทบ
ย้อนวิกฤติกรีซ!สาเหตุหนึ่งเกิดจากทุ่มงบทหารเกินตัว-ใช้เงินแสนล้านซื้อเรือดำน้ำ
กรีซเริ่มเผชิญปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงปี 2010 แม้ว่าภาครัฐจะรู้ (หรือไม่รู้) ในเรื่องนี้ แต่ยังคงทุ่มงบจำนวนมากในการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพ ทั้งที่กรีซเป็นประเทศขนาดเล็กมีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่กลับเป็นประเทศที่นำเข้าอาวุธสงครามสูงที่สุดในแถบยุโรปหรือคิดเป็นอันดับ 5 ของโลก หากคิดเป็นสัดส่วน GDP จะพบว่ากรีซมีการใช้งบประมาณทางทหารเกือบสูงที่สุดในยุโรป
ขณะที่เมื่อปี 2010 กรีซซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำจากเยอรมนีมูลค่า 1.3 พันล้านยูโร เรือรบขนาดใหญ่ 6 ลำและเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยอีก 15 ลำจากฝรั่งเศส รวมถึงเครื่องบินรบ F-16 อีกกว่า 20 ลำจากสหรัฐ ที่คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพูดได้ว่ากรีซเป็นประเทศที่มีรถถังมากถึง 1,300 คัน มากกว่าประเทศอังกฤษถึงสองเท่า
ด้านสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ในปีที่ผ่านมานั้นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกรีซทุ่มเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2แสนล้านบาท) ในการซื้อเรือดำน้ำที่ยังต่อไม่เสร็จ ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในกรุงเอเธนส์
โดยสำนักข่าวบิซิเนสอินไซด์เดอร์เผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลกรีซทุ่มงบประมาณมหาศาลให้กับกองทัพมากที่สุดแม้ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากแค้น มาจากเหตุผล 3 ประการ 1. งบประมาณเหล่านั้นเป็นเงินเดือนให้กับบุคลากรกองทัพ 2. การเมืองระดับภูมิภาค 3. ความกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับกองทัพนั้นเป็นโครงการที่ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด
สรุปปัญหาของกรีซ รายได้และค่าใช้จ่าย
รายได้อันดับหนึ่งของประเทศ คือการท่องเที่ยว และการเดินเรือ
ขณะที่มีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่มีข้าราชการถึง 1 ล้านคน เท่ากับข้าราชการ 1 คนต่อประชากร 10 คน ถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก รายจ่ายประจำก็แทบไม่เหลืองบลงทุนเลย
- รายจ่ายภาครัฐอันดับหนึ่งคือเงินเดือนข้าราชการ และมีการขึ้นเรื่อยๆแถมด้วยโบนัส
- ค่าใช้จ่ายบำนาญ และสวัสดิการผู้ตกงาน
- การจัดซื้ออาวุธทางการทหารที่เกินตัว และคอรัปชั่นสูงมาก
- การจัด Olympic ที่สร้างหนี้อีกมหาศาล
- การใช้เงินยูโร ด้วยความไม่พร้อม ทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและมีแต่กู้มาใช้จ่าย
- การหลบเลี่ยงภาษี tax evasion ( ขอบคุณ คุณผึ้งน้อยพเนจรครับ )
การใช้เงินยูโร ทำให้ Greece ไม่มีเสรีภาพในการกำหนดนโยบายค่าเงิน ถ้าเป็นเงินสกุลพื้นฐานเงินควรอ่อนค่าตามภาวะอ่อนแอของประเทศ สามารถช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และการค้าได้บ้าง
แสดงความคิดเห็น
เพราะประชานิยม กรีซถึงได้ล้มละลาย แต่ทำไมราชดำเนิน ถึงว่าพังเพราะงบการทหาร
ไปอ่านกระทู้แนะนำห้องสีลมดูบ้างนะพวก
อย่ามัวครื้นเครงในกะลา
ต้นแบบประชาธิปไตยเลยนะนั่น
เจ๊งกะบ้งตามข้าวลายจุดไปติดๆ
ดีแล้วที่ ขับไล่ตัวหายนะผ่อนส่งออกไปได้