เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
เมื่อวานผมพอมีเวลาว่าง เลยนั่งไล่ลบไฟล์เก่าๆ หรืองานที่ไม่ได้ทำแล้วในคอมพิวเตอร์ออกไป
ขณะที่ไล่ลบไปเรื่อยๆ ผมก็แอบคิดไม่ได้ว่า ไฟล์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็น “สิ่งไม่จำเป็น” และ “ควรถูกลบทิ้ง”
ครั้งหนึ่ง เคยเป็น “สิ่งที่จำเป็นมากๆ” และ “ห้ามลบทิ้งเด็ดขาด”
หลายๆเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ก็คงไม่ต่างอะไรกับไฟล์เหล่านี้
วันหนึ่งเราคิดว่า มันเป็นเรื่องใหญ่ ที่สำคัญต่อชีวิตเรามาก
แต่พอเวลาผ่านไป มันก็กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เราไม่ได้ใส่ใจ หรือนึกถึงมัน
เวลาจะลบไฟล์งานในคอมพิวเตอร์ คนที่พอจะเชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์อยู่บ้างก็คงจะรู้ดีว่า
ถ้าเราอยากลบไฟล์ใดไฟล์หนึ่งออกไปจากคอมพิวเตอร์ของเราอย่างถาวร ชนิดที่ไม่มีวันจะเรียกกลับมาได้อีกเลย
เราก็เพียงแค่กดปุ่ม Shift+Del เพียงแค่สามปุ่มเท่านั้น แล้วไฟล์ตรงหน้าเราก็จะหายวับไป
ราวกับมันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเราเลย แต่กับเรื่องราวในชีวิต เราทำอย่างนั้นได้รึเปล่า?
คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เราจึงไม่สามารถเลือกกดปุ่มอะไรก็ได้สามปุ่ม
แล้วลบเรื่องราวบางอย่างที่เราไม่ต้องการ ออกไปจากความทรงจำได้ทันที
เรื่องบางเรื่อง ที่ทำให้เราร้องไห้ เสียใจทุกครั้งที่นึกถึงมัน หลายคนจึงมักตั้งคำถามกับคนรอบข้างว่า
"เมื่อไหร่ เราถึงจะลืมมันได้สักที"
การคิดถึงวันเวลาดีๆ และความสุขในอดีต บางครั้งก็อาจนำพาความทุกข์มาให้เราในปัจจุบันได้เหมือนกัน
อย่าพยายามบอกใครให้ลืมเรื่องราวแย่ๆ ไม่มีใครบนโลกนี้ทำได้หรอก
แต่เชื่อผมเถอะ "เวลาจะทำให้อะไรๆดีขึ้น" ผมไม่ได้บอกว่า เวลาจะช่วยให้เรื่องราวเหล่านั้น “ดีขึ้น”
แต่ผมเชื่อว่า เวลาจะทำให้เรื่องราวเหล่านั้นค่อยๆ “หมดความสำคัญ” ลงไปเอง
เหมือนกับไฟล์งานที่ผมกำลังนั่งไล่ลบอยู่ตอนนี้นั่นแหละ
วันหนึ่ง ในอีกปี สองปี หรือสิบปีข้างหน้า เมื่อคุณกลับมาเจอกับคนที่ทำให้คุณร้องไห้ได้อย่างมากมาย
คุณอาจแปลกใจที่พบว่าตัวเอง แทบจะจำไม่ได้แล้ว ว่าเรื่องราวที่ทำให้คุณกินไม่ได้ นอนไม่หลับในวันนั้นมันคือเรื่องอะไร
คุณอาจแปลกใจที่พบว่าตัวเอง สามารถยิ้ม พูดคุย ทักทายกับใครคนนั้นได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ คุณอาจเคยคิดว่า
คงต้องทนไม่ได้แน่ๆ หากต้องเห็นหน้าเขาอีก เรื่องราวในอดีต อาจรื้อฟื้นกลับคืนมา แต่มันอาจไม่ได้ทำร้ายเรา
ให้เจ็บปวดได้เหมือนในวันนั้นอีกแล้ว เวลาอาจทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น หรือไม่มันก็คงทำให้เรื่องราวเหล่านั้น อ่อนกำลังลงไป
ถ้าไม่เชื่อ คุณลองนั่งไล่ลบไฟล์งานเก่าๆในคอมพิวเตอร์คุณดูก็ได้
คุณอาจจะได้เจอกับไฟล์บางไฟล์ที่คุณเคยตั้งใจเก็บมันไว้ แต่พอมาวันนี้ คุณกำลังจะกดลบมันทิ้ง
เพราะมันไม่มีความสำคัญ เหมือนในวันนั้นอีกต่อไปแล้ว หรือไฟล์บางไฟล์ก็แทบจะจำไม่ได้เลยว่าเคยมีมันอยู่
ทั้งๆที่ครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นไฟล์ที่สำคัญเอามากๆ
เรื่องราวหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา ก็เป็นเหมือนไฟล์หลายๆไฟล์ที่เราเก็บมันเอาไว้
ในหน่วยความจำของสมองเรานั่นแหละครับ
วันนี้..เราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่เรา “ลืมไม่ได้”
แต่วันหนึ่ง มันอาจจะกลายเป็นเรื่องราวที่เรา “จำไม่ได้” ไปแล้วก็เป็นได้
เคยมีมั๊ย? เรื่องที่เรา...ลืมไม่ลง
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
เมื่อวานผมพอมีเวลาว่าง เลยนั่งไล่ลบไฟล์เก่าๆ หรืองานที่ไม่ได้ทำแล้วในคอมพิวเตอร์ออกไป
ขณะที่ไล่ลบไปเรื่อยๆ ผมก็แอบคิดไม่ได้ว่า ไฟล์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็น “สิ่งไม่จำเป็น” และ “ควรถูกลบทิ้ง”
ครั้งหนึ่ง เคยเป็น “สิ่งที่จำเป็นมากๆ” และ “ห้ามลบทิ้งเด็ดขาด”
หลายๆเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ก็คงไม่ต่างอะไรกับไฟล์เหล่านี้
วันหนึ่งเราคิดว่า มันเป็นเรื่องใหญ่ ที่สำคัญต่อชีวิตเรามาก
แต่พอเวลาผ่านไป มันก็กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เราไม่ได้ใส่ใจ หรือนึกถึงมัน
เวลาจะลบไฟล์งานในคอมพิวเตอร์ คนที่พอจะเชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์อยู่บ้างก็คงจะรู้ดีว่า
ถ้าเราอยากลบไฟล์ใดไฟล์หนึ่งออกไปจากคอมพิวเตอร์ของเราอย่างถาวร ชนิดที่ไม่มีวันจะเรียกกลับมาได้อีกเลย
เราก็เพียงแค่กดปุ่ม Shift+Del เพียงแค่สามปุ่มเท่านั้น แล้วไฟล์ตรงหน้าเราก็จะหายวับไป
ราวกับมันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเราเลย แต่กับเรื่องราวในชีวิต เราทำอย่างนั้นได้รึเปล่า?
คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เราจึงไม่สามารถเลือกกดปุ่มอะไรก็ได้สามปุ่ม
แล้วลบเรื่องราวบางอย่างที่เราไม่ต้องการ ออกไปจากความทรงจำได้ทันที
เรื่องบางเรื่อง ที่ทำให้เราร้องไห้ เสียใจทุกครั้งที่นึกถึงมัน หลายคนจึงมักตั้งคำถามกับคนรอบข้างว่า
"เมื่อไหร่ เราถึงจะลืมมันได้สักที"
การคิดถึงวันเวลาดีๆ และความสุขในอดีต บางครั้งก็อาจนำพาความทุกข์มาให้เราในปัจจุบันได้เหมือนกัน
อย่าพยายามบอกใครให้ลืมเรื่องราวแย่ๆ ไม่มีใครบนโลกนี้ทำได้หรอก
แต่เชื่อผมเถอะ "เวลาจะทำให้อะไรๆดีขึ้น" ผมไม่ได้บอกว่า เวลาจะช่วยให้เรื่องราวเหล่านั้น “ดีขึ้น”
แต่ผมเชื่อว่า เวลาจะทำให้เรื่องราวเหล่านั้นค่อยๆ “หมดความสำคัญ” ลงไปเอง
เหมือนกับไฟล์งานที่ผมกำลังนั่งไล่ลบอยู่ตอนนี้นั่นแหละ
วันหนึ่ง ในอีกปี สองปี หรือสิบปีข้างหน้า เมื่อคุณกลับมาเจอกับคนที่ทำให้คุณร้องไห้ได้อย่างมากมาย
คุณอาจแปลกใจที่พบว่าตัวเอง แทบจะจำไม่ได้แล้ว ว่าเรื่องราวที่ทำให้คุณกินไม่ได้ นอนไม่หลับในวันนั้นมันคือเรื่องอะไร
คุณอาจแปลกใจที่พบว่าตัวเอง สามารถยิ้ม พูดคุย ทักทายกับใครคนนั้นได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ คุณอาจเคยคิดว่า
คงต้องทนไม่ได้แน่ๆ หากต้องเห็นหน้าเขาอีก เรื่องราวในอดีต อาจรื้อฟื้นกลับคืนมา แต่มันอาจไม่ได้ทำร้ายเรา
ให้เจ็บปวดได้เหมือนในวันนั้นอีกแล้ว เวลาอาจทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น หรือไม่มันก็คงทำให้เรื่องราวเหล่านั้น อ่อนกำลังลงไป
ถ้าไม่เชื่อ คุณลองนั่งไล่ลบไฟล์งานเก่าๆในคอมพิวเตอร์คุณดูก็ได้
คุณอาจจะได้เจอกับไฟล์บางไฟล์ที่คุณเคยตั้งใจเก็บมันไว้ แต่พอมาวันนี้ คุณกำลังจะกดลบมันทิ้ง
เพราะมันไม่มีความสำคัญ เหมือนในวันนั้นอีกต่อไปแล้ว หรือไฟล์บางไฟล์ก็แทบจะจำไม่ได้เลยว่าเคยมีมันอยู่
ทั้งๆที่ครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นไฟล์ที่สำคัญเอามากๆ
เรื่องราวหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา ก็เป็นเหมือนไฟล์หลายๆไฟล์ที่เราเก็บมันเอาไว้
ในหน่วยความจำของสมองเรานั่นแหละครับ
วันนี้..เราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่เรา “ลืมไม่ได้”
แต่วันหนึ่ง มันอาจจะกลายเป็นเรื่องราวที่เรา “จำไม่ได้” ไปแล้วก็เป็นได้