เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่29มิถุนายน2558แต่รถผมซื้อเมื่อวันที่27ตุลาคม2556 ที่ศูนย์โชว์รูมภูเก็ตสาขาบายพาสปัจจุบันได้ย้ายโชว์รูมใหม่มาตั้งที่ถนนเทพกระษัตรีแต่ต้องเอาออกจากศูนย์จริงๆวันที่7ธันวาคม2556 ( ดูฤกษ์ออกรถ ) ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่29ที่ผ่านมาคือ ตัวเหล็กต่างๆที่อยู่บริเวณห้องเครื่องปรากฏว่าขึ้นสนิมทั้งหมดและขึ้นคลาบเกลือ ได้พารถเข้าศูนย์เพื่อเช็คสภาพที่เกิดสนิมและเคลมรถในส่วนที่เป็นสนิมบริเวณห้องเครื่อง เมื่อช่างมาดูก็ตามว่า" พี่ครับพี่เอารถไปจอดทิ้งไว้ตามชายทะเลหรือเปล่าหรือล้างห้องเครื่องมา " ผมเลยตอบกลับครับว่าไม่ครับเพราะรถส่วนใหญ่ผมใช้รถจักรยานยนต์ส่วนรถยนต์ผมเอาไปใช้เวลาออกต่างจังหวัด(ในจังหวัดภูเก็ตรถติดมากเลยใช้รถจักรยานยนต์มันสะดวกกว่าและรวดเร็ว) หลังจากนั้นทางศูนย์ได้ให้ช่างมาถ่ายรูปในส่วนที่เป็นสนิมและคราบเกลือทั้งหมดเพื่อที่จะทำเรื่องเคลมส่วนที่เป็นสนิมทั้งหมดให้กับสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯพิจารณาว่าอนุมัติภายใน7วัน หลังจากนั้นเมื่อวาน( 07/07/2558)ทางศูนย์ได้โทร.มาหาผมว่าทางสำนักงานไม่อนุมัติ เค้าบอกผมว่ารถของคุณเอาไปจอดบริเวณชายทะเลหรือสถาพอากาศที่มีความกรดสูงหรือไปคุณเอารถไปล้างห้องเครื่อง เท่านั้นแระสิ่งที่ผมได้ฟังเกือบช็อคกับสิ่งที่ผมได้รับรู้ ทั้งๆที่รถผมจอดที่บ้านแถมมีหลังจากบังแสงแดดฝน ทางศูนย์ยังบอกอีกว่าถ้ามีปัญหาหรือขอข้องใจอะไรให้มาสอบถามทางศูนย์ ผมเลยตอบกลับว่าได้พรุ่งนี้ผมเข้าไป วันรุ่งขึ้นก็คือวันนี้( 08/07/2558)ผมได้เข้าไปสอบถามกับพนักงานคนแรก คำตอบที่ถามกลับมาว่าพี่ซื้อรถที่ไหนครับ(ผมนิอยากกระโดดถีบจริงๆถามมาได้ว่าซื้อที่ไหนรถยนต์นะครับไม่ใช่โทรศัทย์ซื้อที่ไหนซ่อมตามร้านค้าไหนก็ได้)ผมซื้อที่นี้ก็ต้องเข้าศูนย์ที่ซื้อล่ะครับเพราะทางศูนย์ต้องมีรายล่ะเอียดกับรถที่ทางศูนย์ที่ได้ขายให้กับลูกค้าตอบกลับไปว่าผมซื้อที่สาขาบายพาสภูเก็ตและย้ายใหม่มาอยู่ที่นี้ เสร็จพนักได้ไปตามผู้ดูแลรถลูกค้าที่มาเคลมปรากฏว่าไม่ยอมมาพบหรือแก้ไขปัณหาให้กับผมแถมบอกลูกน้องเค้าว่าไปโทร.ไปคุยกับสำนักงานใหญ่เอาเองผมโมโหเลยอะไรไม่สนใจรถลูกค้า แสดงว่าคุณซื้อแล้วคุณรับผิดชอบเองหรือโดยที่ทางศูนย์ไม่สนใจแล้วหลังรถออกจากโชว์รูม ผมพูดจริงๆคุณไม่สมควรจะขายรถในประเทศนี้เลย คิดเห็นแก่ได้พอเกิดปัณหาคุณตัดปัณหาออก แล้วผู้บริโภคเองต้องมารับมาซ่อมกับปัณหานี้หรือทั้งๆที่เราไม่ได้ก่อขึ้นเอง