ประสบการณ์ผ่าตัดไส้ติ่งของฉัน!!!! กับอาการที่ไม่เหมือนไส้ติ่งอักเสบ!!!! แต่ก็เป็นไส้ติ่งอักเสบ!!!!

กระทู้สนทนา
เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเลย ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะตัวเองจะได้มีโอกาสนี้กับคนอื่นเค้า
ยาวหน่อยนะอ่านให้จบเถอะนะ ขอร้อง

เริ่มจากวันแรก 1 ก.ค. 58 ช่วงสายๆ
เริ่มรู้สึกปวดท้องน้อยข้างขวาปวดอยู่ข้างเดียวไม่มีอาการอื่นๆเลย
ตอนแรกไม่คิดมากเพราะคิดว่าอาจปวดประจำเดือนเพราะว่าเลยเวลามาแล้วแต่ยังไม่มาสักที
สักพักประมาณ4โมงเย็นเริ่มปวดท้องข้างขวามากขึ้นแล้วก็คลื่นไส้อาเจียน
ความคิดชั่วๆเข้ามาในหัวทันทีโทรไปหาเพื่อนฝากลาป่วยซะเลยไม่ไปเรียนล่ะ
ตกเย็นเริ่มกินอะไรไม่ลงล่ะปวดท้องมากขึ้นคลื่นไส้ตลอดรู้สึกไม่ดีเลยตอนนั้นแต่ยังใจเย็นไม่ไปหาหมอ
พอช่วงประมาณ3ทุ่มเริ่มทนไม่ไหวปวดท้องมากขึ้นคิดอยากจะไปหาหมอเดี๋ยวนั้นเลยแต่ก็ไม่ไปเพราะไม่อยากเจอหมอเวรก็เลยอดทน

พอเช้าวันที่ 2 ก.ค. 58
ตื่นเช้ามาไปฟู้ดแลนด์ไปซื้อของมาทำทงคัสสึทำออกมาเยอะเยะมากมายแต่กินไปแค่2คำก็ไม่เอาแล้ว
ปวดท้องข้างขวาไม่ยอมหายแถมคลื่นไส้ เบื่ออาหารอีกต่างหาก เริ่มมานั่งคิดเพราะไม่เคยปวดท้องขนาดนี้
มานั่งค้นอินเน็ตดูเข้าข่ายไส้ติ่งอักเสบแต่เอ๊ะไข้ก็ไม่มีคงไม่ใช่หรอกมั้ง ยังใจเย็นอยู่เลยนั่งเล่นต่อไปจนกระทั่ง10โมงเช้า
ความอดทนสิ้นสุดลงเพราะปวดท้องมาก+คลื่นไส้ พะอืดพะอม ก็เลยนั่งแท๊กซี่ออกมาโรงพยาบาล
พอมาถึงปุ๊ปเวรเปลที่นี่สุภาพมากสอบถามช่วยเหลือตั้งแต่ลงจากแท๊กซี่เลย
เวรเปล:เป็นอะไรมาครับ
ฉัน:ปวดท้องคะ
เวรเปล:งั้นนั่งรถเข็นเลยนะคะ
ฉัน:คะ(จะไม่นั่งก็เกรงใจเค้ากางรถเข็นรอแล้ว)
เวรเปล:ขอบัตรประชาชนด้วยครับไม่ทราบว่ามีประวัติที่นี่หรือยังครับ
ฉัน:มีคะแล้วก็ยื่นบัตรประชาชนให้
เวรเปลเข็นมาที่แผนกอายุรกรรมก่อนเวรเปลจะกลับยกมือไหว้พร้อมพูดว่า"ขอให้หายเร็วๆนะครับรอหมอสักครู่นะครับ"
หลังจากนั้นพยาบาลก็มาวัดไข้บอกไข้ไม่มีความดันก็ปกติพยาบาลก็เริ่มซักประวัติคร่าวๆ
พยาบาล:เป็นอะไรมาคะ
ฉัน:ปวดท้องคะแล้วก็คลื่นไส้
พยาบาล:ปวดช่วงไหนคะชี้ให้ดูหน่อย
ฉัน:ปวดข้างขวาคะแล้วก็ชี้ให้พยาบาลดู
แล้วพยาบาลก็หันไปคุยกันเอง
พยาบาล1:ไส้ติ่งป่ะ
พยาบาล2:แต่ไม่มีไข้นะ
พยาบาล3:แต่ตำแหน่งปวดมันใช่นะ
แล้วพยาบาลคนเดิมก็หันมาคุยกับเรา
พยาบาล:เดี๋ยวไปนอนรอหมอสักครู่นะ(พร้อมเข็นไปที่เตียง)
พยาบาลมาพยุง2คนพอขึ้นเตียงได้แล้วพยาบาลก็เอากระดาษมาแปะที่เหล็กกันเตียงข้อความประมาณว่าผู้ป่วยเร่งด่วนฉุกเฉิน
ไม่เกิน2นาทีหมอเดินมาที่เตียงพร้อมพยาบาล2คน
หมอ:เป็นอะไรมาครับ
ฉัน:ปวดท้องคะแล้วก็คลื่นไส้อาเจียนมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
หมอ:ท้องเสียหรือเปล่า
ฉัน:ไม่คะ
หมอ:งั้นหมอขอตรวจหน่อยรบกวนเปิดเสื้อขึ้นหน่อย
พยาบาลก็จัดการเปิดเสื้อขึ้นมาหน่อยดึงกางเกงลงไปนิด
หมอก็กดๆเริ่มจากข้างซ้ายก่อนหมอถามเจ็บไหมเราก็ตอบไม่เจ็บจนมาถึงข้างขวาพอหมอกดลงไปปุ๊ปนี่ถึงกับร้องจ๊ากเจ็บมากก
พอหมอเห็นเราร้องจ๊ากหมอก็ยิ่งกดใหญ่เลยกดแต่ที่เดิมด้วยกดซ้ำอยู่5รอบ
หมอ:กดตรงนี้แล้วเจ็บไหม
ฉัน:เจ็บมากกกกกกก
หมอ:แล้วปล่อยแบบนี้เจ็บไหม
ฉัน:เจ็บนะแต่น้อยกว่าตอนโดนกด
หมอ:ทานอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อไร
ฉัน:กินข้าวไปประมาณ9โมงครึ่งกินไป2คำ แต่ประมาณ10โมงก่อนออกมากินน้ำไป
หมอ:ตีสัก10โมงนะมื้อสุดท้าย งั้นหมอขอเจาะเลือดกับตรวจฉี่เพิ่มนะ
ฉัน:คะ

สักพักพยาบาลก็มาพยุงพาไปเข้าห้องน้ำเก็บฉี่พอออกจากห้องน้ำก็มีเจ้าหน้ามาเจาะเลือดถึงเตียงเลย
นอนรอผลเลือดไปพักใหญ่เริ่มเอ๊ะใจทำไมหมอยังไม่มาบอกผลสักทีใจไม่ดีแล้วนะตอนนั้นเลยโทรคุยกับเพื่อน
นอนรอไปอีกสักพักก็มีพยาบาล3คนเวรเปลอีก1คน มารู้ทีหลังว่าตอนนั้นเป็นพยาบาลแผนกอายุรกรรม2คนแผนกศัลยกรรม1คน
พยาบาล:คุณหมอให้ไปหาหมออีกคนนะคะไปหาหมอศัลย(ตึกที่เราอยู่ตอนนี้คือตึก2เป็นตึกใหม่แต่แผนกศัลยกรรมอยู่ตึก1)
เวรเปล:ค่อยๆเปลี่ยนเตียงมาเตียงนี้นะ
เราก็งงเพราะเตียงที่นอนอยู่ก็เป็นเปลเข็นทำไมต้องย้ายอีกแต่นะเจ้าหน้าที่ให้ย้ายก็ย้ายไม่ได้อะไร
พยาบาลกับเวรเปลช่วยพยุงช่วงกับลากกว่าจะย้ายเตียงได้เตียงที่ย้ายไปเป็นเตียงเข็นเล็กมากพอย้ายเสร็จเอาเข็มขัดมาล็อกช่วงขากับช่วงอก
เข็นออกมาถึงหน้าตึกคำตอบของเราก็ปรากฎเป็นรถพยาบาล1คันจอดเปิดประตูรออยู่มีพยาบาลแผนกศัลยกรรม1คนนั่งชวนคุยอยู่บนรถ

ตอนนั้นเริ่มใจแป้วแล้วนะบอกเลยผลตรวจก็ไม่บอกแล้วให้มาหาหมออีกคนใจไม่ดีเลย
พอมาถึงตึก1เวรเปลก็เข็นไปนอนรอหมอที่ห้องฉุกเฉินนอนรอไปสักพักก็โทรคุยกับเพื่อนไปเพราะเริ่มกลัวเริ่มไม่อยากอยู่เงียบๆคนเดียว
สักพักหมอมาตรวจก็จับกดท้องกดจากข้างซ้ายก่อนถามเจ็บไหมเราก็ตอบไปว่าไม่เจ็บ
แล้วหมอก็ย้ายมากดข้างขวาถามเจ็บไหมเราก็ตอบไปเลยว่าเจ็บแล้วก็เหมือนหมอคนแรกพอรู้ว่าเจ๊บปุ๊บก็กดย้ำๆหลายรอบมาก
หมอบอกสงสัยจะเป็นไส้ติ่งอักเสบนะเดี๋ยวหมอจะให้แอดมิดพอหมอพูดแบบนี้จากใจที่แป้วอยู่แล้วก็หายไปอยู่ตาตุ่มเลยจ้า
แล้วก็หมอบอกหมอตรวจเพิ่มนะเดี๋ยวจะให้ซีทีสแกนช่องท้องทั้งบนทั้งล่างโดยจะจ้องสวนสารทึบรังสีแล้วก็ฉีดสารทึบรังสีด้วย
สักพักพยาบาลก็เอาเอกสารมาให้เซ็นต์เพียบเลยทั้งเอกสารเกี่ยวกับประกัน ยินยอมผ่าตัดและอื่นๆ10ใบเห็นจะได้เยอะมาก
แล้วก็เจาะน้ำเกลือพยาบาลบอกเราเส้นเล็กและลึกแต่เข็มต้องใช้เข็มใหญ่เพราะเพื่อผ่าตัดมันใช้เข็มเล็กไม่ได้ตอนนี้เอาเลือดไปตรวจเพิ่มอีก
นอนรอไปสักพักก็ไปทำซีทีเริ่มจากการสวนสารทึบรังสีก่อนทรมานมากอยากถ่ายออกแต่ต้องทนอั้นไว้กว่าจะเสร็จ
พอเสร็จคิดว่าจะได้เข้าห้องน้ำที่ไหนได้ต้องทนฉีดสารทึบรังสีเข้าเส้นก่อนแล้วกว่าจะเสร็จทรมานอ่ะบอกเลย
พอเสร็จเวรเปลก็เข็นกลับไปห้องฉุกเฉินถึงจะได้เข้าห้องน้ำแล้วก็นอนรอผลต่อไปจน4โมงเย็น
ฟังไม่ผิดหรอกมาถึงโรงพยาบาล10:30นี่ปาไปแล้ว4โมงเย็นยังอยู่ห้องฉุกเฉินอยู่เลยเริ่มหงุดหงิดล่ะปวดท้องอ่ะจะทำอะไรก็ไม่ทำเอาไงว่ะเนี่ย

สักพักหมอมาบอกผล
หมอ:ผลซีทีสแกนกับผลเลือดยังไม่ชัดว่าเป็นไส้ติ่งแต่ก็มีโอกาสเป็นไส้ติ่ง80%ซีสต์ในรังไข่20%
เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลมาฉีดยาแก้ปวดให้แล้วให้นอนดูอาการไปก่อน
ฉัน:คะ
แล้วหมอก็เดินหายไปสักพักพยาบาลก็มาพร้อมยาฆ่าเชื้อขวดจิ๋ว1ขวดกับหลอดยาฉีดแก้ปวดก็จัดการฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือก่อน
แล้วก็จัดการแขวนขวดยาฆ่าเชื้อแขวนขึ้นเสาน้ำเกลือได้ก็ต่อเข้ากับสายน้ำเกลือเลย
นอนรอไปอีกสักพักเวรเปลก็มาเข็นพอขึ้นห้องสักทีขึ้นไปถึงห้องพอไปถึงห้องปุ๊บก็ย้ายเตียงเสร็จปุ๊ปวัดไข้วัดความดันสักพักพยาบาลก็เดินมาถามว่าจะเอายาแก้ปวดอีกไหมหมอจ่ายอีกตัวนึงไว้ให้มันแรงกว่าตัวแรกจะได้รู้สึกดีขึ้นเราก็ใจแข็งนะทั้งๆที่อยากได้อยู่แต่ก็เห็นว่าเพิ่งฉีดไปเลยบอกยังคะ

สักพักพยาบาลก็เข้าพร้อมป้ายกระดาษ1แผ่นป้ายพลาสติก3แผ่นมาเสียบไว้ใต้เลขห้องในห้อง
มีป้ายชื่อเรา1แผ่นป้ายงดน้ำงดอาหาร ตวงน้ำ-ตวงปัสสาวะ ห้ามลุกจากเตียงเองโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล
พอพยาบาลออกไปพ่อก็มาเยี่ยมพ่อก็บอกว่าถ้าไม่ได้เป็นไส้ติ่งพรุ่งนี้หมอก็ขอหมอกลับบ้านเถอะเราก็รับคำพ่อนะเพราะไม่อยากอยู่โรงพยาบาล
สักพักพ่อกลับไปอาการปวดที่ไม่ได้หายไปจากยาที่ฉีดเข็มแรกก็กลับมาทำร้ายเราอีกครั้งโดยการปวดมากขึ้นกว่าเดิมจึงตัดสินใจขอยาพยาบาล
สักัพกน้ากับลูกพี่ลูกน้องก็มาเยี่ยมอยู่ได้สักพักก็กลับไปแล้วเราก็ต้องอยู่คนเดียวเริ่มไลน์บอกเพื่อนๆว่าอยู่โรงพยาบาลหมอสงสัยจะเป็นไส้ติ่ง
ตกดึกเพื่อนมาเยี่ยมสักพักก็กลับไปวังเวงนอนโรงพยาบาลคนเดียวซึ่งนอนไม่หลับเลยจนตี2ขอยาพยาบาลก็ได้เป็นแบบธรรมดามาก่อน1เข็ม
ทนปวดไปยันตี4ก็เลยขอยาจากพยาบาลอีกหายไปนานมากเป็นชั่วโมงไม่ได้อะไรเลยจนตี5ขอใหม่ถึงจะได้ยาฉีด
พยาบาลบอกว่าเป็นกลุ่มเดี๋ยวกับมอร์ฟีนฉีดแล้วจะเคลิ้มๆมึนๆหน่อยสักพักก็หลับไปแล้วตื่นมาอีกที6โมงตรง

วันที่ 3 ก.ค. 58
หมออายุรกรรมคนแรกที่เจอมาตรวจตอนประมาณ8โมงบอกหมอสงสัยจะเป็นไส้ติ่งตอนนี้ยังปวดท้องอยู่ไหมขอตรวจท้องหน่อย
แล้วก็เหมือนเดิมเลยคือกดแต่ตรงที่เราเจ็บแล้วก็บอกว่าเดี๋ยวให้หมอศัลยมาดูอีกที
ประมาณ9โมงหมอสูติมาตรวจก็กดท้องดูจากข้างซ้ายแล้วก็ถามว่าเจ็บไหมเราก็ตอบไม่เจ็บจนกระทั่งข้างขวาล่างกดแล้วเราก็บอกว่าเจ็บมากก
หมอบอกสงสัยเราจะท้องบอกจะขอตรวจฉี่เพิ่มเราก็เลยรีบปฏิเสธว่าไม่มีทางท้องเพราะเราไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายเลยจะท้องได้ไง
หมอก็เลยเริ่มเบียงประเด็นมาขอตรวจทางทวารหนักต่ออีกแล้วก็บอกว่าที่เราปวดท้องน่าจะเพราะไส้ติ่งอักเสบ
ประมาณ10โมงหมอศัลยมาตรวจกดท้องกดย้ำๆๆๆแต่ตรงที่เจ็บแล้วก็บอกว่าหมอว่าโอกาสเป็นไส้ติ่งแค่20%
เพราะเราเริ่มปวดท้องมาตั้งแต่วันที่1จนวันนี้วันที่3ปวดมา3วันแล้วถ้าเป็นไส้ติ่งน่าจะแตกไปแล้วหมอจะขอเจาะท้องส่องกล้องตรวจตรงไส้ติ่ง
ถ้าเจาะส่องกล้องแล้วเป็นไส้ติ่งจริงก็ตัดออกแต่ถ้าไม่เป็นก็ค่อยตรวจอย่างอื่นต่อ เราก็งงอ่ะถ้าเจาะไปไม่เจอก็เจ็บตัวฟรีอ่ะดิ
หมอบอกขอเจาะเลือดเพิ่มแล้วถ้าเที่ยงนี้ไม่หายปวดก็ค่อยไปเจาะส่องกล้องเราก็นอนรอไปเที่ยงก็แล้วบ่ายก็แล้วเย็นก็แล้วจนดึกแล้ว
ไม่หายปวดท้องแต่ก็ไม่มีการตรวจเพิ่มใดๆทั้งสิ้นนอนเล่นไปจน3ทุ่มเพื่อนโทรมาบอกจะมาเยี่ยมเราก็ดีใจไม่เหงาแล้ว

สักพัก3ทุ่มมีหมอเดินมาหมอบอกแนะนำตัวเองเลยบอกหมอศัลยคนแรกให้มาช่วยตรวจหมอก็มากดๆท้องเหมือนหลายๆคนก่อนนี้แล้วหมอก็ฟันธงเลยว่าเป็นไส้ติ่งชัวร์ต้องผ่าเลยรอไม่ได้แล้วเพราะปวดมาตั้ง3วันแล้วเดี๋ยวไส้ติ่งแตก
เราก็งงเลยถามหมอไปว่าสรุปเป็นไส้ติ่งจริงอ่ะไข้ก็ไม่มีเนี่ยนะผลเลือดก็ไม่ชัดนะ
หมอบอกอาการของแต่คนะไม่เหมือนกันอาการที่เราบอกไปเป็นอาการของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่ทุกคน
เราก็ตกลงยอมผ่าพอหมออกจากห้องไปก็โทรบอกเพื่อนที่จะเยี่ยมไลน์บอกเพื่อนอัพเฟส

สักพักพยาบาลก็พาลงไปเอ็กซเรย์ปอดกลับขึ้นมาโดนบังคับฉี่พอเสร็จก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดคลุมยาว
นอนรอไปประมาณ3ทุ่มครึ่งเจ้าหน้าที่ก็มาพาลงไปห้องผ่าตัดแต่กว่าจะได้เข้าไปในห้องสำหรับใช้ผ่าตัดจริงๆปาไป4ทุ่ม15แล้ว
พอเข้าไปปุ๊ปก็ต้องย้ายเตียงไปเป็นเตียงผ่าตัดจริงๆความตื่นเต้นมันอยู่ตรงนี้หล่ะทีนี้
วิสัญญีมาคุยด้วยถามว่าจะดมยาหรือบล็อกหลังดีก็เลยตอบว่าขอดมยาดีกว่ากลัว
วิสัญญี:ตอนผ่าตัดจะสอดท่อช่วยหายใจเข้าไปในคอทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ถ้ารู้สึกตัวแล้วไม่ตกใจนะให้หายใจทางปากแทนแล้วถ้าดูดน้ำลายกับเสมหะออกหมดแล้วจะถอดท่อออกให้
ฉัน:คะ
บอกตรงๆตอนนี้จากที่กล้าๆกลัวๆกลายเป็นกลัว100%ไม่เคยผ่าตัดนี่น่าพยาบาลมามุงแขนซ้ายวัดความดันนิ้วมือขวาวัดออกซินเจนในเลือด
แล้วที่หน้าอก3จุดก็ติดแผ่นวัดอัตราการเต้นของหัวใจหลังจากติดเสร็จก็ล็อกขาทันทีระหว่างพยาบาลติดเราหันไปมองนาฬิกา4ทุ่ม45
วิญญีก็เอาหน้ากากมาครอบจมูกบอกให้ดมออกซิเจนรอหมอไปก่อนอึดอัดหน่อยนะเราก็นอนดมไปไม่ถึงนาทีได้ยินเสียงหมอเข้ามาวิญญีบอกว่าใช้ดมยาอาจารย์แล้วก็มาสะกิดบอกเราเดี๋ยวจะปล่อยยาแก้ปวดให้ดมนะให้สูดหายใจเข้าไปให้เต็มปอด(ใครเชื่อว่าเป็นยาแก้ปวดคงโง่น่าดู)สูดไปได้2ทีหลับเลย

รู้สึกตัวอีกทีตอน5ทุ่ม50พยาบาลมาสะกิดเรียกสะลึมสะลือฃืมตามาได้นิดเดียวเจ็บแผลอ่ะแล้วความรู้สึกตามมาคือหายใจไม่ออกอยากจะพูดแต่พูดไม่ได้
ได้แต่ครางฮือออออสักพักเริ่มรู้สึกตัวเต็มที่สมองเริ่มจำคำพูดวิสัญญีได้ว่าให้หายใจทางปากก็โอเคดีขึ้นแต่เจ็บแผลพยาบาลมาฉีดยาแก้ปวดให้สักพักก็เอาท่อออกแล้วเอาหน้ากากมาครอบแทนครางฮืออออตลอดมันเจ็บแผลผ่าอ่ะนอนไปประมาณชั่วโมงนึงเบลอยาที่ฉีดแก้ปวดนะแบบจะมึนๆแต่ยังพอมีสติรู้เรื่อง
หลังจากนอนไปพักใหญ่พยาบาลก็มาบอกจะพากลับห้องนะคะกลับขึ้นมาถึงห้องตี1เจอเพื่อนที่บอกจะมาเยี่ยมนั่งรอเราผ่าตัดอยู่ในห้องซึ้งมากเลยมีเพื่อนแบบนี้คุยกับเพื่อนสักพักในสภาพเสียงแหบแห้งบอกให้เพื่อนนอนเป็นเพื่อนหน่อยเดี๋ยวค่อยกลับเพื่อนก็นอนเป็นเพื่อนนะแต่เรานอนไม่หลับ

ตี2ปวดฉี่ก็เลยกดเรียกพยาบาลพยาบาลไปเอากระโถนมาให้แค่ยกก้นขึ้นนิดเดียวเจ็บแผลมากผู้ช่วยพยาบาลเลยช่วยจับพลิกตะแคงตัวก่อนแล้วดันกระโถนรองแล้วให้พลิกตัวอีกข้างก็จะได้ที่พอดีแต่ก็เจ็บนะพยายามนอนิ่งๆทนๆไปจนตี4เพื่อนตื่นบอกเดี๋ยวกลับก่อนนะเพื่อนก็กลับไปเหลือเราคนเดียวอีกแล้วจนตี5ปวดแผลมากก็เลยขอยาไปแล้วก็เข้าห้องน้ำอีกรอบแต่คราวนี้พยาบาลให้ลุกเดินไปห้องน้ำนี่สินรกของจริงกว่าจะลุกจากเตียงได้กว่าจะก้าวออกแต่ล่ะก้าวเจ็บมากแบบบรรยายไม่ถูกเลยแล้วคิดตอนย่อนั่งชักโครกอีกนะพอเสร็จปุ๊บลุกก็ลำบากเจ็บมากกว่าจะเดินกลับเตียงกว่าจะเอนนอนได้ทรมานโพดๆ

เดี๋ยวมาต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่