สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกๆคนครับ
ออกตัวก่อนเลยว่า อันนี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวแน่ๆ ฮ่าๆ เพราะเก็บภาพได้นิดดดดเดียว มัวแต่เที่ยว มัวแต่อันยอง ซารางเฮ อยู่ 555 รูปเลยไม่เยอะ คิดว่าถ้ารีวิว คงขาดๆ ไม่ต่อเนื่องแน่นอน เลยเล่าเรื่องต่างๆที่ได้เจอในวังเวียง ให้อ่านเล่นๆดีกว่า ทีแรกเล่าไว้ใน Facebook ตัวเอง แต่พิมพ์ไปพิมพ์มาชักเพลิน เลยอยากมาแบ่งประสบการณ์ในห้องนี้บ้าง เผื่อใครยังไม่เคยไป เวลาไปอาจจะลองนำไปเป็นไกด์ได้ครับ
ปีนี้ผมไปเยือนวังเวียงเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยกำหนดการปีนี้ คือ 1 - 5 กรกฎาคม ทุกๆปี ผมจะไปช่วงปลายมิถุนายน-ต้นกรกฎาคม เพราะฝนกำลังมาพอดี แต่ปีนี้ คาดผิด เพราะฝนมาช้าไปหน่อย
ถึงแม้ปีนี้จะเป็นปีที่ 3 ที่ได้ไปเยือนเมืองแห่งภูเขาและแม่น้ำซอง แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ ก็แปลกใหม่เลยทีเดียว จะลองเล่าเป็นข้อๆ นะครับ
1. อากาศแสนร้อน
ปีนี้ฝนมาช้า ทิ้งช่วงนาน ทำให้รอบนี้ที่ไป ร้อนมาก ฝนไม่ตก อดเห็นเมฆหมอกลอยตามภูเขาเลย ด้านล่างนี้คือภาพจากปีก่อน
2.ซากุระบาร์
หากใครสายปาร์ตี้ แนะนำให้ไปเลยครับ เพราะในนั้นคุณจะได้เพื่อนใหม่ๆมากมาย ได้สนุกสนาน ได้เต้น ได้เล่นกิจกรรม เช่น โยนลูกปิงปองลงแก้วเบียร์ หรือเต้นบนโต๊ะสนุ๊กเป็นต้น ในนี้คุณจะได้พบกับเหล่า โอปป้า ที่ส่วนใหญ่หน้าตาดี! เดี๋ยวนี้ เกาหลีเยอะกว่าฝรั่งอีกแน่ะ ดื่มๆ เต้นๆ ไปเหอะ แล้วคุณจะมีคนมาคุยด้วย ได้เพื่อนใหมอีกเพียบ! นี่นอนวังเวียง 3 คืนไปมา 3 คืนเลย 555
เรื่องเล่าขำๆ มีเกาหลีคนหนึ่งมาคุยกับเพื่อน กำลังคุยกันอยู่ดีๆ เพลงกังนัมสไตล์ดังขึ้น เกาหลีทุกคนเฮ และคนที่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่นั้น วิ่งขึ้นไปเต้นบนโต๊ะสนุ๊กอย่างรวดเร็ว
ในคืนวันที่ 3 นั้น ผมได้เจอคนไทยที่มาเที่ยว และเล่นเกมโยนปิงปองกันด้วย มีคนนึงรู้จักพวกเราด้วย! รู้สึกตื่นเต้นดีที่มีคนจำได้ ฮ่าๆ หลังจากจบซากุระบาร์ ทุกคนก็พร้อมใจกันไป จังเกิล บาร์!
3.จังเกิล บาร์!!
ปกติผับบาร์ในวังเวียงจะปิดเที่ยงคืน หากอยากเที่ยวต่อต้องออกไปนอกๆเมืองหน่อย และในทุกๆคืนวันศุกร์ จังเกิลบาร์จะเปิด!! เมื่อใกล้ช่วงเวลาบาร์ในเมืองจะปิด จะมีรถมารอรับที่หน้าบาร์ คุณสามารถนั่งรถไปยังจังเกิลบาร์ได้ฟรี!! (แต่กลับเสียคนละ 10,000 กีบ) วันนั้นออกไปไวไปนิด ไปถึงเจอกับสภาพร้านที่เหมือนเอาโต๊ะมาตั้งหน้าบ้าน ระเบียงหน้าบ้านก็เป็นบูทดีเจ แล้วมืดๆ มืดมาก มืดจริงๆ มองไม่ค่อยเห็นอะไรหรอก รอบๆประดับไปด้วยต้นไม้ และมีกองไฟ!! ตอนไปถึง คนที่มาตอนนั้นก็มีแค่สองสามโต๊ะ คิดว่ามันจะสนุกได้ไงเนี่ย แต่พอนั่งไปสักพัก คนเริ่มมากันเยอะขึ้นๆ ส่วนใหญ่หน้าตาคุ้นๆทั้งนั้นนน เพราะเจอที่ซากุระบาร์ พอคนมาเยอะ ยิ่งดึกยิ่งสนุก คืนนี้เจอคนไทยเพียบ!!
ในวันนั้นผมได้เจอพี่คนไทยคนหนึ่ง ซึ่งผมชอบเค้ามาก ฮ่าๆ อุปกรณ์ดื่มติดรอบเอวพร้อม น้ำแข็ง เบียร์ เสิร์ฟได้ทันทีเมื่อเบียร์หมด แถมเทให้ฝรั่งที่เพิ่งรู้จักกันแล้วเชียร์ให้หมดแก้วด้วย สุดยอดเลย
4.ล่องห่วงยาง
เนื่องจากน้ำในแม่น้ำซองมีน้อย ทำให้แม่น้ำไหลช้ามาก วันนั้นเริ่มล่องห่วงยางกันตอน 4 โมงเย็น แล้วมีแวะบาร์ริมน้ำอีก ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น!! มืดจ้าาา ยังไม่ถึงจุดหมายเลยยย ลอยมาจนถึงบริเวณใกล้ๆเมือง เห็นแสงไฟจากเครนที่กำลังก่อสร้าง และน้ำตื้นพอดี เลยแบกห่วงยางเดิน ตอนนั้นมืดมาก มองไม่เห็นอะไรแล้ว มีเจ้าหน้าที่มาส่องไฟฉายบอกทาง อารมณ์ตอนนั้นเริ่มกลัวแล้ว ได้อารมณ์ผู้รอดชีวิตสุดๆ และแล้วก็เดินมาถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ
ด้านล่างคือภาพกิจกรรมขณะแวะบาร์ริมน้ำครับ
5.ถ้ำจัง
ไปมา 2 ปี แต่ไม่เคยไปถ้ำจังเลย เป็นถ้ำที่กว้างและยาวจริงๆ ไม่เคยเข้าถ้ำใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย แต่กว่าจะเดินไปขึ้นไปถึงก็ขาลากทีเดียว 55 ตรงข้างล่างก่อนขึ้นถ้ำ จะมีช่องน้ำไหลให้เล่นน้ำ คนเล่นเยอะพอสมควร น้ำเย็น ใส สีออกฟ้าๆหน่อย มีเด็กวัยรุ่นลาว ชวนให้เข้าไปในถ้ำที่มีน้ำออกมา แต่นี่ไม่กล้าเลย
6.บลูลากูน
สถานที่ยอดนิยม หากใครมาวังเวียงแล้วไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึง
หลายๆคนอาจจะวาดฝันว่า จะขี่จักรยานเข้าไปสวยๆ แต่บอกเลย คิดผิด!! 555 ควรจะเหมาสองแถวหรือขับ ATV ไปดีกว่า และควรซื้อผ้าปิดปากไปด้วย เพราะถนนหนทางนั้นลูกรัง!!! หัวอาจจะแดงได้ทีเดียวนะ
ในบลูลากูน คุณจะได้พบกับ สระน้ำธรรมชาติที่เป็นสีฟ้าและกิจกรรมโดดน้ำจากต้นไม้ มองดูด้านล่างดูชิวๆ ไม่สูงหรอก แต่พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ!! ขาสั่นเลย ต้องตัดสินใจแบบเสี้ยววิ เพื่อพิชิตความกล้า โดดลงไปให้ได้ พอโดดได้รอบแรกเท่านั้นแหละ อยากโดดอีก สรุป โดดไปทั้งหมด 4 รอบ
7.เบียร์น้ำโขง
ปกติ ส่วนใหญ่เวลาไปลาว ก็จะนึกถึงเบียร์ลาวกันใช่ไหมครับ แต่เนื่องจากปีนี้ไปเจอกระทู้ของคนนึงมา ว่าเบียร์น้ำโขงอร่อย เลยลองดู ปรากฏว่า ชอบกว่าเบียร์ลาวอีกครับ ถ้าได้ไปแล้ว ลองชิมดูนะครับ อาจจะชอบเหมือนผมก็ได้
ตอนนี้นึกออกเพียงเท่านี้ครับ ใครไปที่ไปวังเวียงมา แล้วมีประสบการณ์สนุกๆ ก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ ผมชอบอ่าน
ขอบคุณครับ
เรื่องเล่าจากวังเวียง..
ออกตัวก่อนเลยว่า อันนี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวแน่ๆ ฮ่าๆ เพราะเก็บภาพได้นิดดดดเดียว มัวแต่เที่ยว มัวแต่อันยอง ซารางเฮ อยู่ 555 รูปเลยไม่เยอะ คิดว่าถ้ารีวิว คงขาดๆ ไม่ต่อเนื่องแน่นอน เลยเล่าเรื่องต่างๆที่ได้เจอในวังเวียง ให้อ่านเล่นๆดีกว่า ทีแรกเล่าไว้ใน Facebook ตัวเอง แต่พิมพ์ไปพิมพ์มาชักเพลิน เลยอยากมาแบ่งประสบการณ์ในห้องนี้บ้าง เผื่อใครยังไม่เคยไป เวลาไปอาจจะลองนำไปเป็นไกด์ได้ครับ
ปีนี้ผมไปเยือนวังเวียงเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยกำหนดการปีนี้ คือ 1 - 5 กรกฎาคม ทุกๆปี ผมจะไปช่วงปลายมิถุนายน-ต้นกรกฎาคม เพราะฝนกำลังมาพอดี แต่ปีนี้ คาดผิด เพราะฝนมาช้าไปหน่อย
ถึงแม้ปีนี้จะเป็นปีที่ 3 ที่ได้ไปเยือนเมืองแห่งภูเขาและแม่น้ำซอง แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ ก็แปลกใหม่เลยทีเดียว จะลองเล่าเป็นข้อๆ นะครับ
1. อากาศแสนร้อน
ปีนี้ฝนมาช้า ทิ้งช่วงนาน ทำให้รอบนี้ที่ไป ร้อนมาก ฝนไม่ตก อดเห็นเมฆหมอกลอยตามภูเขาเลย ด้านล่างนี้คือภาพจากปีก่อน
2.ซากุระบาร์
หากใครสายปาร์ตี้ แนะนำให้ไปเลยครับ เพราะในนั้นคุณจะได้เพื่อนใหม่ๆมากมาย ได้สนุกสนาน ได้เต้น ได้เล่นกิจกรรม เช่น โยนลูกปิงปองลงแก้วเบียร์ หรือเต้นบนโต๊ะสนุ๊กเป็นต้น ในนี้คุณจะได้พบกับเหล่า โอปป้า ที่ส่วนใหญ่หน้าตาดี! เดี๋ยวนี้ เกาหลีเยอะกว่าฝรั่งอีกแน่ะ ดื่มๆ เต้นๆ ไปเหอะ แล้วคุณจะมีคนมาคุยด้วย ได้เพื่อนใหมอีกเพียบ! นี่นอนวังเวียง 3 คืนไปมา 3 คืนเลย 555
เรื่องเล่าขำๆ มีเกาหลีคนหนึ่งมาคุยกับเพื่อน กำลังคุยกันอยู่ดีๆ เพลงกังนัมสไตล์ดังขึ้น เกาหลีทุกคนเฮ และคนที่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่นั้น วิ่งขึ้นไปเต้นบนโต๊ะสนุ๊กอย่างรวดเร็ว
ในคืนวันที่ 3 นั้น ผมได้เจอคนไทยที่มาเที่ยว และเล่นเกมโยนปิงปองกันด้วย มีคนนึงรู้จักพวกเราด้วย! รู้สึกตื่นเต้นดีที่มีคนจำได้ ฮ่าๆ หลังจากจบซากุระบาร์ ทุกคนก็พร้อมใจกันไป จังเกิล บาร์!
3.จังเกิล บาร์!!
ปกติผับบาร์ในวังเวียงจะปิดเที่ยงคืน หากอยากเที่ยวต่อต้องออกไปนอกๆเมืองหน่อย และในทุกๆคืนวันศุกร์ จังเกิลบาร์จะเปิด!! เมื่อใกล้ช่วงเวลาบาร์ในเมืองจะปิด จะมีรถมารอรับที่หน้าบาร์ คุณสามารถนั่งรถไปยังจังเกิลบาร์ได้ฟรี!! (แต่กลับเสียคนละ 10,000 กีบ) วันนั้นออกไปไวไปนิด ไปถึงเจอกับสภาพร้านที่เหมือนเอาโต๊ะมาตั้งหน้าบ้าน ระเบียงหน้าบ้านก็เป็นบูทดีเจ แล้วมืดๆ มืดมาก มืดจริงๆ มองไม่ค่อยเห็นอะไรหรอก รอบๆประดับไปด้วยต้นไม้ และมีกองไฟ!! ตอนไปถึง คนที่มาตอนนั้นก็มีแค่สองสามโต๊ะ คิดว่ามันจะสนุกได้ไงเนี่ย แต่พอนั่งไปสักพัก คนเริ่มมากันเยอะขึ้นๆ ส่วนใหญ่หน้าตาคุ้นๆทั้งนั้นนน เพราะเจอที่ซากุระบาร์ พอคนมาเยอะ ยิ่งดึกยิ่งสนุก คืนนี้เจอคนไทยเพียบ!!
ในวันนั้นผมได้เจอพี่คนไทยคนหนึ่ง ซึ่งผมชอบเค้ามาก ฮ่าๆ อุปกรณ์ดื่มติดรอบเอวพร้อม น้ำแข็ง เบียร์ เสิร์ฟได้ทันทีเมื่อเบียร์หมด แถมเทให้ฝรั่งที่เพิ่งรู้จักกันแล้วเชียร์ให้หมดแก้วด้วย สุดยอดเลย
4.ล่องห่วงยาง
เนื่องจากน้ำในแม่น้ำซองมีน้อย ทำให้แม่น้ำไหลช้ามาก วันนั้นเริ่มล่องห่วงยางกันตอน 4 โมงเย็น แล้วมีแวะบาร์ริมน้ำอีก ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น!! มืดจ้าาา ยังไม่ถึงจุดหมายเลยยย ลอยมาจนถึงบริเวณใกล้ๆเมือง เห็นแสงไฟจากเครนที่กำลังก่อสร้าง และน้ำตื้นพอดี เลยแบกห่วงยางเดิน ตอนนั้นมืดมาก มองไม่เห็นอะไรแล้ว มีเจ้าหน้าที่มาส่องไฟฉายบอกทาง อารมณ์ตอนนั้นเริ่มกลัวแล้ว ได้อารมณ์ผู้รอดชีวิตสุดๆ และแล้วก็เดินมาถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ
ด้านล่างคือภาพกิจกรรมขณะแวะบาร์ริมน้ำครับ
5.ถ้ำจัง
ไปมา 2 ปี แต่ไม่เคยไปถ้ำจังเลย เป็นถ้ำที่กว้างและยาวจริงๆ ไม่เคยเข้าถ้ำใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย แต่กว่าจะเดินไปขึ้นไปถึงก็ขาลากทีเดียว 55 ตรงข้างล่างก่อนขึ้นถ้ำ จะมีช่องน้ำไหลให้เล่นน้ำ คนเล่นเยอะพอสมควร น้ำเย็น ใส สีออกฟ้าๆหน่อย มีเด็กวัยรุ่นลาว ชวนให้เข้าไปในถ้ำที่มีน้ำออกมา แต่นี่ไม่กล้าเลย
6.บลูลากูน
สถานที่ยอดนิยม หากใครมาวังเวียงแล้วไม่มานี่ถือว่ามาไม่ถึง หลายๆคนอาจจะวาดฝันว่า จะขี่จักรยานเข้าไปสวยๆ แต่บอกเลย คิดผิด!! 555 ควรจะเหมาสองแถวหรือขับ ATV ไปดีกว่า และควรซื้อผ้าปิดปากไปด้วย เพราะถนนหนทางนั้นลูกรัง!!! หัวอาจจะแดงได้ทีเดียวนะ
ในบลูลากูน คุณจะได้พบกับ สระน้ำธรรมชาติที่เป็นสีฟ้าและกิจกรรมโดดน้ำจากต้นไม้ มองดูด้านล่างดูชิวๆ ไม่สูงหรอก แต่พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ!! ขาสั่นเลย ต้องตัดสินใจแบบเสี้ยววิ เพื่อพิชิตความกล้า โดดลงไปให้ได้ พอโดดได้รอบแรกเท่านั้นแหละ อยากโดดอีก สรุป โดดไปทั้งหมด 4 รอบ
7.เบียร์น้ำโขง
ปกติ ส่วนใหญ่เวลาไปลาว ก็จะนึกถึงเบียร์ลาวกันใช่ไหมครับ แต่เนื่องจากปีนี้ไปเจอกระทู้ของคนนึงมา ว่าเบียร์น้ำโขงอร่อย เลยลองดู ปรากฏว่า ชอบกว่าเบียร์ลาวอีกครับ ถ้าได้ไปแล้ว ลองชิมดูนะครับ อาจจะชอบเหมือนผมก็ได้
ตอนนี้นึกออกเพียงเท่านี้ครับ ใครไปที่ไปวังเวียงมา แล้วมีประสบการณ์สนุกๆ ก็มาแบ่งปันกันได้นะครับ ผมชอบอ่าน
ขอบคุณครับ