สวัสดี พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวพันทิป โดยเฉพาะแท็ก วังเวียง ทุก ๆ ท่าน ครับ

ทีแรกคิดว่าจะไม่รีวิวแล้ว เพราะแทบไม่ได้เก็บรูป เก็บข้อมูล ภาพสวย ๆ ของสถานที่ไว้เลย แต่ไหน ๆ ก็ไปมาแล้ว และมีข้อมูลด้านราคาอยู่บ้าง เพราะต้องทำรายงานค่าใช้จ่าย เลยคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ ได้บ้าง

ขอเล่าเป็นสรุปรวมเลยละกันครับ..ขออภัยหากเจอแต่รูปกลุ่ม เพราะหลัก ๆ ถ่ายจากกล้องโกโปร ซึ่งเน้นถ่ายกันเอง > < อย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะครับ

ในทริปครั้งนี้..เกิดขึ้นในงานวันเกิดเพื่อน โดยผมที่ไปวังเวียงมา 4 ครั้งแล้ว (ครั้งนี้ครั้งที่  5) ชวนขึ้นมาว่า..ปะ ไปวังเวียงกัน เดี๋ยวพาไป
เรียกชวนเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ คนนั้น คนนี้ เข้า ๆ ออก ๆ ไป ไม่ไป กันอยู่สักพัก  จนในที่สุด ได้ไปกันทั้งหมด 11 คน ประกอบด้วยชะนี  1 นาง นอกนั้นก็....

อันนี้เป็นไฟล์ภาพโปรโมท ทำกันเล่น ๆ ฮา ๆ


อันนี้เป็นทีเซอร์ทำเล่น ๆ ถึงอีเวนท์ Sakura Bar เพราะทุกคนเฝ้ารอมาก ที่จะได้ไป !!!! คือคุยกันไว้แล้วว่า ถ้าน้ำหลาก น้ำแดง อย่างน้อยเราก็ยังมีซากุระ บาร์กันเป็นแผนสำรองล่ะน่าาา

ต่อไปนี้เป็น รายละเอียด..การเดินทางและค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ นะครับ (มีตารางสรุปคร่าว ๆ ท้ายรีวิว) เผื่อใครอยากนำไปเป็นแนวทางในการชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเป็นกรุ๊ปใหญ่ ๆ

ในทริปนี้ เก็บเงินกันคนละ 5,500 บาท รวมงบกองกลองทั้งหมด 60,500 บาท มีเพื่อนที่จะไปแล้วไม่ได้ไป สบทบมาอีก 2500 บาท รวมเป็น 63,000 บาท
เน้นการเดินทางที่สะดวก พักสบาย ไม่ตึงจนเกินไป ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ครอบคลุมทุกอย่าง ข้าวทุก มื้อที่อยู่ที่นู่น รวมถึงค่าใช้จ่ายนอกเหนือแผนอย่างไปจังเกิลบาร์เป็นต้น ( ยกเว้นค่าเมา อิอิ อันนี้สมทบกันเอง)

วันแรก
เดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพ ไปถึงด่านหนองคาย แล้วหารถตู้จากที่ด่านไทยเลย (คนขับรถตู้คนลาว) เราได้รถของพี่แขกตกลงว่าจะไปส่งที่เวียงจันทน์ 700 (คืนแรกนอนเวียงจันทน์) แล้ววันรุ่งขึ้นให้ไปส่งที่วังเวียง โดยพี่แขกคิด 3,000 บาท



หลังจากเก็บของกันแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเดินเล่น โดยพวกเราพักกันที่โรงแรม ดวงจันทร์ พลาซ่า อยู่แถว ๆ ประตูชัย เลยเดินกันออกไปที่ประตูชัยง่ายหน่อย จากนั้นก็เดินไป Joma และ ริมโขงตามลำดับครับ ไม่มีอะไรมากเน้นเดินกัน สุดท้ายแวะมากินอาหารที่ร้าน สามเอื้อยน้อง ซึ่งเพื่อนติดใจตำหลวงพระบางมาก ส่วนผมติดใจผัดหมี่ ซึ่งมาเวียงจันทน์ทีไรต้องมากินให้ได้ เหมือนหมี่ผัดธรรมดา ๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาจริง ๆ



วันที่สอง

เตรียมตัวออกเดินทางจากวังเวียงกันประมาณ 8 โมง โดยที่เรากะให้ถึงวังเวียงประมาณบ่ายโมง.. เราสอบถามพี่แขกว่า ถ้ารับกลับมาด้วยคิดเท่าไหร่ พี่แขกบอกคิด 3,000 เท่าเดิม พี่แขกเสนอมาว่าเค้าไม่อยากตีรถเปล่าไป-มา ถ้าหากอยากใช้รถตอนอยู่ที่วังเวียง เค้าคิดวันละ 2,000 บาท แต่ผมขอต่อเหลือ 1,500 เพราะเราไปแบบไม่ใช้วันเดย์ทริป ไหน ๆ ก็ต้องเช่ารถ เลยเหมารถพี่แขกไปเลยทีเดียวรวม 3 วัน ทั้งหมด 7500 บาท (แล้วก็มีค่ารถจากด่านมาเวียงจันทน์อีก 700 บาท)

มาถึงวังเวียงก่อนกำหนด..เที่ยงกว่า ๆ ทั้ง ๆ ที่พี่เขาขับปกติไม่เร็วนะ (มารอบก่อนรถตู้ซิ่งมาก จิกเบรกตามเลย) อาจจะเป็นเพราะถนนหนทางดีขึ้น สะดวกขึ้น ก็เลยไวหน่อย ก่อนมาลุ้นมาก ว่าน้ำจะแดงไหม เพราะประมาณอาทิตย์ก่อน น้ำนอง สะพานไม้พังไป เห็นเพื่อนไปบลูลากูนมา น้ำนี่แบบเจิ่งนอง บราวน์ลากูนเลยทีเดียว แต่พอมาถึง โล่งอก !! น้ำกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป ล่องห่วงยางสนุกล่ะ

มาถึงโรงแรม คราวนี้เลือกพักที่ The Elephant Crossing ทั้งสองคืน จองไป 5 ห้องราคา 15,407 บาท+Extra Bed ไปอีกประมาณ 1,700 บาท

เนื่องจากไปถึงก่อนเวลา ห้องยังไม่เรียบร้อย เลยฝากกระเป๋าไว้ ออกไปหาอะไรกินกันก่อน ผ่านไปประมาณชั่วโมง พอหาอะไรกินเสร็จ ก็เก็บของเตรียมพร้อมไปล่องห่วงยางกันแล้วววว...





ล่องคราวนี้ บาร์ด้านขวามือเปิด แต่ละคนรีบกวักน้ำเข้าฝั่งอย่างไว เพราะเดี๋ยวจะเลย.. พอขึ้นมา ฝรั่ง โอปป้า ก็อยู่รอกันเต็มไปหมด เพื่อน ๆ เลยพากันไปเล่นวอลเลย์บอล สนุกสนานกันทีเดียว งานดี เพียบ !!!





พอหลังจากล่องห่วงยางกันเสร็จ ก็เข้าที่พัก อาบน้ำ เตรียมตัวศึกหนักคืนนี้..
ก่อนอื่นก็ต้องแวะไปกินข้าวเติมพลังกันก่อนที่ ซนะไซ เมนูเด็ดคือ ลาบปลา ผมไปทีไรสั่งตลอดไม่เคยขาดเลย ฮ่า ๆ อร่อยจริง ๆ
กินข้าวอิ่มแล้ว เพื่อนก็ใจดี๊ดี สั่งไวน์แดงมาเลี้ยง 2 ขวด  !!! เจอกันไปคนละสองแก้ว ก็เดินเซไปซากุระบาร์แล้วครับ..

ที่ซากุระบาร์ สนุกสนานกันมาก พากันกรี๊ดโอปป้ากันใหญ่ บางคนก็แลกเฟซ แลกกาเกา กัน.. ส่วนผม  มีหน้าที่จัดหาเบียร์มาเสิร์ฟให้เพื่อน (มอมมัน!!) จนผับเลิก ก็พากันไปต่อจังเกิลบาร์ แต่ไปได้แปปเดียว ก็พากันกลับมานอนนนนน.. ภาพตัดไป คร่อก !!! z Z

วันที่สาม

นัดกันไว้ 10.30 น. เพื่อจะไปถ้ำจังและบลูลากูน โดยเริ่มจากไปถ้ำจังก่อน วันที่ไปโชคดีมาก เพราะน้ำฟ้าสวยเลยทีเดียว



เสร็จจากถ้ำจังก็ไปกระโดดน้ำที่บลูลากูนกันต่อ วันที่ไป น้ำเริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่ถึงกับบบลู แต่ก็สวยใช้ได้ สีเขียว ๆ หน่อย
โดดน้ำ สไลด์เดอร์ กันไป เล่นกันไปสักพัก เพื่อนคิดถึงบาร์เมื่อวาน เลยชวนกันไปล่องห่วงอีกรอบ... รอบนี้ตกลงกันว่า จ่ายใครจ่ายมัน..



พอไปถึงปรากฏว่า บาร์เดิมเมื่อวานปิดจ้าาาา แต่บาร์ที่เป็นของซากุระ เปิด (ซ้ายมือ) เลยแวะกันจนคนกลับเกือบหมด เลยรีบกลับกัน เพราะห่วงยางหายไปเกือบจะหมดแล้ว..

กลับมาก็เตรียมตัว เข้า Loop เดิม คือ ทานข้าวที่ซนะไซ และไปต่อที่ซากุระบาร์ คืนนี้เมาไม่เท่าคืนแรก เพราะต้องตื่นเช้า ขึ้นรถกลับ กทม...

ตอนกลับมา ทุกคนยังประทับใจกัน พุดคุยกันทุกวันนี้ยังไม่จบเลย และสัญญากันไว้ว่าจะกลับไปอีก !! และตอนนี้ก็ได้สรุปมากันเรียบร้อยแล้วว่า จะกลับไปอีกทีหลังปีใหม่

สุดท้ายนี้ ฝาก MV ที่รวมเหตุการณ์ไปเที่ยวลาว - วังเวียงมาให้ดูกันครับ


สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ



รีวิวอาจจะรวบรัดไปหน่อย แต่หากใครอยากสอบถามอะไรเพิ่มเติม ผมยินดีมาตอบให้ครับ