เริ่มต้นเรื่องกันเลยแล้วกันนะ ก่อนอื่นเลย เราไปเที่ยวครั้งนี้เราไม่อยากมากังวนว่าเงินจะพอไหมจะอยู่กินยังไง เราเลยพกเงินไปมากพอประมาณ (เราขอไม่ชี้แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทางและค่ากินอยู่จะดีกว่า เพราะเราคิดว่า ถ้ามีโอกาสหรือมีแพลนจะไปแล้ว ควรเก็บเงินเพื่อจะเที่ยวให้สบายใจจะดีกว่า)
เราออกเดินทางไปวังเวียง เริ่มด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์ตรงข้ามหมอชิต รถออกตอน4ทุ่ม ถึงที่อุดรตอน6โมงเช้ากว่าๆ อีกประมาณ6ชม. ถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวประมาณบ่าย1 ต่อแถวเข้าประเทศตรวจพาสปอร์ต ผ่านตม.
ระหว่างทางก็หลับพักผ่อนเอาแรงไปก่อน เรามาด้วยรถคันนี้
เพราะเราจะต้องเจอเส้นทางมหาโหดแต่เราหลับไม่ลงหรอกนะ เพราะเด็กๆที่ลาวเดินกันไม่กลัวรถกันเลย เรานั้งแถวหน้าสุดข้างคนขับเลย เสียวชนเด็กๆตลอดทาง เราได้ถามคนขับรถเค้าว่า ทำไมเด็กๆที่นี้เดินไม่กลัวรถกันเลย พี่คนขับบอกว่าที่นี้เค้าเป็นแบบนี้แหละ ผมนี้อึนไปเกือบ10วิ 55555+
แต่คนขับก็โปรมาก ขึ้นเขาทางเลี้ยวนี้ไม่จำเป็นไม่เบรกกันเลยที่เดียว
แต่เริ่มเดินทางเข้าลาวก็เสี่ยวกันแล้ว*0* และก็เข้าสู่ประตูเมืองวังเวียง
เป็นเวลาบ่าย3กว่าๆ เราไปแบบไม่จองที่พักเดินหาเอาเลย และก็มาสุดที่ริเวอร์วิวรีสอร์ท
พอได้ที่พักเราเอาของไปเก็บที่ห้องอาบน้ำอาบท่า หาข้าวกินกัน พอเริ่มตกเย็นก็เริ่มจัดการหาข้อมูลที่ปาร์ตี้กันเลยที่เดียว(ที่พักแทบทุกที่มีฟรีwifiนะฮ๊าฟฟแต่ระยะwifiประมาณ2เมตรหมด55555555+ เดินหลุดมานี้เล่นเน็ตกันไม่ได้เลยต้องวิ่งไปหน้าร้านแล้วรออัฟรูป อัพเสร็จเดินต่อ)
แต่เราก็ไม่รู้ว่าอยู่พิกัดร้านดื่มกินอยู่ไหน เราเลยยยย เราเลยยยย เดิน!!หามันเนี้ยแหละ 5555+ คนที่นี้ช่วง2ทุ่มก็จะปิดไฟนอนกันแล้ว T^T เราก็เริ่มจะใจหายกันแล้ว เรามาเพื่อปาร์ตี้กันเลยจริงๆ และเราก็มาสะดุดกันที่ "ซากุระ" เราก็แปลกใจเอ๊ๆๆทำไมคนเข้าบาร์นี้เยอะจังเลย เหลือบไปเห็นป้ายบอกว่า ฟรีดริ๊งระหว่าง 3ทุ่มครึ่ง-4ทุ่ม เท่านั้นแหละเราถึงบางอ้อกันเลยละ..(เหล้าที่แจกเป็นแก้วพลาสติกเล็กๆไม่ทำให้รู้สึกเท่าไรนัก55555) เราเลือกซื้อ"เบียร์ลาว" ดื่มกันเหมือนหิวน้ำมาจากไหน พอดีไปเห็นเบียร์อีกยี่ห่อหนึ่ง ชื่อ "น้ำโขง" เราเลยลองดื่มกัน โอ๊พระเจ้า!!!! มันอร่อยแบบไม่ลืมหูลืมตาประนึ่งว่าน้ำสวรรค์ชัดๆ 5555+ นั้น..ผมนี้เวอร์จริงๆ รสชาติให้อารมณ์และกลิ่นโฮลกาเดนโรเซ่ในราคาย่อมเยาว์เลย หลังจากนั้นเราก็จัดน้ำโขงกันตลอดคืน
มีนักท่องเที่ยวมีทั้งชาวไทย ยุโรป เกาหลี เยอะพอๆกัน(หากอยากไปแบบสนุกเราก็แนะนำแบบเรา คือเจอใครคุยหมด ไทย เกาหลี ฝรั่ง พูดมั่วไปหมด ภาษาเราก็พอฟังรู้เรื่องสื่อสารพอได้ จะได้เพื่อนเต้นเพื่อนดื่มและเพื่อนใหม่เยอะเลยจะบอกให้ เราหน้าหนาไม่อายใครอยู่แล้ว) บาร์เป็นบาร์เปิดโล่ง สามารถดูดบุหรี่ได้ในร้านเลย มีกองไฟอยู่ตรงกลางร้านอารมณ์ประมาณว่า เข้าค่ายลูกเสือ เต้นรอบกองไฟ 555555555
จังหวะเพลงก็ไม่ถึงมาก เป็นเพลงเต้นทั่วๆไป และเวลาก็ล่วงเลยมาถึง4ทุ่ม จุดสำคัญอยู่ตรงนี้เลย !!! พอหมดเวลาฟรีดริ๊ง คนหายวับยังกะไม่เคยมีคนมาก่อน 5555555+ ผมนี้ถึงกับงงกันเลย นึกว่าเค้าปิดร้าน!! ที่ไหนได้ มันยังมีจุดพีคอีก!!!! บาร์ใกล้ๆมีฟรีดริ๊งสานต่ออีก!!!(เหล้าชนิดเดียวกัน) 4ทุ่ม-4ทุ่มครึ่ง ผู้คนเหกันไปเข้าร้านนั้น เรายังอยู่ที่ซากุระ เพราะตั้งใจจะไปโดนเบียร์กันอย่างเดียวกลัวถ้าจะโดนเหล้าจะหลุดกันหมด55555+ หมดปาร์ตี้คืนแรกเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ หิวก็หาซื้อส้มตำไก่ย่าง แซนวิส(ยังพอมีร้านเปิดขายริมทางอยู่นะ) และเดินกลับมาที่พักพร้อมกับซื้อน้ำโขงอีกมากมาย กะว่าเราจะต่อกันหน้าที่พักอีก กลับมาถึงที่พักปิดเงียบมืดตึดตื๊อ หน้าที่พักมีโต๊ะอยู่เราก็จัดการอย่างไม่รอช้า เลือกนั้งห่างจากที่พักประมาณ 20 เมตรเกรงว่าจะกวนเพื่อนๆที่พักด้วยกัน ดื่มกันอย่างสนุกสนานเปิดเพลงมือถือเต้นหลุดกันเองนี้แหละ ระหว่างดื่มกินก็มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าที่พักเป็นระยะๆเหมือนกัน เวลาวิงมาถึงตี3พี่ๆเราก็เข้าไปนอนกัน เหลือเรากับเพื่อน2คน ยังไม่ถึง เลยนั้งดื่มพูดคุยเรื่องานสัปเพเห่ระลากยาวไปยันตี5 ก็กลับเข้ามานอน เราตั้งใจว่าจะตื่นมาถ่ายวิวหมอกหน้าที่พัก เพราะเห็นรีวิวท่านๆที่ไปมาก่อนบอกมีหมอกและอากาศดีประมาณ20-22องศาเห็นจะได้ในตอนกลางคืน ตั้งนาฬิกาปลุกเลย 6โมงเลย กะว่าต้องจัดภาพแหล่มๆมาเป็นรางวัลให้ได้ พอ6โมง ก็พยามลากตัวเองขึ้นมาถ่ายรูป!!!! ที่ไหนได้ 6โมงเช้ายังมืดไม่มีหมอกเราก็รอไปยัน6โมงครึ่งเริ่มเช้า!!!!
หมอกก็ไม่มาตามนัด ผมนี้ถางตาเงิบเลยที่เดียว กลับไปนอนมันซะเลย555555555+ ตื่นมาเกือบเที่ยง หมดไปในวันแรก (อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งมองว่าเรามาเพื่อปาร์ตี้อย่างเดียว พรุ่งนี้เราก็จะมารีวิวกิจกรรมขึ้นชื่อของวังเวียงให้ได้อ่านกันนะ แต่ความตั้งใจเราคือมาปาร์ตี้หลักๆนั้นแหละ5555555555+ เดียวจะลงรูปให้ดูกันนะ)
[CR] ชี้เป้าปาร์ตี้ที่วังเวียง
เราออกเดินทางไปวังเวียง เริ่มด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์ตรงข้ามหมอชิต รถออกตอน4ทุ่ม ถึงที่อุดรตอน6โมงเช้ากว่าๆ อีกประมาณ6ชม. ถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวประมาณบ่าย1 ต่อแถวเข้าประเทศตรวจพาสปอร์ต ผ่านตม.
ระหว่างทางก็หลับพักผ่อนเอาแรงไปก่อน เรามาด้วยรถคันนี้ เพราะเราจะต้องเจอเส้นทางมหาโหดแต่เราหลับไม่ลงหรอกนะ เพราะเด็กๆที่ลาวเดินกันไม่กลัวรถกันเลย เรานั้งแถวหน้าสุดข้างคนขับเลย เสียวชนเด็กๆตลอดทาง เราได้ถามคนขับรถเค้าว่า ทำไมเด็กๆที่นี้เดินไม่กลัวรถกันเลย พี่คนขับบอกว่าที่นี้เค้าเป็นแบบนี้แหละ ผมนี้อึนไปเกือบ10วิ 55555+
แต่คนขับก็โปรมาก ขึ้นเขาทางเลี้ยวนี้ไม่จำเป็นไม่เบรกกันเลยที่เดียว แต่เริ่มเดินทางเข้าลาวก็เสี่ยวกันแล้ว*0* และก็เข้าสู่ประตูเมืองวังเวียง เป็นเวลาบ่าย3กว่าๆ เราไปแบบไม่จองที่พักเดินหาเอาเลย และก็มาสุดที่ริเวอร์วิวรีสอร์ท
พอได้ที่พักเราเอาของไปเก็บที่ห้องอาบน้ำอาบท่า หาข้าวกินกัน พอเริ่มตกเย็นก็เริ่มจัดการหาข้อมูลที่ปาร์ตี้กันเลยที่เดียว(ที่พักแทบทุกที่มีฟรีwifiนะฮ๊าฟฟแต่ระยะwifiประมาณ2เมตรหมด55555555+ เดินหลุดมานี้เล่นเน็ตกันไม่ได้เลยต้องวิ่งไปหน้าร้านแล้วรออัฟรูป อัพเสร็จเดินต่อ)
แต่เราก็ไม่รู้ว่าอยู่พิกัดร้านดื่มกินอยู่ไหน เราเลยยยย เราเลยยยย เดิน!!หามันเนี้ยแหละ 5555+ คนที่นี้ช่วง2ทุ่มก็จะปิดไฟนอนกันแล้ว T^T เราก็เริ่มจะใจหายกันแล้ว เรามาเพื่อปาร์ตี้กันเลยจริงๆ และเราก็มาสะดุดกันที่ "ซากุระ" เราก็แปลกใจเอ๊ๆๆทำไมคนเข้าบาร์นี้เยอะจังเลย เหลือบไปเห็นป้ายบอกว่า ฟรีดริ๊งระหว่าง 3ทุ่มครึ่ง-4ทุ่ม เท่านั้นแหละเราถึงบางอ้อกันเลยละ..(เหล้าที่แจกเป็นแก้วพลาสติกเล็กๆไม่ทำให้รู้สึกเท่าไรนัก55555) เราเลือกซื้อ"เบียร์ลาว" ดื่มกันเหมือนหิวน้ำมาจากไหน พอดีไปเห็นเบียร์อีกยี่ห่อหนึ่ง ชื่อ "น้ำโขง" เราเลยลองดื่มกัน โอ๊พระเจ้า!!!! มันอร่อยแบบไม่ลืมหูลืมตาประนึ่งว่าน้ำสวรรค์ชัดๆ 5555+ นั้น..ผมนี้เวอร์จริงๆ รสชาติให้อารมณ์และกลิ่นโฮลกาเดนโรเซ่ในราคาย่อมเยาว์เลย หลังจากนั้นเราก็จัดน้ำโขงกันตลอดคืน
มีนักท่องเที่ยวมีทั้งชาวไทย ยุโรป เกาหลี เยอะพอๆกัน(หากอยากไปแบบสนุกเราก็แนะนำแบบเรา คือเจอใครคุยหมด ไทย เกาหลี ฝรั่ง พูดมั่วไปหมด ภาษาเราก็พอฟังรู้เรื่องสื่อสารพอได้ จะได้เพื่อนเต้นเพื่อนดื่มและเพื่อนใหม่เยอะเลยจะบอกให้ เราหน้าหนาไม่อายใครอยู่แล้ว) บาร์เป็นบาร์เปิดโล่ง สามารถดูดบุหรี่ได้ในร้านเลย มีกองไฟอยู่ตรงกลางร้านอารมณ์ประมาณว่า เข้าค่ายลูกเสือ เต้นรอบกองไฟ 555555555
จังหวะเพลงก็ไม่ถึงมาก เป็นเพลงเต้นทั่วๆไป และเวลาก็ล่วงเลยมาถึง4ทุ่ม จุดสำคัญอยู่ตรงนี้เลย !!! พอหมดเวลาฟรีดริ๊ง คนหายวับยังกะไม่เคยมีคนมาก่อน 5555555+ ผมนี้ถึงกับงงกันเลย นึกว่าเค้าปิดร้าน!! ที่ไหนได้ มันยังมีจุดพีคอีก!!!! บาร์ใกล้ๆมีฟรีดริ๊งสานต่ออีก!!!(เหล้าชนิดเดียวกัน) 4ทุ่ม-4ทุ่มครึ่ง ผู้คนเหกันไปเข้าร้านนั้น เรายังอยู่ที่ซากุระ เพราะตั้งใจจะไปโดนเบียร์กันอย่างเดียวกลัวถ้าจะโดนเหล้าจะหลุดกันหมด55555+ หมดปาร์ตี้คืนแรกเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ หิวก็หาซื้อส้มตำไก่ย่าง แซนวิส(ยังพอมีร้านเปิดขายริมทางอยู่นะ) และเดินกลับมาที่พักพร้อมกับซื้อน้ำโขงอีกมากมาย กะว่าเราจะต่อกันหน้าที่พักอีก กลับมาถึงที่พักปิดเงียบมืดตึดตื๊อ หน้าที่พักมีโต๊ะอยู่เราก็จัดการอย่างไม่รอช้า เลือกนั้งห่างจากที่พักประมาณ 20 เมตรเกรงว่าจะกวนเพื่อนๆที่พักด้วยกัน ดื่มกันอย่างสนุกสนานเปิดเพลงมือถือเต้นหลุดกันเองนี้แหละ ระหว่างดื่มกินก็มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าที่พักเป็นระยะๆเหมือนกัน เวลาวิงมาถึงตี3พี่ๆเราก็เข้าไปนอนกัน เหลือเรากับเพื่อน2คน ยังไม่ถึง เลยนั้งดื่มพูดคุยเรื่องานสัปเพเห่ระลากยาวไปยันตี5 ก็กลับเข้ามานอน เราตั้งใจว่าจะตื่นมาถ่ายวิวหมอกหน้าที่พัก เพราะเห็นรีวิวท่านๆที่ไปมาก่อนบอกมีหมอกและอากาศดีประมาณ20-22องศาเห็นจะได้ในตอนกลางคืน ตั้งนาฬิกาปลุกเลย 6โมงเลย กะว่าต้องจัดภาพแหล่มๆมาเป็นรางวัลให้ได้ พอ6โมง ก็พยามลากตัวเองขึ้นมาถ่ายรูป!!!! ที่ไหนได้ 6โมงเช้ายังมืดไม่มีหมอกเราก็รอไปยัน6โมงครึ่งเริ่มเช้า!!!!
หมอกก็ไม่มาตามนัด ผมนี้ถางตาเงิบเลยที่เดียว กลับไปนอนมันซะเลย555555555+ ตื่นมาเกือบเที่ยง หมดไปในวันแรก (อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งมองว่าเรามาเพื่อปาร์ตี้อย่างเดียว พรุ่งนี้เราก็จะมารีวิวกิจกรรมขึ้นชื่อของวังเวียงให้ได้อ่านกันนะ แต่ความตั้งใจเราคือมาปาร์ตี้หลักๆนั้นแหละ5555555555+ เดียวจะลงรูปให้ดูกันนะ)