สวัสดีครับ
ช่วงนี้เพื่อนๆหลายๆคน
นิยมไปวังเวียงกัน
แต่ก็มักจะเดินทางจาก กทม.กันซะส่วนใหญ่
เลยอยากจะนำเสนอการเดินทาง อันแสนหฤโหด
จากเชียงใหม่ -วังเวียงด้วยการนั่งรถทัวร์ 2 ต่อ
ระยะเวลารวมเกือบๆ 20 ชั่วโมง
เรียกว่านั่งกันตูดด้านกันเลยทีเดียว

ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าเราเคยไปวังเวียงมาแล้วรอบหนึ่งก่อนหน้านี้ครับ
แต่แล้วอยู่ๆ เจ่เจ้ ก็บอกว่า
เฮ้ยแกร!! ฉันพลาด สะพานสีส้มๆ กับทอปวิวสวยๆ
แกไปหาข้อมูลมา แล้วเดือนหน้าเราไปกัน
นี่จึงเป็นที่มาของทริปนี้ครับ



ตามแผนที่วางไว้คือ
27 ธันวาคม 2560
17.30 เดินทางจาก เชียงใหม่ - เซนทรัลอุดร (บขส.อุดร 1)
28 ธันวาคม 2560
06.00 เดินทางถึงเซนทรัลอุดร (บขส. อุดร1)
8.30 เดินทางจากอุดร - วังเวียง
15.00 ถึงวังเวียง เข้าที่พัก say song guest house
16.00 เช่ามอเตอร์ไซค์ ไป ถ้ำจัง
17.00 ขับมอเตอร์ไซค์ไป กาดยามแลง
20.00 ไปซากุระบาร์
29 ธันวาคม 2560
8.00 ไปตลาดเช้า
10.00 ไปผาเงิน + บลูลากูน
13.00 tubing
18.00 นั่งจิบเบียร์ บาร์ริมน้ำ
20.00 ไป ซากุระบาร์
30 ธันวาคม 2560
8.30 เดินทางกลับ วังเวียง - ด่านหนองคาย
14.00 ช็อปดิวตี้ฟรี่ด่านหนองคาย
16.00 เดินทางถึง บขส หนองคาย ฝากของที่ท่ารถ
แล้วเดินเที่ยวตลาดท่าเสด็จ ชมบรรยากาศ ริมโขง
18.50 ขึ้นรถกลับเชียงใหม่
31 ธันวาคม 2560
6.30 ถึง อาเขต เชียงใหม่
วางแผนเสร็จแล้ว ก็ไปกันเลย


เราเลือกเดินทางด้วยเพชรประเสริฐทัวร์ รอบ 17.30น. ขึ้นรถที่อาเขต
แล้วมุ่งหน้าสู่ อุดรกันครับ (รูปรถผมนำมาจากเว็ปครับ )
ประมาณ เที่ยงคืน รถจะพักกินข้าวต้มที่จุดพักรถพิษณุโลก ประมาณ 20 นาที
หลังจากนั้นจะยิงยาวสู่อุดรไม่แวะพัก นอกจากจอดส่งผู้โดยสารตามรายทาง
ตามแผน ต้องถึงเซนทรัลอุดรประมาณ 6 โมงครับ แต่ก็นะ ฝนตกเกือบตลอดทางทำให้ระยะเวลายืดไปบ้าง
เรามาถึงประมาณ 7 โมงกว่า พอมาถึงเซลทรัลอุดรก็เดินย้อนกลับมาสัก 200 เมตรก็เจอ บขส อุดร 1 ครับ


มาถึงก็มาขึ้นตั๋ว ซึ่งเรานำใบเสร็จที่จ่ายเงินแล้วแสดงเป็นหลักฐานครับ
ซึ่งตั๋ว ผมใช้วิธีโทรจองล่วงหน้าครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โทรจองที่ 02-872-1777 ต้องใช้เลขพาสปอร์ตด้วย
เมื่อโทรจองเสร็จจะมีข้อความเข้าโทรศัพท์เราครับ
จะเป็นเว็ปลิ้งค์ใบจองตั๋ว ให้ปริ้นออกมาแล้ว ไปจ่ายเงินที่ บิ๊กซีและร้านค้าในเครือแบบในรูปครับ


8โมงกว่า รถอุดร-วังเวียง ก็มาจอดรอแล้วครับ

รถที่ไปวังเวียงวันนี้เป็นรถลาวครับ ผมแนะนำให้นั่งแถวหน้าสุดเลยครับ
ถ้าตัวไม่ใหญ่ หรือขายาวไม่มาก เพราะตลอดเส้นทาง เราจะได้มุมมองที่กว้างกว่า
และตื่นเต้นกว่า กว่าที่นั่งอื่นแน่นอนครับ

ระหว่างที่รถวิ่งพนักงานก็จะนำใบขออนุญาติข้ามแดนมาให้เราเขียนครับ
อ่อ ไอเท่ม ที่ลืมไม่ได้ก็คือปากกา ครับ ถือว่าเป็นของล้ำค่าที่ลืมไม่ได้ครับ

ก่อนเดินทางแนะนำให้โหลด แอฟพพลิเคชั่น MAPS.ME แล้วโหลดแผนที่ไว้ครับ
เป็นแอพพลิเคชั่น นำทางที่ไม่ต้องใช้อินเตอร์เนต ต้องขอบคุณเพื่อนๆในพันทิปที่แนะนำมาครับ ใช้ได้ดีทีเดียว

วันนี้คนเยอะทำให้เราเสียเวลาค่อนข้างเยอะบริเวณด่าน
กว่ารถจะออกก็เกือบสิบโมงครึ่ง กว่าจะไปถึงจุดแวะพักก็บ่ายกว่าๆ
เพราะฉะนั้นเพื่อนที่จะเดินทางมาอย่าลืม พกขนมไว้กินแก้หิวระหว่างทางด้วยนะครับ

บ่ายกว่าเราจึงมาถึงจุดพักรถคับ ที่ Xaiyoh restaurant
พิกัด 18.55945,102.388307 พัก30 นาทีเพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่า และทานข้าวเที่ยงกัน
(รูปล่างนี้ผมก๊อบมาครับ)


เมนูอาหาร

มาถึงลาวทั้งทีกะต้องลองเฝอครับ
หน้าตาเฝอไก่ ชามนี้ 18,000 กีบ เอาศูนย์ออกสามตัว แล้วคูน 4
ก็จะเป็นเงินไทย 72 บาท รู้สึกไก่น่าจะเป็นไก่บ้านครับเนื้อแน่นอร่อยเลย


ผักกินกะเฝอ (รูปนี้ผมก๊อบมาครับ)

ทันทีที่เฝอมาพร้อมกับผักเครื่องเคียงเราก็มองหน้ากันเลิกลัก แล้วถามกันเองว่า มันทานยังไง
ในขณะที่งงๆ ปรุงมั่วซั่วอยู่ก็เห็น คนลาวที่มากับรถ นั่งโต๊ะใกล้ๆ เริ่มปรุงแบบก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา
แต่วิธีการกินต่างกันนิดหน่อยคือ เขาจะนำผักสลัด มาห่อใบสาระแหน่และใบโหระพา แล้ววาง
แครอทดอง กับ มะละกอดอง แล้วจิ้มน้ำจิ้มบ้าง ไม่จิ้มบ้าง จิ้งกะปิบ้าง เอาเข้าปากแล้ว ซดน้ำซุปกับ
เส้น ลักษณะการทานคล้ายบ้านเราทานขนมจีนกับผักเครื่องเคียง แล้วก็เอาพริก กับถั่ว จิ้มกะปิทานแล้วซดน้ำซุปตาม
กะเลยลองทำตาม เอ่อ ก็อร่อยดีเนอะ
ประมาณ เกือบสี่โมงเย็นเราก็เดินทางมาถึง ท่ารถวังเวียงด้านใต้ พอลงรถก็ซื้อขากลับ ประมาณ 90,000 กีบ
แล้วก็จะมีรถพาไปส่งตรงลางเมืองไม่แน่ใจว่าหน้าโรงแรมชื่ออะไร หลังจากนั้นก็เดินเข้าที่พักครับ