ย้อนหลัง Person Of Interest S.1 Ep.13 : “Root Cause” [Spoil]

ป๊าดดดดดดดด คู๊ณผู้ชมคะ เรามาถึง Ep. Lucky number กันแล้วนะคะ Ep.13 ประจำ S.1
ออนแอร์เมื่อวันที่ 2 February 2012 ค่า อีกอึดใจเดียวก็จะจบ Season1 ละ


POI ของเราใน Ep. นี้ คือ นาย Scott Powell แฟมิลี่แมนผู้ดูเหมือนจะมีชีวิตปกติสุขดีกับครอบครัว
แต่จริงๆแล้ว เค้าตกงานมาจะเป็นปีอยู่แล้ว ต้องเอาของมีค่าไปขายเพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน
โดยที่สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด


ฟินช์ออกปฏิบัติภารกิจซุ่มดูร่วมกับรีส โดยใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อดักสัญญาณ WiFi ในบ้านพาวเวล
จนได้เห็น e-mail และประวัติการเข้าอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและนักการเมืองมากมาย
ฟินช์โทรให้คาร์เตอร์ช่วยเช็คประวัติพาวเวลให้ด้วย ก็ไม่พบอะไรนอกจากเรื่องเล็กๆน้อยๆและใบขึ้นทะเบียนปืนไรเฟืล
ระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาจ้างให้พาวเวลไปทำงาน


ฟินช์กับรีสตามพาวเวลเข้าไปในงานเลี้ยงระดมทุนของวุฒิสมาชิก Delancey
กลายเป็นว่า ข้อมูลที่ฟินช์เจอจากคอมพ์ของพาวเวลรวมถึงการจ้างงานเป็นการจัดฉาก
เพราะเกิดเหตุลอบยิงท่าน สว. ขึ้น รีสตามคนร้ายตัวจริงไปแต่ไม่ทัน และ พาวเวลก็กลายเป็นผู้ลอบยิงในบัดดล


พาวเวลถูกนำตัวไปสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เปิดตัว  Nicholas Donnelly ค่ะ


สุดท้าย ท่าน สว. ก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล พาวเวลเลยโดนข้อหาฆาตรกรรมไปตามระเบียบ
และจะต้องถูกพาตัวไปศาลเพื่อขอฝากขัง รีสบอกว่า จากประสบการณ์ พวกที่ถูกจัดฉากว่าเป็นฆาตรกรในคดีแบบนี้
มักจะถูกฆ่าปิดปาก และจากฝีมือการแฮคกับมือปืนตัวจริงแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนละคนกัน ทำงานกันเป็นทีม
ฟินช์เลยแฮคกลับไปหาแฮคเกอร์คนนั้น จนเจอแบบพิมพ์เขียวของศาล พอดีกับที่คาร์เตอร์บอกว่าพาวเวลกำลังจะถูกพาตัวไปที่ศาล
รีสเลยตามไปขโมยตัวพาวเวลออกมาได้


พอดีกันกับที่ฟินช์เจอว่า ตัวเองไม่ได้แฮคเข้าไปหาแฮคเกอร์ได้ แต่แฮคเกอร์ปล่อยให้ฟินช์แฮคเข้าไปได้เอง
เพื่อที่จะย้อนรอยกลับมาติดตามที่อยู่ของฟินช์ จึงบอกให้รีสรีบทำลายโทรศัพท์ ฟินช์ก็จัดการตัดทุกการเชื่อมต่อ
ถึงขั้นต้องตัดกระแสไฟกันเลยทีเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้แฮคเกอร์ตามมาเจอ




เอฟบีไอสอบปากคำภรรยาของพาวเวล เธอไม่รู้เรื่องที่สามีตกงาน และเรื่องสถานะทางการเงินของครอบครัวเลย


ฟินช์ขอความช่วยเหลือจากบุคคลผู้ซึ่งมีสกิลด้านนักการเมือง เธอคนนั้นก็คือ Zoe Morgan คนสวยนั่นเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่ 2 คนนี้เจอกันนะคะ เราแปลกใจนิดน้อย ที่ฟินช์แนะนำตัวเองกับโซอี้ว่าชื่อ แฮร์โรลด์ เลย
ทั้งๆที่ปกติฮีจะเป็นคนที่ really private person มาก แถมใช้นามสกุลปลอมตลอด


ฟินช์จะพาโซอี้ไปคุยงาน แต่มีเด็กมาจู๋จี๋กัน ให้เงินไล่เด็กไป เด็กดันคิดว่าฟินช์จะพาโซอี้มาสวีทมั่ง 5555


ทั้งสองคนเอาข้อมูลมาปะติดปะต่อกันจนเหลือผู้ต้องสงสัยตัวจริงแค่คนเดียว นั่นคือ
Campaign manager (ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าอะไร) ของ สว. Delancey ชื่อ Matheson


โซอี้ไปหาแมทเธอร์สัน พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลที่เธอรู้ ทันทีที่โซอี้เดินจากไป แมทเธอร์สันก็โทรหาแฮคเกอร์
แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นแผนของโซอี้และฟินช์ ซึ่งฟินช์ได้โคลนมือถือและบันทึกการสนทนาเอาไว้แล้ว


รีสเจอว่ามีเครื่องติดตามตัวอยู่ที่พื้นรองเท้าของพาวเวล จึงทำให้แฮคเกอร์และมือปืนรู้ตำแหน่งของทั้งคู่
และตามมาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน แต่รีสก็เอาอยู่ พร้อมเอามือถือของมือปืนมาด้วย




แฮคเกอร์โทรหามือปืน ฟินช์รับสาย คนดูจะได้เห็นแฮคเกอร์กำลังพิมพ์จดหมายพร้อมมีปืนวางอยู่ข้างๆ




พาวเวลเข้ามอบตัว ดอนเนลลี่เร็วมากนะคะ เห็นแค่แว๊บเดียวชักปืนปุ๊บเลย


ฟินช์ส่งไฟล์เสียงของแมทเธอร์สันให้คาร์เตอร์ ทาง e-Mail ดอนเนลลี่ก็ได้ยินเสียงนั่นด้วย
เลยพากันไปตามจับแมทเธอร์สัน แต่ก็ได้เจอแค่


สุดท้าย พาวเวลก็ได้กลับไปหาลูกหาภรรยาที่บ้าน แฮปปี้เอนดิ้ง แต่พวกสื่อก็ยังตามรุมพาวเวลอยู่
รีสเลยขอให้โซอี้ไปจัดการพูด 2 words เพื่อไล่สื่อออกไปให้พ้นจากครอบครัวพาวเวล
(อย่างที่เธอเคยเล่าให้ฟังใน S.1 Ep.6 : The Fixer ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่รู้เลยว่ามันคือคำว่าอะไร)


ฝั่งฟินช์ อยู่ๆก็ได้รับการติดต่อมาจากแฮคเกอร์คู่ปรับ เรื่องที่เอฟบีไอไปจับแฮคเกอร์จากที่อยู่ที่ได้
แต่มันกลับกลายเป็นห้องในหอพัก ของนักศึกษาหญิงคนหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แฮคเกอร์คนนั้น


เธอบอกว่าเธอมีหลายชื่อ แต่ You can call me Root แถมยังปิดการสนทนาด้วยการเรียกชื่อจริงของเขาอีกด้วย น่าจัวที่ฉุด

เม่าโศกเม่าโศกเม่าโศก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่