ย้อนหลัง Person Of Interest S.1 Ep.6 : “The Fix” (Spoil)

Ep. นี้ออนแอร์วันที่ 27 ตุลาคม 2011 ตามเวลาสหรัฐนะคะ เป็น Ep. ที่ 6 ของ Season 1
จะมี 2 part ขนานกันไปคือในพาร์ทของรีสกับฟินช์กับ POI กับพาร์ทของคาร์เตอร์ในการสืบสวนคดี

POI ของเราใน Ep.นี้ มีนามว่า Zoe Morgan ซึ่งจริงๆตอนแรกชื่อตอนคือ "Killing Zoe" ค่ะ
แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น The Fix ซึ่งชื่อตอนนี้ ก็สื่อถึงตัวโซอี้โดยตรง เพราะงานที่เธอทำ
ทำให้ถูกเรียกว่าเป็น The Fixer ส่วนจะเป็นยังไงนั้น ไปดูเองจะเข้าใจกว่าค่ะ 555
กำปั้นทุบดินมาก เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง


รีสปลอมไปเป็นคนขับรถให้โซอี้ ซึ่งเธอก็ระวังตัวมากเอาการอยู่ เมื่อเห็นคนขับรถหน้าตาเปลี่ยนไป
ก็โทรถามบริษัทรถทันที และก็ได้ข้อมูลที่ดูจะน่าเชื่อถือได้ ซึ่งคนปลายสายก็แน่นอนว่า เป็นฟินช์
และข้อมูลของขับรถก็มาจากการแฮคนั่นเอง


รีสขับรถพาโซอี้ไปยังสถานที่หนึ่ง ได้รู้ว่าเธอไปแลกซื้อปืนจากแก๊งค์ข้างถนน และพาไปส่งที่งานเลี้ยงงานหนึ่ง
ในขณะที่ฟินช์เข้าไปตามสืบจากในอพาร์ทเมนท์ของโซอี้ ไม่พบว่าเธอมีอะไรที่ควรจะมี เช่นรูปถ่ายเพื่อน ครอบครัว
มีแต่แผ่นเพลง Jazz (แต่พอรีสเปิดเพลง Jazz ในรถ กลายเป็นว่าโซอี้บอกว่าไม่ชอบเพลง Jazz ซะงั้น)
แต่ฟินช์ก็ไปเจอปืนพกซ่อนอยู่ใต้เตียง รีสจึงสันนิษฐานว่า เธอซื้อปืนกระบอกใหม่เพื่อไปฆ่าใครบางคน
เพราะการซื้อปืนจากแก็งค์จะตามรอยเจ้าของปืนไม่ได้ แต่กลายเป็นว่า เธอเอาปืนไปให้ *นายตำรวจกิลมอร์
ซึ่งจ้างเธอให้ไปหาปืนของหลานชายตัวเองซึ่งเป็นตำรวจ ที่ถูกทิ้งไว้ที่ห้องน้ำสถานีรถไฟใต้ดิน*
(ตรงนี้ไม่ชัวร์นะคะ ว่า ปืนถูกลืมทิ้งไว้ ทำหาย หรือถูกขโมย)


ในขณะที่นักสืบคาร์เตอร์และนักสืบเทอร์นี่ย์ ได้รับคดีฆาตรกรรม
เหยื่อถูกคนร้ายแทงตายที่หน้าอกด้วยมีด (เค้าวงสีแดงไว้น๊า เผื่อใครไม่เห็นมีด 555)
ซึ่งคาร์เตอร์สังเกตุเห็นว่า มีดมันเก่าและทื่อแล้ว ไม่น่าทำให้ตายได้
พอเปิดประวัติเหยื่อ เลยรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับชายในชุดสูทอีกแล้วครับท่าน
เพราะผู้ตาย คือฆาตรกรที่แทงผู้หญิงที่ชื่อ Marlene Elias จนเสียชีวิต เมื่อปี 1973
พอคุ้นๆชื่อมั๊ยคะ ปิ๊งป่อง เธอคือเจ้าของกล่องเก็บหลักฐาน ที่ติดชื่อว่า M.Elias ใน Ep.3 นั่นเองค่ะ



วันต่อมา รีสขับรถพาโซอี้ไปพบกับลูกค้าชื่อดั๊กลาส โดยของที่ต้องการ เป็นไฟล์เสียงการสนทนา
ระหว่างเจ้านายของดั๊กลาสที่ชื่อ มาร์ค ลอว์สัน ลูกเขยเจ้าของบริษัทยาขนาดใหญ่

กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไฟล์เสียงนั้น อยู่ที่ Investment Blogger (แปลไทยไม่ออกอ่ะ มันเรียกว่าอะไรเหรอ 555)
ชื่อทัลบอลท์ แต่คนๆนั้นก็ดูจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามโซอี้เลย

ฝั่งนักสืบคาร์เตอร์ ได้คุยกับอดีตนักสืบที่ปลดเกษียณไปแล้ว ชื่อซัลลิแวน
ซึ่งเป็นนักสืบที่ทำคดีฆาตรกรรม มาร์ลีน อิไลอัส ในตอนนั้น โดยได้ข้อมูลมาว่า
มาร์ลีนไปมีความสัมพันธ์กับหัวหน้าแก๊งค์หนึ่งแถมมีลูกชายด้วยกัน 1 คน
และต้องการจะเปิดเผยความสัมพันธ์ เลยโดนเก็บ


โซอี้เอาไฟล์ที่ได้มาไปให้ดั๊กลาส กลายเป็นจะโดนเก็บซะงั้น ดีที่รีสช่วยไว้ได้
โซอี้เปิดฟังไฟล์เสียงที่ทำ Copy ไว้ แต่ยังไม่รู้เรื่องเลยจะไปหา ทัลบอลท์
แต่พอไปถึงหน้าบ้านก็พบว่าทัลบอลท์ตายแล้ว แถมพอคล้อยหลังรีส โซอี้ก็หายไปอีก


ฟินช์พยายามเอาไฟล์เสียงมาวิเคราะห์ ไฟล์เสียงขาดๆหายๆไม่สมบูรณ์ แต่พอจับใจความได้
และยัง Match ได้กับเสียงผู้หญิงคนนึง ชื่อ ดาน่า มิลเลอร์

ซึ่งทำงานเป็นพนักงานในบริษัทยาเดียวกัน กับดั๊กลาสและมาร์ค ลอว์สันเจ้านายของดั๊กลาส

รีสคิดว่าดาน่ามีความสัมพันธ์กับมาร์ค และมาร์คฆ่าดาน่าเพื่อไม่ให้พ่อตาจับได้
และชมว่าฟินช์เก่งที่ Match เสียงเจอตัวดาน่า แต่ฟินช์ไม่ปลื้มนัก เพราะก่อนหน้าที่จะมาเจอรีส
แมชชีนให้หมายเลขของดาน่ามาก่อน แต่ฟินช์ ณ ตอนนั้น ไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้


ฟินช์ก็ไปลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทยานั้น ทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นถึง 8% ของบริษัท
และได้เจอกับ โรเบิร์ต เคลเลอร์ เจ้าของบริษัทผู้เป็นพ่อตาของมาร์ค
มาร์คพาฟินช์ไปเยี่ยมชมบริษัทและพูดถึงยารักษาโรคไมเกรนตัวใหม่ ที่เพิ่งได้รับอย.
และกำลังจะวางขาย ฟินช์ได้ยินมาร์คกับดั๊กลาสคุยกันเรื่องจะเก็บโซอี้กับรีส
ผ่านทางเครื่องดักฟังที่อยู่ในของที่ระลึกที่เอาไปให้มาร์คในตอนแรก



นักสืบซัลลิแวนโทรมาให้ข้อมูลกับคาร์เตอร์เพิ่มเติม เรื่องอิไลอัสคนลูก
ผู้ซึ่งหลังจากแม่โดนฆ่าตายแล้วก็เข้าสู่ระบบ (ไม่แน่ใจว่าระบบอุปถัมภ์ให้ระบบป้องกันพยานนะคะ)
แต่ก็ไม่สามารถอยู่กับครอบครัวไหนได้นาน ยกเว้นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Gloria Resento
ที่อิไลอัสยังส่งการ์ดและเงินมาให้อยู่เสมอๆ คาร์เตอร์นัดจะแวะไปคุยกับซัลลิแวนเพิ่มเติม


ฟินช์ถอดเสียงออกจากไฟล์ได้เพิ่มขึ้น จึงได้รู้ว่า ดาน่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กับมาร์ค
แต่เป็นการพูดถึงเรื่องผลทดลองยาของบริษัท แต่ก็ได้สัญญาณมือถือของโซอี้ก่อน
เลยให้รีสไปหาที่ร้านอาหาร สุดท้ายโซอี้ก็ชวนรีสขึ้นห้อง อรั๊ย!!!!
หมายถึง งัดเข้าไปในบริษัทแล้วขึ้นไปหาหลักฐานที่ห้องของมาร์ค
โดยมีฟินช์ช่วยดูต้นทางให้อยู่ที่ห้องสมุดคร่าาา อย่าคิดลึก อิอิ


และก็ได้เจอต้นฉบับรายงานผลการทดสอบการใช้ยาแก้ไมเกรน
ที่มีการชื่อ 6 คนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยา จนถึงขั้นเสียชีวิต
แต่มีการแก้ไขรายงานเอาชื่อ 6 คนนั้นออก ก่อนส่งขออย.


ก่อนงัดบริษัทเขา โซอี้ไปขอความช่วยเหลือจากนายตำรวจกิลมอร์
ให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วยว่าตำรวจจะไม่รู้เรื่องนี้
แต่สุดท้ายก็โดนกิลมอร์แทงข้างหลัง เอาข้อมูลไปบอกดั๊กลาส รีสกับโซอี้เลยโดนจับ

โดยระหว่างนั้น ฟินช์ก็เอาเสียงสดๆจากในห้องที่รีสกับโซอี้อยู่ เอามาประมวลผลกับไฟล์เสียงเดิมด้วย
จนได้รู้ว่า เคลเลอร์ร่วมมือกับมาร์คด้วย


โซอี้บอกมาร์คว่ามีสำเนาไฟล์เสียงนั่นส่งไปไว้ที่เพื่อนที่ไว้ใจ ถ้าโซอี้ไม่ติดต่อไป ไฟล์จะถูกแพร่ออกสื่อ
มาร์คเลยพาโซอี้ไปเอาไฟล์สำรอง และทิ้งให้ดั๊กลาสจัดการกับรีส


ก่อนไปโซอี้มีทิ้งท้ายให้รีสนิดๆด้วย


โซอี้คุยโทรศัพท์ ว่ากำลังจะเดินทางไปที่จุดนัดจุดเดิมกับที่เคยมาซื้อปืนในตอนต้นเรื่อง
ซึ่งฟินช์ก็ได้ยินข้อมูลนั้นด้วยเลยบอกรีส (ตรงนี้เราก็งงอีก ว่าที่โซอี้พูดชื่อสถานที่
เพราะรู้ใช่มั๊ยคะ ว่าตัวเองโดนรีสกับเพื่อนอีกคนดักฟังโทรศัพท์อยู่ เลยพูดชื่อขึ้นมาเพื่อให้รู้
เห็นฟินช์ชมว่า Clever girl)




มาร์คดักทางไว้ได้ว่าโซอี้ไม่ได้ส่งเมล์หาเพื่อนที่ไว้ใจ เพราะโซอี้ไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเอง
และกำลังจะลงมือจัดการโซอี้ แต่พอดีว่ารีสมาขัดจังหวะซะก่อน



จังหวะเดียวกับที่ฟินช์ซึ่งนัดทานอาหารกับเคลเลอร์ และเฉลยให้เคลเลอร์รู้ว่า
ฟินช์เงินได้มากมายจากการ shorting หุ้นของบริษัท 8% ที่เพิ่งซื้อไป
เพราะเรื่องผิดกฎหมายที่ซีเรียสมากของบริษัทนี้

*เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเล่นหุ้นไม่เป็น อาจจะไม่ถูกต้องนะคะ ใครมีความรู้เรื่องนี้ทักท้วงได้เลยค่ะ
สิ่งที่ฟินช์ทำ คือการขายหุ้น ณ ช่วงเวลาที่หุ้นราคาขึ้นสูงสุด และซื้อคืนกลับมาเมื่อหุ้นราคาตกลง
ซึ่งการที่ราคาหุ้นตัวนั้นจะตกลง ก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ได้อยู่แล้ว จึงสามารถทำแบบนั้นได้

ฝั่งคาร์เตอร์ ไปหาซัลลิแวนตามนัด แต่ซัลลิแวนกลายเป็นศพไปซะแล้ว
ฉุกใจคิดมาได้ว่าคนลงมือน่าจะเป็นคนที่เพียงสวนกันออกไป เลยตามไป
ยิงต่อสู้กันเล็กน้อย คนร้ายหนีไปได้ แต่ก็ทิ้งรอยเลือดไว้ให้สืบต่อ


จบตรงที่รีสขับรถมาส่งโซอี้ นางมีหยอดไว้ด้วยว่ารีสรู้เบอร์โทรนางแล้ว
อิพี่รีสนี่ก็ถนัดแต่มองตามหลังผู้หญิงไปน๊อ 55555


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่