หยางกุ้ยเฟย มวลผกาละอายนาง

กระทู้คำถาม
贵妃羞花 หยางกุ้ยเฟย มวลผกาละอายนาง


ความงามของหยางกุ้ยเฟยที่กระทั่งดอกโบตั๋นยังหุบดอกซบลงไม่กล้าประชันความงามด้วย
แต่เธอก็มีกลิ่นตัวเป็นโทษสมบัติ หยางกุ้ยเฟยจึงแก้ไขด้วยลงสรงในธารหอมหัวชิง อบร่ำเสื้อ
ผ้าและใช้แป้งหอมกลบกลิ่นกาย

หยางกุ้ยเฟย ชื่อเดิมคือ หยางอวี้หวน (楊玉環)
    มีชีวิตอยู่ในปี 719-756 เป็นชาวเมืองหย่งเล่อ มีความสามารถในทางดนตรีขับร้องและฟ้อนรำ
ที่จริงเป็นชายาของโซ่วอ๋อง โอรสองค์ที่ 18 ของฮ่องเต้ถังเสวียนจง ภายหลังถังเสวียนจงพบว่า
หยางอี้หวนมีรูปโฉมงดงาม คิดจะเรียกเข้าวัง ดังนั้นจึงตั้งให้เป็นนักบวชหญิงฉายาไท่เจิน สมัย
เทียนเป่าปีที่สี่ (ค.ศ. 745) ได้เข้าวัง เป็นที่โปรดปรานของถังเสวียนจง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น
สนมเอกหรือกุ้ยเฟย (ในขณะนั้นถังเสวียนจงมีพระชนมายุ 61 พรรษา ส่วนหยางกุ้ยเฟยมีอายุเพียง
27 ปีเท่านั้น) ทั้งบิดาและพี่ชายของหยางกุ้ยเฟยต่างก็มีอำนาจวาสนาในแผ่นดิน ทุกครั้งที่นางจะ
นั่งรถม้า ต่างก็มีบรรดาขุนนางใหญ่บังคับรถม้าให้ด้วยตัวเอง นางมีช่างถักทอและปักผ้าถึงเจ็ดร้อยคน
มีผู้คนมากมายแย่งกันมอบของกำนัลต่างๆ ให้ เนื่องจากขุนนางจางจิ่วจางและหวังอี้มอบของกำนัล
ให้นางต่างก็ได้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้นบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างก็หวังที่จะได้รับผลตอบแทนเช่นเดียว
กัน หยางกุ้ยเฟยโปรดปรานลิ้นจี่จากแดนหลิ่งหนาน ก็มีผู้คนคิดหาวิธีที่จะนำส่งมาถึงเมืองฉางอานให้เร็วที่สุด

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ก่อกบฏ ถังเสวียนจงต้องหลบหนีออกจากนครฉางอาน เมื่อไปถึงเนินหม่าเหวย
บรรดาทหารทั้งหลายไม่ยอมเดินทางต่อ ต่างก็กล่าวว่า เป็นเพราะหยางกั๋วจง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ
หยางกุ้ยเฟยสมคบคิดกับคนต่างเผ่า ทำให้อานลู่ซาน ก่อกบฏ เพื่อที่จะปลอบขวัญทหารถังเสวียนจงจึง
ได้รับสั่งให้ประหารชีวิตหยางกั๋วจง แต่บรรดาทหารต่างก็ยังคงไม่ยอมเดินทางต่ออยู่นั่นเอง ต่างก็กล่าว
ว่าหยางกั๋วจงนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของหยางกุ้ยเฟย เมื่อพี่ชายมีความผิด น้องสาวก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความ
ผิดนั้นไปได้ หยางกุ้ยเฟยจึงถูกประหารชีวิตเช่นกัน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
หยางกุ้ยเฟย หยางอี้หวน

ในบรรดาหญิงงามทั้ง4นี่คือทรราชหญิงตัวจริง ประสบการณ์และหนทางชีวิตช่างคล้ายกับบูเซ็คเทียนราวกับถอดแบบ

ด้วยความงามผลักดันให้ตัวเองเข้าสู่ราชสำนัก  และความงามนำพาพวกเธอก้าวขึ้นอยู่เบื้องหลังการว่าราชการของกษัตริย์. ใช้อำนาจจัดการทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของตน กดขี่ประชาราษฎร์. กอบโกยผลประโยชน์ใส่ตน. เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามกับตน ให้ประโยชน์กับพวกพ้องที่ สนับสนุนผลประโยชน์ ให้ยศตำแหน่งกับแขนขาที่ภักดีต่อตนโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน. จนเกิดกบฎชาวบ้าน  ต่างเพียงบูเซ็คเทียนสามารถกุมอำนาจตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

จากหญิงสาวที่งดงาม ไต่เต้าขึ้นเป็นชายาองค์ชาย. สบโอกาสก็ขยับขึ้นเป็นกุ้ยเฟย สนมเอกอันดับหนึ่ง ใช้อำนาจพิศวาทผลักดันผ่านกษัตริย์ที่งมงายในความงาม. ตั้งพี่ชายตัวเองขึ้นกุมอำนาจบริหาร. กอบโกยโกงกินรับสินบนรีดนาทาเร้น จนประชาชนจนตรอก ต้องรวมตัวกันก่อกบฎ นำโดยอานลู่ซาน การกดขี่ข่มเหงประชาชน ของทรราชหญิงงามนี้ เป็นที่รู้กันทั่วแผ่นดิน ไม่เว้นแม้แต่ขุนทหารและไพร่พล

นับเป็นโชคดีของประชาชนที่การลุกขึ้นสู้ครั้งนี้แม้ไม่สำเร็จแต่ก็ส่งผลให้
กษัตริย์ต้องยอมสั่งประหาร หยางกั๋วจง. และสุดท้ายต้องตัดใจพระราชทานแพรขาว ประหารหยางกุ้ยเฟย ปิดตำนานทรราชหญิงงาม

ในบรรดาหญิงงามทั้ง4ของจีน ตัวเปรียบเทียบความงามคือผลกระทบต่อบ้านเมือง. ดั่งคำว่านางงามล่มเมือง

แต่ถ้าจะว่าไปแล้วใน4หญิงงามนี้ แตกต่างทังความงามและแตกต่างในผลแห่งความงาม

ไซซี.                 . นางงามกู้แผ่นดิน
หวังเจาจวิน.          นางงามป้องแผ่นดิน
เตียวเสี้ยน.           นางงามรักแผ่นดิน
หยางกุ้ยเฟย.         นางงามล่มแผ่นดิน

ทรราชหญิงแบบนี้เกิดได้ทุกที่ ทุกกาลเวลา.  ใช้ความงามนำสู่อำนาจ

ใช้อำนาจสร้างสมุนทรราชผู้ภักดี. ใช้อำนาจกำจัดศัตรู   ใช้อำนาจบังคับคนให้ยกย่องเชิดชูบูชา. ปิดหูปิดตาประชาชน.  ปิดปากประชาชนด้วยอำมหิต   เชื่อว่าแผ่นดินนี้อยู่ใต้อุ้งบาทของเธอ.  สุดท้าย เหลือไว้เพียงเสียงสาปแช่งของประชาชน และยินดีในความหายนะของเธอและสมุนพวกพ้องที่งมงายภักดีในตัวเธอ

มันเคยมีในอดีต. มันมีอยู่ในปัจจุบัน. และมันจะยังเกิดในอนาคต
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ขอแจมนะครับ

หยางกุ้ยเฟย - กบฎอันลู่ซาน - สิ้นยุครุ่งโรจน์ราชวงศ์ถัง


ถังเสวียนจง
    ปลายรัชสมัย  ถังเสวียนจงได้ค่อยๆวางมือจากราชกิจ ปี 744 นับแต่รับตัวหยางอวี้หวนเป็นสนมกุ้ยเฟยไว้ข้างกาย ก็ลุ่มหลงกับการเสพสุขในบั้นปลาย ทอดทิ้งภารกิจบริหารราชการแผ่นดิน จนเป็นโอกาสให้เสนาบดีหลี่หลินฝู่ เข้ากุมอำนาจ แสวงหาอำนาจส่วนตน คอยกีดกันขุนนางและนายทัพที่มีความดีความชอบ ริดรอนขุมกำลังจากส่วนกลางในที่ไม่ใช่พรรคพวกตน

     ขณะที่ให้การสนับสนุนแม่ทัพชายแดนที่มาจากกลุ่มชนเผ่าภายนอก เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดภาวะตึงเครียดตามแนวชายแดนกับทิเบต ทูเจี๋ยว์ เกาหลี และน่านเจ้าทางภาคใต้ กำลังทหารรับจ้างที่ต้องประจำอยู่ตามแนวพรมแดนมีจำนวนมากขึ้น แม่ทัพชายแดนจึงกุมอำนาจเด็ดขาดทางทหารไว้ได้

หยางกุ้ยเฟยสตรีผู้เขย่าบัลลังก์ราชวงศ์ถัง

      หลังจากหลี่หลินฝู่เสียชีวิต หยางกั๋วจง ญาติผู้พี่ของสนมหยางกุ้ยเฟยได้ขึ้นเป็นเสนาบดีแทน แต่กลับเลวร้ายยิ่งกว่า ด้วยถืออำนาจบาตรใหญ่ ฉ้อราษฎร์บังหลวง การโกงกินของขุนนางทำให้ระบบการจัดสรรที่นาและการเกณฑ์ทหารล้มเหลว กำลังทหารอ่อนโทรมลง ช่วงเวลาดังกล่าว เกิดเหตุขัดแย้งจากการแย่งชิงอำนาจระหว่างหยางกั๋วจงเสนาบดีคนใหม่กับอันลู่ซาน  แม่ทัพชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเหตุให้อันลู่ซานหาเหตุยกกำลังบุกเข้านครฉางอัน


อันลู่ซานสถาปนาราชวงศ์ต้าเยี่ยน

       ถังเสวียนจงและหยางกุ้ยเฟยหลบหนีลงใต้ ระหว่างทางบรรดานายทหารที่โกรธแค้นพากันจับตัวหยางกั๋วจงสังหารเสีย จากนั้นบีบบังคับให้
ถังเซสวียนจงประหารหยางกุ้ยเฟย จากนั้นเดินทัพต่อไปถึงแดนเสฉวน ขณะเดียวกัน รัชทายาทหลี่เฮิง หลบหนีไปถึงหลิงอู่
(ปัจจุบันอยู่ในมณฑลหนิงเซี่ย) ก็ได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นครองราชย์ต่อมา พระนามว่า "ถังซู่จง"

         ฝ่ายกองกำลังกบฏเมื่อได้ชัย ก็เข้าปล้นชิงทรัพย์สินราษฎร ปี 757 เกิดการแตกแยกภายใน อันลู่ซานถูกชิ่งซี่ว์ บุตรชายสังหาร ทัพถังได้โอกาสยกกำลังบุกยึดนครฉางอันและลั่วหยางกลับคืนมา แต่แล้วในปี758 สื่อซือหมิง ขุนพลเก่าของอันลู่ซานก่อการอีกครั้ง ที่เมืองฟั่นหยาง(ปักกิ่ง) สังหารอันชิ่งซี่ว์ จากนั้นบุกยึดนครลั่วหยางได้อีกครั้ง ปี 761 ระหว่างยกกำลังบุกฉางอันถูกเฉาอี้ บุตรชายสังหารเช่นกัน เป็นเหตุให้กองกำลังระส่ำระสาย ทัพถังได้โอกาสร่วมกับกองกำลังของชนเผ่าหุยเหอ ตีโต้กลับคืน เฉาอี้พ่ายแพ้ฆ่าตัวตาย เหตุวิกฤตจากกบฏอันลู่ซานและสื่อซือหมิง ตั้งแต่ปี 755 – 763 และสิ้นสุดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ถ้ง
ความคิดเห็นที่ 3
อันว่าสนมหยางคนนี้  นางฟ้ามีข้อสงสัยในเรื่องฉายา. มวลผกาละอายนางยิ่งนัก

เพราะข้อเสียของนางคือ กลิ่นตัวแรง เพราะนางทรงพระอวบ (คนสวยสมัยก่อนต้องอวบๆ ไม่ใช่แห้งๆเหมือนนางแบบสมัยนี้)

หากใครเคยไปเที่ยวเมืองซีอาน (ฉางอาน ) ยังมีสระอาบน้ำ ฮวา ชิง (華清池)เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในเมืองซีอาน พร้อมสบู่อาบน้ำสูตรที่พระนางคิดค้นขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหากลิ่นตัวนี่แหละ

ที่ดอกไม้เฉา อาจจะเพราะทนกลิ่นตัวของพระนางก็เป็นได้ 5555

และเมื่อนึกถึงพระสนมหยางคนนี้  จะนึกถึงลิ้นจี่ทันที เพราะพระนางชอบกินลิ้นจี่เป็นที่สุด

ในแต่ละปี  ม้าจะต้องตายไปมากมาย เพียงเพราะต้องส่งลิ้นจี่จากทางใต้ขึ้นไปให้พระนางเสวย ต้องใช้ทหารม้าขี่เป็นทอดๆทั้งวันทั้งคืนในการขนลิ้นจี่เข้าวัง (เนื่องจากลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่เน่าเสียง่ายและปลูกได้เฉพาะทางใต้ของจีนเท่านั้น ) จนปัจจุบันนี้. มีพันธ์ลิ้นจี่ใหม่ๆเกิดขึ้นมา ก็มักจะตั้งชื่อที่เกี่ยวกับพระนางคนนี้

พูดถึงลิ้นจี่แล้วเปรี้ยวปาก ขอตัวไปกินลิ้นจี่ (妃子笑)ของจีนก่อนนะฮ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่