VI
ไม่มานั่งน่าจอ ดูตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลงให้กลุ้มหรอกครับ เขาลงทุนแบบออมในหุ้น ศึกษาจนแน่ใจแล้วว่าธุรกิจไปได้ดีแน่ๆ
และปันผลเป็นที่น่าพอใจ ก็ลงไปเลย... VI ของแท้เขาบอกว่าไม่แคร์เรื่องขาดทุนในเซ็ท ณ เวลานั้นๆ แคร์แต่ผลตอบแทนว่าจะยังดีอยู่มั้ยและธุรกิจยังก้าวไปข้างหน้ามั้ย นานๆที ก็ประเมินทีนึงว่า...หุ้นตัวนี้ยังดีอยู่มั้ย ถ้าผลประกอบการไม่ดีขึ้น...ปันผลก็เริ่มน้อยลง ทั้งๆที่คู่แข่งทำได้ดีกว่า ...ก็ควรที่จะขายออกไป โดยรอขายช่วงที่มีกำไร
คนเล่นรอบ...
หลายคนชอบสับสนกับคนเล่นสั้น(2-3 วันขายทีนึงหรือเดย์เทรด)หรือแม้กระทั่งกับวีไอ เพราะคนที่ไม่ใช่วีไอแท้ๆ(แบบผม) นั่งเฝ้าหุ้นนานๆ มันเหงา อยากหาหุ้นอะไรเล่นๆ ก็เจียดมาสัก 20% มาเล่นรอบ ใหนๆก็ศึกษามาอย่างดีแล้ว เฝ้าดูตัวที่มั่นใจว่าน่าจะวิ่งในกรอบนี้ และทำได้บ่อยๆ แม้เซ็ทจะวิ่งลึกแค่ใหนก็ตาม พอลงมาทีนึงก็สวนไม้แรกเล็กๆไป เก็บเข้าสต็อกไว้...ถ้าหุ้นขึ้นไม่ถึงเป้าตามรอบที่เคยวิ่งก็ไม่ขาย แต่ถ้าลงไปเกินจุดที่เคยซื้อก็ซื้อเพิ่ม...รอขายตอนวิ่งขึ้นตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือบางคนรอตอนหุ้นทำท่าจะกลับตัวลง...
อย่างนี้เรียกว่า เล่นรอบนะครับ ...ไม่ใช่วีไอด้วย อย่าสับสนครับ
และดูเหมือนว่า มีคนบอกไว้ว่านี่คือ "ไฮบริด" ผสมผสานระหว่างวีไอกับเล่นรอบ เพราะเล่นทั้งสองอย่าง จะได้ไม่เหงาระหว่างเป็นวีไอ หากยังอยากจะมีกิจกรรมกับกระดานหุ้นมากขึ้น ช่วงนี้คิดว่าหลายท่านก็คงทำตัวเป็น "ไฮบริด" อยู่ เพราะผมก็ดอย 2 ธนาคารอยู่เล็กๆ อิอิ
ข้อดีของการเป็น "ไฮบริด" คือเล่นหุ้นได้ทั้งสองทาง ลงก็ได้ ขึ้นก็ได้
-
เวลาขาลง ก็ไปเก็บเพิ่มหุ้นที่ซื้อไว้แล้ว บางทีก็อยากให้ลงทีละมากๆด้วย เพราะหุ้นลงเสร็จ มันก็ต้องขึ้น...แล้วขายตามรอบ ได้ลุ้นอีกแบบว่าได้มากหรือน้อย แต่ขายหมูดีกว่าขาดทุนครับ
-
เวลาขาขึ้น ก็รอผลกำไรจากการเล่นรอบ และหุ้นถือยาวก็น่าจะดูดี ปันผลเยอะด้วย
เม่าต้องช่วยเม่านะครับ อย่าใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในบอร์ดมีทั้งขำๆ เกรียนๆ และความรู้ ...แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเม่าร่วมชะตากรรมทั้งนั้น
ใครจะซื้อธนาคารช่วงนี้ แนะนำว่าให้วางแผนซื้อหลายๆไม้นะครับ
...ไม่ลด ไม่ซื้อเพิ่ม เพราะซื้อมาถูก ยังไงวันหนึ่งมันก็ควรจะต้องขึ้นสิน่าา
จะขาย เมื่อถึงจุดขายที่ตั้งไว้ เช่น ของผมก็แถวๆ แนวต้านแรกนะครับ
...โชคดี มีเงินใช้กันเยอะๆ นะครับ...
นาทีนี้...น่าจะเป็นเวลาของนักลงทุนหุ้นแบบ "ไฮบริด"
VI
ไม่มานั่งน่าจอ ดูตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลงให้กลุ้มหรอกครับ เขาลงทุนแบบออมในหุ้น ศึกษาจนแน่ใจแล้วว่าธุรกิจไปได้ดีแน่ๆ
และปันผลเป็นที่น่าพอใจ ก็ลงไปเลย... VI ของแท้เขาบอกว่าไม่แคร์เรื่องขาดทุนในเซ็ท ณ เวลานั้นๆ แคร์แต่ผลตอบแทนว่าจะยังดีอยู่มั้ยและธุรกิจยังก้าวไปข้างหน้ามั้ย นานๆที ก็ประเมินทีนึงว่า...หุ้นตัวนี้ยังดีอยู่มั้ย ถ้าผลประกอบการไม่ดีขึ้น...ปันผลก็เริ่มน้อยลง ทั้งๆที่คู่แข่งทำได้ดีกว่า ...ก็ควรที่จะขายออกไป โดยรอขายช่วงที่มีกำไร
คนเล่นรอบ...
หลายคนชอบสับสนกับคนเล่นสั้น(2-3 วันขายทีนึงหรือเดย์เทรด)หรือแม้กระทั่งกับวีไอ เพราะคนที่ไม่ใช่วีไอแท้ๆ(แบบผม) นั่งเฝ้าหุ้นนานๆ มันเหงา อยากหาหุ้นอะไรเล่นๆ ก็เจียดมาสัก 20% มาเล่นรอบ ใหนๆก็ศึกษามาอย่างดีแล้ว เฝ้าดูตัวที่มั่นใจว่าน่าจะวิ่งในกรอบนี้ และทำได้บ่อยๆ แม้เซ็ทจะวิ่งลึกแค่ใหนก็ตาม พอลงมาทีนึงก็สวนไม้แรกเล็กๆไป เก็บเข้าสต็อกไว้...ถ้าหุ้นขึ้นไม่ถึงเป้าตามรอบที่เคยวิ่งก็ไม่ขาย แต่ถ้าลงไปเกินจุดที่เคยซื้อก็ซื้อเพิ่ม...รอขายตอนวิ่งขึ้นตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือบางคนรอตอนหุ้นทำท่าจะกลับตัวลง... อย่างนี้เรียกว่า เล่นรอบนะครับ ...ไม่ใช่วีไอด้วย อย่าสับสนครับ
และดูเหมือนว่า มีคนบอกไว้ว่านี่คือ "ไฮบริด" ผสมผสานระหว่างวีไอกับเล่นรอบ เพราะเล่นทั้งสองอย่าง จะได้ไม่เหงาระหว่างเป็นวีไอ หากยังอยากจะมีกิจกรรมกับกระดานหุ้นมากขึ้น ช่วงนี้คิดว่าหลายท่านก็คงทำตัวเป็น "ไฮบริด" อยู่ เพราะผมก็ดอย 2 ธนาคารอยู่เล็กๆ อิอิ
ข้อดีของการเป็น "ไฮบริด" คือเล่นหุ้นได้ทั้งสองทาง ลงก็ได้ ขึ้นก็ได้
- เวลาขาลง ก็ไปเก็บเพิ่มหุ้นที่ซื้อไว้แล้ว บางทีก็อยากให้ลงทีละมากๆด้วย เพราะหุ้นลงเสร็จ มันก็ต้องขึ้น...แล้วขายตามรอบ ได้ลุ้นอีกแบบว่าได้มากหรือน้อย แต่ขายหมูดีกว่าขาดทุนครับ
- เวลาขาขึ้น ก็รอผลกำไรจากการเล่นรอบ และหุ้นถือยาวก็น่าจะดูดี ปันผลเยอะด้วย
เม่าต้องช่วยเม่านะครับ อย่าใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในบอร์ดมีทั้งขำๆ เกรียนๆ และความรู้ ...แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเม่าร่วมชะตากรรมทั้งนั้น
ใครจะซื้อธนาคารช่วงนี้ แนะนำว่าให้วางแผนซื้อหลายๆไม้นะครับ ...ไม่ลด ไม่ซื้อเพิ่ม เพราะซื้อมาถูก ยังไงวันหนึ่งมันก็ควรจะต้องขึ้นสิน่าา
จะขาย เมื่อถึงจุดขายที่ตั้งไว้ เช่น ของผมก็แถวๆ แนวต้านแรกนะครับ
...โชคดี มีเงินใช้กันเยอะๆ นะครับ...