สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 4

กระทู้สนทนา
“  เพราะจริงๆลูก เพราะมาก ลูกสาวของพ่อสีซอได้ไพเราะจริงๆ  ”
“  ขอบคุณค่ะ  วันนี้คุณพ่อกลับดึกจังนะคะ  ”
“  ใช่ พ่อกลับดึก แต่ลูกของพ่อก็ยังไม่นอน ทำไมวันนี้ถึงนอนดึกนักล่ะลูก พรุ่งนี้ไม่ไปเรียนหรือ  ”
“  จันทร์มีเรียนตอนบ่ายค่ะ  ”
“  พักนี้พ่องานมาก ไม่ค่อยได้เจอหน้าลูก ลูกคงไม่ตำหนิพ่อนะ  ”
“  ไม่หรอกค่ะ จันทร์เข้าใจ คุณพ่อทำงานเพื่อประชาชน แค่นี้จันทร์ก็ภูมิใจที่สุดแล้ว  ”
“  น่ารักจริง ลูกสาวพ่อ ถ้าพี่จามของลูกเขาเหมือนลูกก็จะดีนะ พ่อจะได้ไม่ต้องห่วงเขามาก  ”
“  ทำไมล่ะคะ พี่จามออกเก่ง เรียนจบมาก็ได้ช่วยงานคุณแม่  ”
“  พ่อว่าพี่เขาช่วยใช้เงินนะสิ ได้ข่าวว่าไม่ค่อยเข้าบริษัทสักเท่าไร จ้างผู้ช่วยเอาไว้ไม่รู้กี่คน คงจะให้ทำงานแทนน่ะแหละ  ”

น้ำเสียงของทุติยะที่พูดถึงลูกสาวคนโต ไม่ได้ตำหนิอะไรจริงจังนัก เขาตามใจจามจุรี เธออยากได้ตำแหน่งในบริษัท เขาก็ให้ อยากจะทำอะไรก็ตามใจทุกอย่าง จนจามจุรีกลายเป็นคนหยิ่งยโสไม่เห็นหัวใคร เธอคิดว่าเธอยิ่งใหญ่ซะเต็มประดา เป็นลูกสาวรัฐมนตรี เป็นผู้จัดการบริษัทของพ่อเธอที่ใครๆภายนอกคิดว่าร่ำรวยมหาศาล เธอหยิ่งผยองในความเป็นสุรียาบดีเหลือเกิน  ตรงกันข้ามกับจันทราผู้น้องสาว จันทราเป็นคนเงียบๆ ชอบคิดชอบฝัน มองโลกสวยงาม ปีนี้หญิงสาวเรียนอยู่ปีสามของมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทยคณะ อักษรศาสตร์ จันทราชอบอะไรที่ตรงข้ามกับเทคโนโลยี เธอรักงานศิลป์ที่เป็นไทย ชอบเล่นดนตรีไทยทุกชนิด และไม่ชอบออกงานสังคม ที่สำคัญ เธอเป็นหลานสาวที่ทาทองไม่ค่อยรักเท่าไร ทาทองชอบคนประจบเอาใจ ชอบคนรักสวยรักงามแต่งตัวโดดเด่น ออกสังคมเก่งจันทราจึงเป็นที่ขัดตาขัดใจนางนัก
ตะวันมาเก็บกวาดกระท่อมหลังเล็กท้ายสวน  หญิงที่เขาช่วยเอาไว้เดินมาหา

“  คุณคะ ไม่ต้องทำให้ป้าหรอก ป้าทำเองได้  ”
“  ไม่เป็นไรหรอกป้า ของพวกนี้มันหนัก ป้ายกไม่ไหวหรอก แล้วป้าค่อยเช็ดถูเอาก็แล้วกัน  ป้า ผมยังไม่รู้เลยว่าป้าชื่ออะไร เรียกแต่ ป้า ป้า  ”
“  เรียกป้าว่านีก็ได้จ่ะ ป้าชื่อ นี  ”
“  ป้านี นี คำเดียวหรือป้า  ”
“  จ่ะ นี คำเดียว  ”
“  เป็นยังไง พออยู่ได้ไหม มันไม่กว้างเท่าไหร่ ป้าก็หุงหาเอาข้างนอกก็แล้วกันนะ เดี๋ยวผมจะหาหม้อข้าวหม้อแกงแล้วก็เตาเอามาให้ ถ้วยชามที่บ้านผมมีเยอะ จะแบ่งเอามาให้ป้า คนเดียวคงใช้ไม่กี่ใบ ช้อนแก้วผมจะจัดเอามาให้พร้อม  ”

นี น้ำตารื้อเอ่อขอบตา มองเด็กหนุ่มที่เปี่ยมน้ำใจผู้นี้อย่างสำนึกขอบคุณ

“  อ้าวป้า ตาแดงๆทำไม  ”
“  ขอบคุณเหลือเกินคุณขา ขอบคุณที่มีเมตตาต่อป้าเหลือเกิน  ”
“  ป้าอย่าเรียกผมว่าคุณเลยนะ ฟังแล้วมันยังไงก็ไม่รู้ ป้าเรียกผมว่าตะวันเถอะนะ เรียกเหมือนที่ตาของผมเรียกไง  ”
“  ไม่ดีหรอกค่ะ คุณมีบุญคุณกับป้า เป็นนายจ้างของป้า ให้ป้าเรียกว่าคุณตะวันเถอะนะ  ”

ตะวันเกาหัว

“  โธ่ป้า เรียกคุณ ใครเขามาได้ยิน ผมเขินตาย ผมไม่ใช่เจ้าน้ำเจ้านายที่ไหน  ”
“  เถอะค่ะ อีกหน่อยคุณก็ชินไปเอง นะคะ คุณตะวัน  ”

ตะวันกลับไปเอาข้าวของที่จำเป็นมาให้นี และยังเอาข้าวสารกับไข่ไก่มาให้ด้วย

“  ข้าวสารกับไข่ไก่นี่ ป้าคงกินไปได้หลายวัน ถ้าหมดก็บอกผมนะ ผมจะได้เอามาให้อีก สำหรับเงินเดือน ผมจะให้ป้าเดือนละสามพันบาท  ”
“  ทำไมถึงมากมายขนาดนั้นคะ จริงๆแล้วป้าไม่เอาค่าจ้างค่าแรงก็ได้ แค่ได้อาศัยอยู่อาศัยกินนี่ก็เป็นบุญคุณเหลือเกินแล้ว  ”
“  ไม่ได้หรอกป้า ป้าทำงานให้ผม ผมก็จ่ายค่าจ้างให้ป้า ก็ถูกต้องแล้ว ป้าจะได้มีเงินเอาไว้เก็บ เอาไว้ใช้ในยามจำเป็น  ”

นียกมือไหว้ แต่ตะวันรีบคว้ามือของนางเอาไว้

“  อย่าไหว้ผมสิป้า เดี๋ยวผมก็อายุสั้นกันพอดี ป้าน่ะแก่แล้ว จะมาไหว้เด็กอย่างผมได้อย่างไร    ”
“  โถ พ่อคุณ ป้าไหว้ในน้ำใจที่ดีงามของคุณค่ะ  ถ้าลูกชายของป้าอยู่ เขาจะดีกับป้าเหมือนคุณไหมนะ  ”
“  ป้ามีลูกด้วยหรือ  ”
“  มีค่ะ  ”
“  แล้วทำไมป้าไม่อยู่กับลูกของป้าล่ะ หรือเขาทอดทิ้งป้า  ”
“  เปล่าค่ะ  ”

นี น้ำตาไหล ตะวันมองนางอย่างสงสาร

“  ลูกของป้าอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ  ”
“  ปีนี้ก็ยี่สิบสามแล้ว  ”
“  ก็ปีเดียวกับผมเลยน่ะสิ ผมก็อายุยี่สิบสามแล้ว  ”
“  แต่ป้าไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย ไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไรและอยู่ที่ไหน  ”
“  อ้าว ทำไมล่ะป้า ทำไมป้าไม่ได้อยู่กับลูกล่ะ  ”
“  เรื่องมันยาวค่ะ แต่ตลอดเวลายี่สิบกว่าปี ป้าติดตามหาเขามาตลอด หวังว่าสักวันจะได้พบกับเขา จะได้เห็นหน้าลูก ได้กอดลูกสักครั้ง ป้าภาวนาให้เขาปลอดภัย และมีความสุข  ”

ตะวันมองหญิงตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทำไมนางต้องพลัดพรากจากลูก และออกตามหามาเป็นเวลานาน

“  ถ้าป้าเจอเขา ป้าจะจำได้หรือ  ”
“  จำได้ค่ะ คนที่พาเขาไปป้าจำได้ดี เขาพาลูกของป้าไปเลี้ยงให้  ”
“  อย่างนั้นก็ไม่ยาก ถ้าป้าได้เจอเขา ลูกของป้ากับคนที่เอาเขาไปเลี้ยงชื่ออะไรล่ะ เผื่อโชคดี ผมพบเขาจะได้บอกว่าป้าตามหาเขาอยู่  ”
“  ลูกชายของป้าชื่อ สุรียา ส่วนคนที่พาไปเขาชื่อ  ”
“  ตะวัน  ตะวันเอ้ย มีคนมาหาเอ็งแน่ะ  ”

ตาเอี้ยงตะโกนเรียกตะวัน การสนทนาของทั้งสองจึงหยุดลง  ล้อมเดือนเดินยิ้มตามตาเอี้ยงเข้ามาหาเขา

“  คุณล้อมเดือน  จะมาซื้อลำใยของผมหรือครับ  ”
“  ค่ะ  ตามสัญญา คุณตะวันจะให้ล้อมเก็บเอง ถ้ามาซื้อถึงสวน  ”
“  ได้เลย อย่างนั้นเชิญทางนี้เลย จะเอากี่กิโลเก็บได้ตามสบาย  ”

ตะวันพาล้อมเดือนมาเก็บลำใยที่ออกลูกสะพรั่งไปทั้งต้น

“  ชิมด้วยได้ไหมคะ  ”
“  ได้สิ ชิมจนอิ่มเลยก็ได้ ผมไม่หวง  ”
“  ลำใยที่นี่ลูกโตจังเลยนะคะ  ”
“  ครับ  พันธุ์สีชมพู แต่มันออกลูกล่ากว่าเขา ที่สวนอื่นเขาเก็บไปจนหมดแล้ว ของผมเพิ่งเริ่มเก็บได้  ”
“  ดีสิคะ ได้ราคาดี เพราะออกตอนที่เขาวายไปหมดแล้ว ต้องบอกว่าเข้าใจออก หรือคุณใช้เทคนิคช่วยคะ  ”
“  เปล่า  ผมปล่อยให้มันออกเองตามธรรมชาติ  พวกที่เขาใช้เทคนิคเร่ง เขาถึงออกมาก่อนไง  เรียกว่ารีบให้  ออกผลจะได้รีบขาย ของผมเลยสบายออกช้ากว่าเพื่อน  ”
“  กำไรดีไหมคะทำสวนลำใย  ”
“  ก็พออยู่ได้สบายๆ  ”
“  สวนของคุณกี่ไร่คะ  ”
“  ห้าสิบไร่ครับ  ”
“  ปลูกลำใยทั้งหมดเลยหรือคะ  ”
“  ปลูกลิ้นจี่ครึ่งหนึ่ง  ”
“  อย่างไหนรายได้ดีกว่ากันคะ ลิ้นจี่กับลำใย  ”
“  ลิ้นจี่น่าจะดีกว่า เพราะราคาและผลผลิตออกมาดีกว่า ส่วนใหญ่เขาจะปลูกกันที่เชียงใหม่ ที่เชียงรายนี่ไม่มากเท่า  ”
“  คุณไม่คิดจะทำอย่างอื่นบ้างหรือคะ นอกจากทำสวน  ”
“  คิดสิ  แต่ไม่มีใครดูแลตาของผม แกแก่มากแล้ว คนเดียวดูแลไม่ไหว ผมก็เลยต้องเป็นชาวสวน  ”
“  ขอโทษนะคะ คุณเรียนจบอะไรมาคะ  ”
“  ผมหรือ   คุณคิดว่าชาวสวนอย่างผมจะเรียนอะไรล่ะ  ”
“  ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณเรียนไม่สูง  ”
“  ทำไม  วุฒิการศึกษาของผมมันติดอยู่ที่หน้าผากขอกผมหรือ คุณเลยไม่เชื่อ  ”
“  ก็ ท่าทางของคุณ ไม่น่าจะเป็นคนที่มีความรู้น้อย ดูคุณเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่กลัวใคร  ”
“  มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ  ”

เขาบอกพร้อมกับเอื้อมหักช่อลำใยส่งให้หญิงสาว

“  เกี่ยวสิคะ  คนที่มีการศึกษาสูงๆ จะมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่าคนที่ไม่ได้เรียน  ”
“  ก็ได้ ผมบอกคุณก็ได้ ผมจบปริญญาตรี จบที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นี่เอง  ”
“  นั่นไง ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ แต่คณะที่คุณจบนี่ฉันจนปัญญาจะคาดเดาค่ะ  ”
“  คุณจะสอบประวัติของผมหรืออย่างไร ผมไม่ได้ไปสมัครทำงานกับคุณสักหน่อย  ”
“  เปล่าค่ะ เพียงแต่จะคบเพื่อนสักคน ก็ต้องรู้จักเขาให้ละเอียดหน่อย  ”
“  คุณซักประวัติคนที่คุณจะคบเป็นเพื่อนอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่า  ”
“  ก็เปล่าอีกน่ะแหระ  คุณเนี่ยเป็นคนแรกที่ฉันอยากรู้  ”
“  แล้วคุณล่ะ คุณจบที่ไหน เรียนคณะอะไร แล้วจบมาเมื่อไหร่  ”
“  แหม ถามแบบม้วนเดียวจบเลยนะคะ  ฉันจบมาจาก  U S A จบการโรงแรมมาโดยเฉพาะ จบมาพร้อมกับจามจุรีเพื่อนของฉันที่เป็นคู่ปรับของคุณน่ะแหละ  ”
“  ท่าทางแบบเพื่อนของคุณน่ะหรือ จบการโรงแรม สาขาไล่คนออกหรือไล่แขกออกหรือเปล่า  ”
“  แหมคุณนี่ ปากร้ายเหมือนกันนะ จามเขาจบบริหารค่ะ ไม่ได้จบการโรงแรม  ”

ตะวันนึกถึงจามจุรี ผู้หญิงคนนั้นท่าทางยโสโอหัง เอาแต่ใจตัวเอง อวดว่าตนเป็นลูกคนใหญ่คนโต ท่าทางบ้าอำนาจ บ้าบารมี หล่อนจะไปบริหารอะไรได้ ถ้ามีตำแหน่งเป็นผู้นำ ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาคงย่ำแย่แน่ๆ

“  นักบริหาร ใครเป็นลูกน้องเขา คงลำบากนะ  ”

ตะวันพูดเรื่อยๆ

“  สบายน่ะสิไม่ว่า  จามเป็นคนที่ไม่จู้จี้กับผู้ใต้บังคับเลยนะ ใครจะทำอะไรก็ทำกันไปเลย แล้วเอามาให้ดู ถ้าเรียบร้อยก็เซ็นผ่าน  ”
“  ทำงานแบบนั้น ถ้าลูกน้องตุกติกจะไปรู้อะไร นักบริหารที่ดีต้องทำงานเข้าขากับลูกน้อง ทำเป็นทุกอย่างในสิ่งที่ลูกน้องทำ เพียงแต่เราไม่ต้องลงมือทำเองเท่านั้น ความเคลื่อนไหวของผู้ใต้บังคับบัญชาต้องอยู่ในสายตาเราตลอด  ”
“  โอ้โฮ  คุณไม่ต้องบอกฉันแล้วว่าคุณจบคณะอะไรมา  ฉันรู้แล้ว  ”
“  เก่งนะ แต่อาจจะเก่งไม่จริงก็ได้ ผมอาจจะไม่ได้จบอย่างที่คุณคิด  ”
“  แต่คุณไม่ได้จบเกษตรแน่ใช่ไหมคะ   ตายจริงคุยเพลิน นี่น่าจะยี่สิบกิโลได้แล้วมั้ง  ”
“  คุณจะซื้อกี่กิโลล่ะ  ”
“  ฉันเอาหมดนี่แหระ เท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่คุณต้องแบกแล้วละ ไม่ใช่น้อยๆ  ”

จามจุรียังเจ็บใจ เรื่องที่เกิดขึ้นที่เชียงราย มีเวลาว่างทีไรเธอจะต้องนึกถึงเรื่องนี้ทุกครั้งไป  ถ้าหากไม่ได้ทำอะไรกับไอ้หนุ่มพ่อค้าลำไยนั่นบ้าง เธอเห็นทีจะเป็นสุขไม่ได้แน่  วันนี้หญิงสาวเข้ามาหาทาทองในห้องนอน

“  คุณป้าทำอะไรอยู่คะ  ”
“  ยายจาม วันนี้ทำไมกลับบ้านเร็วล่ะลูกหืมม์  ”
“  จามมีโครงการจะมาชวนคุณป้าร่วมหุ้นค่ะ  ”
“  โครงการอะไร อีก งานที่บริษัทยังยุ่งไม่พอหรือไง  ”
“  โอ๊ย ที่บริษัทน่ะ กงสี จามอยากทำอะไรที่เป็นของตัวเอง กิจการของตัวเองสักอย่าง  ”
“  แล้วคิดจะทำอะไร เงินทุนล่ะมีสักแค่ไหน  ”
“  ไม่กี่สิบล้านหรอกค่ะ โครงการของจามน่ะ จามจะทำรีสอร์ทกลางไร่ผลไม้ จามไปดูโลเกชั่นมาแล้ว เพอร์เฟคเชียวค่ะ  ”
“  ที่ไหน  ”
“  เชียงรายค่ะ เพื่อนของจามเขาก็ไปทำรีสอร์ทอยู่ที่นั่นเหมือนกัน  บรรยากาศดีมาก  ”
“  เชียงรายหรือ อืมม์ น่าสนใจ  ”
“  จริงนะคะ อย่างนั้นเรามาหุ้นกัน คนละครึ่ง  ”
“  คนละครึ่งน่ะเท่าไหร่  ถ้าไม่เกินสิบล้าน ป้าพอมี ถ้ามากกว่านั้น ป้าไม่อยากขายที่ขายทางเอาเงินมา  ”
“  คนละสิบล้าน น่าจะพอก่อน แล้วเราค่อยเอารีสอร์ทเข้าธนาคาร เอาเงินออกมาหมุนทีหลัง จามจะขอพ่อแล้วเราก็ไปดำเดินการเลย  ก่อนอื่นต้องไปซื้อที่ก่อน จามจะให้คุณป้าเป็นคนติดต่อเจรจานะคะ  ”
“  นี่จะทำเลยหรือ ไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อนหรือลูก ว่ามันจะดีมากน้อยแค่ไหน  ”
“  โธ่ คุณป้า จามศึกษามาจนละเอียดแล้ว ถึงได้เอาโครงการมาเสนอคุณป้า นะคะคุณป้าไปติดต่อซื้อที่ก่อน อย่างอื่นเราค่อยมาวางแผนดำเนินการกันอีกที  ”
“  เอาก็เอา จามว่าดีป้าก็ต้องว่าดีด้วยอยู่แล้ว ไม่เชื่อมือหลานแล้วจะไปเชื่อมือใคร ว่าแต่ไอ้ที่ดินที่จะไปซื้อนี่ ทำเลดีแน่นะ  ”
“  แน่สิคะ ด้านหน้าติดถนนทางหลวง ด้านหลังใกล้ภูเขา แถมที่ยังอยู่บนเนินสูง เยี่ยมไปเลยค่ะ ไม่ไกลจากน้ำตกเท่าไหร่ หาไม่ได้อีกแล้วที่แบบนี้ หนำซ้ำลำไยก็กำลังออกผล เราไม่ต้องรอเวลาอะไรเลย  ”

จามจุรียิ้มอย่างสมใจ ถ้าคราวนี้สำเร็จ เธอก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว  ได้สั่งสอนไอ้หนุ่มนั่นหนึ่ง แต่ที่เธอหมายมาดคือที่ดินทำเลทองผืนนั้น มันสามารถสร้างรีสอร์ทได้บนพื้นที่ที่สวยงามทีเดียว เพราะทิวทัศน์ติดกับภูเขาสูงและเป็นเนินที่มองลงมาเห็นที่ลุ่มด้านล่างได้อย่างชัดเจน ที่ตรงนั้นเหมาะที่จะสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ทที่สุด  



...พิมพ์พิลาสฒ์...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่