ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ของครอบครัวที่เดินทางไปเที่ยวบ้านใกล้เมืองเคียงอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์นะครับ
ทริปนี้วางแผนไว้ปีนึง เพราะจะได้ตั๋วราคาถูกจาก แอร์เอเซีย เราจองตั๋วไว้เป็นแบบนี้ครับ
BKK -- KL
KL -- JOHOR
JOHOR -- KL
KL -- BKK
วางแพลนกันไว้ว่า วันแรกไปเที่ยว เกนติ้งซะหน่อย แล้วค่อยเดินทางไป โยโฮ เพื่อเที่ยวเลโก้แลนด์ แล้วก็เดินทางกลับบ้านเราครับ
แต่ว่าก่อนเดินทางสัก 4 เดือนได้ (ไม่แน่ใจเวลาขี้เกียจหาเมล์) ทาง แอร์เอเซียได้แจ้งมาว่า ตั๋วเดินทางจาก JOHOR -- KL นั้น ถูก ยกเลิก ต้องเปลี่ยนเที่ยวบิน เอาล่ะวา เอาไงดี ไฟลท์ถัดไปก็ไม่ได้ เพราะว่าเรามีตั๋ว KL -- BKK ในเวลาเย็นวันนั้น ถ้าเปลี่ยนก็เดินทางไม่ได้
หาวิธีอยู่ 1 วัน เลยแจ้งยกเลิก ไฟล์ KL -- BKK ไปด้วยเลย ขอ Refund มา แล้เปลี่ยนเป็นตั๋ว SGP -- BKK แทน ดังนั้น แผนการท่องเที่ยว เราจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้
BKK -- KL
KL -- JOHOR
SGP -- BKK
เพิ่มเงินไปอีกสัก 2000 บาทได้ ก็โอเค ได้ไปเดินเที่ยวสิงคโปร์สักครึ่งวัน จองตั๋วกลับไทยไว้ ค่ำ ๆ
ส่วนรายละเอียดที่พักนั้น คืนแรก จองที่พักที่เกนติ้งไว้เลย สมนาคุณจากคุณแม่ภรรยา จัดให้ไว้ 1 ห้อง ที่โรงแรม The Resort
คืนที่สอง เราจองโรงแรมในเมืองยะโฮไว้ เพื่อนอนค้าง เตรียมไปเที่ยวเลโก้แลนด์
คืนที่สาม เราจองโรงแรมเลโก้แลนด์ไว้ กะเที่ยวเต็มที่เลย
จริง ๆ ทริปนี้ เราจัดไว้ให้ลูกชายไว้ 6 ขวบของเราครับ เค้าเฝ้ารอมานานประมาณ 1 ปี ไม่ต้องบอกเลยนะครับ ว่าจะดีใจขนาดไหน
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เราต้องออกเดินทางกันแล้วล่ะครับ
ออกเดินทางวันแรก เราบินกันประมาณ 7.30 น. ครับ จะถึงที่โน่นประมาณ 10.30 ได้ เวลาที่นั่นเร็วกว่าเรา 1 ชม.ครับ
ถึงที่สนามบิน KL เราก็หารถบัส เพื่อตรงไปที่เกนติ้งกันเลยครับ ราคา ผู้ใหญ่ 35 RM เด็ก 25 RM
ถึงเกนติ้ง อากาศดีมาก ๆ ครับ นี่ขนาดที่มาเลย์ร้อนไม่ต่างกับเราเลยนะ แต่ว่าที่เกนติ้งที่หมอกบาง ๆ อากาศเห็นแจ้งไว้ที่ 23 องศา เย็นสบายทีเดียว
แต่ว่าตอนนี้สวนสนุก outdoor ของเกนติ้ง ปิดให้บริการนะครับ จะเหลือแต่สวนสนุก indoor เท่านั้น ผมเองก็ไม่ได้ซื้อตั๋วครับ ซื้อให้ลูกเล่นอย่างเดียว ประมาณ 16 rm ได้ ก็เล่นกันสนุกเลย ภาพช่วงนี้จะไม่ค่อยมี เพราะอะไร ไว้เฉลยทีหลังครับ
สวนสนุก outdoor ที่นี่ จะเปลี่ยนเป็น Fox Studio นะครับ เห็นว่าเสร็จปีหน้า แต่ผมดูจากการก่อสร้างแล้ว ยังงง ว่าทันได้ยังไง
เห็นว่าใช้งบลงทุน 60000 ล้านบาท ว้าวววววววววววว ไว้เปิดก่อน ไม่พลาดแน่
วันนี้เราค้างที่นี่นะครับ ได้ทานอาหารหลาย ๆ ร้าน มีอยุ่ร้าน อยุ่ใกล้ๆ รร.ที่พัก เป็นร้านบะหมี่หมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง มีข้าวด้วย อร่อยดีครับร้านนี้ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ จานละ 16-20 RM แต่รสชาติดีครับ
ออกเดินทางตอน 10 โมง เรามีเที่ยวบินไป โยโฮ ตอน บ่ายสองครับ ต้องออกจาก Genting ตรงไปสนามบิน KLIA2 เดินออกมา ไม่น่าเชื่อ เช้าวันอาทิตย์ไม่มีรถไปสนามบิน มีเที่ยวแรก 8.30 am แล้วอีกที 12.30 pm เลย เอาล่ะสิ ไปไงฟะเนี่ย สรุปไปตกที่ taxi ครับ สนนราคา 160 rm ก็โอเคครับ แพงว่า bus ไม่เท่าไหร่ ตรงนี้แนะนำว่า อย่าให้คนขายตั่ว bus เรียกให้นะครับ เค้าจะบวกไปถึง 180 rm ให้เรียกเอง จะมีคนยืนอยุ่ตรงนั้นเยอะ ๆ ถามเลยครับ ว่าใช่ taxi มั้ย เรียกไปได้เลย อาจจะได้ราคาถึง 150 rm ด้วยซ้ำ
ทางลงเขามีแต่หมอกเต็มไปหมด อากาศดีมาก ๆ ครับ
ถึงสนามบิน เวลาพอดีๆ ให้เดินเข้าช่องบินภายในประเทศ ตรงนี้ไม่ต้องผ่านด่านอะไรครับ ยื่นพาสปอร์ตโชว์เฉย ๆ ครับ เราก็จะบินไป โยโฮ กัน เวลาแจ้งไว้ว่า 55 นาที แต่บินจริง ๆ 30 นาทีเท่านั้น เร็วมาก ๆ
ถึงสนามบินโยโฮ ตรงนี้ใครบิน airasia ให้มองหา shuttle bus ไว้นะครับ จะนำคุณไปสู่ jb sentral ซึ่งเป็นย่านการค้า ไว้ต่อรถไปโน่นมานี่ได้ง่าย ๆ แล้ว shuttle bus นี่บริการฟรีครับ เอาตั๋ว airasia ให้เค้าดู นั่งไปได้เลย ไกลอยู่นะ ประมาณ 45 นาทีได้
ถึง jb sentral ผมก็เดินหาซื้อ sim card มาเลย์ไว้ใช้ครับ ได้มาในราคา 15 rm + เงินในการ์ด 10 rm เล่นเนตได้ 2 วัน สบาย ๆ แจ่มาก ๆ ประหยัดกว่าโรมมิ่งจากไทยไปตั้งเยอะ
เดินไปเดินมาเจอร้าน J.co Donut ครับ นั่งทานกันก่อน ส่วนตัวชอบโดนัทร้านนี้มาก ๆ อร่อย และไม่หวานเหมือน KK จัดกันไปคนละชิ้น แถมด้วยหอบไปอีก 1 กล่องใหญ่ ไว้ทานกันคืนนี้
เรานั่ง taxi เดินทางไปรร.ครับ ค่า taxi ไม่แพงครับ ประมาณ 10 rm ได้ เพราะมันห่างกันไม่ไกลมาก แค่ 2 km เอง
วันนี้เราจะนอนกันที่ Hallmark ครับ อยู่ใกล้ๆ กับห้าง ksl city ชาร์จแบตให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไป LegoLand กัน
ตอนเย็น ๆ สัก 6 โมงเย็น ออกเดินไปข้าง ๆ โรงแรมครับ เดินไปห้าง ksl city กัน หาอะไรทาน ได้ทานอาหารญี่ปุ่นกันครับ เป็น sushi รสชาติใช้ได้ แต่ราคาผมว่าโอเคเลย เป็นมิตรดีมาก ไปเดินเล่น lotus ซื้อน้ำฟักยี่ห้อ Yeo มา ลูกชายชอบมาก กินทีหมดกล่องตลอด
ขากลับเราเดินออกมาจาก Ksl city ประมาณ 2 ทุ่มครับ เราก็เดินกลับมาทางเดิมครับ ระยะทางประมาณ 800 เมตรได้
เดินมาได้สัก 500 เมตร แฟนผม โดนกระชากกระเป๋าสะพายครับ โจรขี่มอเตอร์ไซค์มา มาคนเดียวด้วย กระชากแล้วขับต่อไปเลย ผมวิ่งตามไปได้สัก 100 เมตร ถึงป้อมตำรวจพอดี ตะโกนบอกตำรวจ ตำรวจก็ขับมอไซค์ตามไป 2 คัน ผมนั่งรอได้สัก 15 - 30 นาที พี่ตำรวจก็กลับมามือเปล่าครับ ไม่ได้อะไรกลับมา ไม่เจอตัวด้วย เรียบร้อยครับ ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต โดนกระชากกระเป๋า แล้วมันต้องมาเกิดที่ต่างประเทศด้วยนะ ก็คุยภาษาอังกฤษกับตำรวจไป งู ๆ ปลา ๆ เดินหากล้องแถวนั้น ก็ไม่มีกล้องสักตัวครับ คนในบ้านแถวนั้น ก็บอกว่า เกิดเหตุบ่อย แถวนี้ ต้องระวัง ดีแล้วที่ไม่บาดเจ็บ คนก่อน ๆ มีบาดเจ็บด้วย
นี่เป็นถนนที่เราโดนคนร้ายกระชากกระเป๋าครับ จุดเกิดเหตุ อยู่ใกล้ๆ ป้อมตำรวจมาก ๆ ทำกันได้ลงคอ TT
สิ่งที่หายไปมีเงินสด ทั้งเงินมาเลย์ เงินสิงคโปร์ เงินไทย Iphone 6+ 1 เครื่อง พาสปอร์ต 3 เล่ม มีของผม ของภรรยา ของลูกชาย บัตรประชาชน เครดิตการ์ด 1 ใบ ยาดม - -'
เอาไงล่ะครับ พาสปอร์ตหาย เราจะเดินทางกลับกันยังไง ตำรวจตรงป้อมแนะนำให้เราไปสถานีตำรวจครับ อยุ่ตรงแถว jb sentral ที่เรามาเมื่อตอนกลางวัน หลังจากรอตรงนั้น 1 ชม. คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว ก็เลยไปที่สถานีตำรวจครับ นั่ง taxi ไป ตำรวจที่มารับเรื่อง ดูเหมือนคนจีนหน่อย ๆ พิมพ์ภาษาอังกฤษไม่ได้ ตายล่ะ ผมเองต้องเป็นคนพิมพ์ภาษาอังกฤษเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ในใบแจ้งความเสียเอง หลังจากนั้น เค้าก็ให้นั่งรอ สักพัก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ดูเหมือนเป็นฝรั่ง ผิวดำ ตัวใหญ่มากก เข้ามาเรียกเราไปที่ห้องด้านใน เหมือนกับสอบถามอะไรอีกรอบ ก่อนจะอออกใบ report ให้ แล้วก็แนะนำเราว่า เราต้องไปทำพาสปอร์ตชั่วคราว เพื่อที่จะกลับประเทศได้ และใกล้ๆ นี่ไม่มี ต้องเดินทางไปที่ KL อีกรอบ เพื่อทำพาสปอร์ตที่ว่านี้ ระยะทางห่างกัน 400 โล และเราควรไปพรุ่งนี้เช้าทันที เพราะว่าเห็นว่าเรามีไฟลท์กลับวันอังคารที่สิงคโปร์ ไม่งั้นเราจะผ่านแดนไมได้ มึนเลยคราวนี้ นั่งคุยกับภรรยา 2 คน พรุ่งนี้เราต้องไป legoland เรามีตั๋วเข้าสวนสนุก สวนน้ำ และ ห้องพักไว้แล้ว ทั้งหมดนี่เป็นเงินอีก 10000 กว่าบาท เราถามพี่เบิ้มว่า แล้วมันจะเสร็จทันพรุ่งนี้มั้ย พี่เบิ้มบอกว่าไม่แน่ใจ อาจจะไม่ทันด้วยซ้ำ เราปรึกษากับภรรยา แล้วบอกเค้าไปว่า งั้นเราขอเที่ยวที่นี่ก่อน แล้วค่อยเดินทางกลับไป KL ในเช้าวันอังคารอีกรอบ เพราะว่า ลูกชายเรารอทริปนี้มา 1 ปีแล้ว เราก็อยากให้เค้าสนุกกับ legoland แม้ว่าอีพ่ออีแม่มันจะไม่สนุกแล้วก็ตาม พี่เบิ้มก็เข้าใจ บอกว่า งั้นคุณก็เที่ยวให้สนุกตามแพลนละกัน ถ้าใครขอดูพาสปอร์ตก็เอา report นี้ให้เค้าดู ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ได้ใบ report มาเรียบร้อย พี่เบิ้ม ก็ให้อีกคนที่นั่น ขับรถมาส่งเราที่โรงแรม กลับมาแบบไร้วิญญาณ เหนื่อยใจ และเหนื่อยกายหมดแรง นอนก็นอนไม่หลับ ลูกชายก็กลัว แม่แฟนก็กลัวว ผมกับแฟนก็กลัว แม่แฟนโชคดีหน่อยตรงที่ไม่ได้เสียอะไรไป passport เค้าอยู่กับตัว เหลือที่ พ่อแม่ลูกนี่แหละ จะเอาไงกับชีวิต แต่ก็เอาน่ะ จะพาลูกเที่ยวก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน อย่างน้อย ให้ลูกหายกลัวก่อน ให้สนุกก่อน แล้วค่อยแก้ปัญหากันหลังจากนั้นก็แล้วกัน สรุปกว่าจะได้นอน ตี 2 - -'
วันที่ 3 Legoland ตื่นมาวันนี้อาหารเช้าที่โรงแรมแย่มากกก อร่อยสุดคือไข่ลวก น้ำตาจะไหล กินกันแบบพะอืดพะอม ถือว่าแย่
ออกเดินทางออกจากโรงแรม และสิ่งเลวร้าย ตอน 9 โมงเช้า นั่ง taxi ไปครับ ระหว่างทางก็คุยกับ taxi ไป เค้าบอกว่าเค้าเคยทำงานที่สิงคโปร์ จะบอกว่า ในสิงคโปร์ไม่มีหรอกแบบนี้ มีการเตรียมพร้อมไว้อย่างดี จนโจรไม่กล้าที่จะทำ สังเกตนะครับ เค้าไม่ได้บอกว่าบ้านเค้าไม่มีโจรนะ แต่เค้าบอกว่า ป้องกันไว้เป็นอย่างดี ไฟสว่าง เยอะ ๆ กล้องวงจรปิดเพียบ แต่ที่นี่ เหมือนกับว่า ยะโฮยังไม่ได้เตรียมพร้อมกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวมากพอ ยะโฮตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าแต่ก่อนมาก เพราะ Legoland นี่แหละ ตำรวจ รัฐบาล ต้องเตรียมการมากกว่านี้ อาชญากรรมจะได้ลดลงไป ก็แลกเปลี่ยนกันไปครับ ลุงแกขับมาเรามาส่งถึง logoland ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ค่า taxi 33 RM
ถึงโรงแรม ไปที่ lobby แจ้งจะเชคอิน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าที่นี่เชคอินเวลา 4.00pm แม่เจ้าาา เย็นมากกก เตรียมไว้แค่ 2.00pm นะเนี่ย แต่ก็เอาน่ะ แจ้งรายละเอียดไปก่อนเลย เค้าบอกว่า ถึงเวลาจะโทรมาบอกนะ ถ้าได้ห้องก่อน ขอดูพาสปอร์ต ให้ดูใบแจ้งความพร้อมทำหน้าน่าสงสารไป - -'
ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ตอนนี้ได้เวลา legoland เปิดแล้วครับ เอาล่ะ เราจะไปกันล่ะ ลูกผม ไหนล่ะลูกผม โน่นนน ไปคลุกอยุ่ที่กอง lego กองมหึมาอยู่โน่นนนน นี่ลืมที่กลัวไปแล้วใช่มั้ย 555 ดูเค้าสนุกมากครับ ต่อโน่น ๆ ต่อนี่ เลยให้เวลาไปอีกนิด ก่อนจะเข้าไปสวนสนุกกัน
ตอนนี้เป็นรูปติดครอบครัวเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ขออภัย 55
เป็นบริเวณล็อบบี้ครับ
ตั๋ว legoland ที่ผมซื้อมา ผมซื้อที่เมืองไทยนะครับ ผ่านเวบของ legoland เอง จองแบบ book วัน และจองล่วงหน้า จะได้ราคาที่ดีกว่า มาซื้อที่นี่ครับ ลองกด ๆ กันดู ซื้อไม่ยากครบ ปรินทร์ออกมาจะมี barcode มาให้ด้วยเลย สบายมาก ใช้เข้าได้เลย เวลาจะเข้า โชว์พาสปอร์ตของคนที่ซื้อ ขอให้ชื่อตรงกัน แค่ 1 คนก็พอครับ และแน่นอน ผมใช้ใบแจ้งความ ผมซื้อไป 4 ใบ เป็นแบบ combo เข้าได้ทั้งสวนน้ำ และสวนสนุก แบบผู้ใหญ่ 2 ใบ แบบเด็ก 1 ใบ และแบบสวนสนุกอย่างเดียว 1 ใบ สำหรับคุณแม่
ส่วนโรงแรมผมก็จองล่วงหน้าหลายเดือน ได้ราคามาประมาณ 7000 กว่าบาท ห้องมีเตียงสองชั้น 1 เตียง แล้วก็เตียงใหญ่ 6 ฟุต 1 เตียง นอนได้เต็ม ๆ 5 คน หรือจะ 6 คนก็ได้ แถมอาหารเช้าแต่ไม่แน่ใจว่ากี่คนนะครับ ผมไปได้ทานทั้งหมด 4 คน
*** เจาะลึก ทริป เกนติ้ง เลโก้แลนด์ มาเลเซีย โดนกระชากกระเป๋า พาสปอร์ตหาย กลับบ้านยังไง (ฟะ) ***
ทริปนี้วางแผนไว้ปีนึง เพราะจะได้ตั๋วราคาถูกจาก แอร์เอเซีย เราจองตั๋วไว้เป็นแบบนี้ครับ
BKK -- KL
KL -- JOHOR
JOHOR -- KL
KL -- BKK
วางแพลนกันไว้ว่า วันแรกไปเที่ยว เกนติ้งซะหน่อย แล้วค่อยเดินทางไป โยโฮ เพื่อเที่ยวเลโก้แลนด์ แล้วก็เดินทางกลับบ้านเราครับ
แต่ว่าก่อนเดินทางสัก 4 เดือนได้ (ไม่แน่ใจเวลาขี้เกียจหาเมล์) ทาง แอร์เอเซียได้แจ้งมาว่า ตั๋วเดินทางจาก JOHOR -- KL นั้น ถูก ยกเลิก ต้องเปลี่ยนเที่ยวบิน เอาล่ะวา เอาไงดี ไฟลท์ถัดไปก็ไม่ได้ เพราะว่าเรามีตั๋ว KL -- BKK ในเวลาเย็นวันนั้น ถ้าเปลี่ยนก็เดินทางไม่ได้
หาวิธีอยู่ 1 วัน เลยแจ้งยกเลิก ไฟล์ KL -- BKK ไปด้วยเลย ขอ Refund มา แล้เปลี่ยนเป็นตั๋ว SGP -- BKK แทน ดังนั้น แผนการท่องเที่ยว เราจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้
BKK -- KL
KL -- JOHOR
SGP -- BKK
เพิ่มเงินไปอีกสัก 2000 บาทได้ ก็โอเค ได้ไปเดินเที่ยวสิงคโปร์สักครึ่งวัน จองตั๋วกลับไทยไว้ ค่ำ ๆ
ส่วนรายละเอียดที่พักนั้น คืนแรก จองที่พักที่เกนติ้งไว้เลย สมนาคุณจากคุณแม่ภรรยา จัดให้ไว้ 1 ห้อง ที่โรงแรม The Resort
คืนที่สอง เราจองโรงแรมในเมืองยะโฮไว้ เพื่อนอนค้าง เตรียมไปเที่ยวเลโก้แลนด์
คืนที่สาม เราจองโรงแรมเลโก้แลนด์ไว้ กะเที่ยวเต็มที่เลย
จริง ๆ ทริปนี้ เราจัดไว้ให้ลูกชายไว้ 6 ขวบของเราครับ เค้าเฝ้ารอมานานประมาณ 1 ปี ไม่ต้องบอกเลยนะครับ ว่าจะดีใจขนาดไหน
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เราต้องออกเดินทางกันแล้วล่ะครับ
ออกเดินทางวันแรก เราบินกันประมาณ 7.30 น. ครับ จะถึงที่โน่นประมาณ 10.30 ได้ เวลาที่นั่นเร็วกว่าเรา 1 ชม.ครับ
ถึงที่สนามบิน KL เราก็หารถบัส เพื่อตรงไปที่เกนติ้งกันเลยครับ ราคา ผู้ใหญ่ 35 RM เด็ก 25 RM
ถึงเกนติ้ง อากาศดีมาก ๆ ครับ นี่ขนาดที่มาเลย์ร้อนไม่ต่างกับเราเลยนะ แต่ว่าที่เกนติ้งที่หมอกบาง ๆ อากาศเห็นแจ้งไว้ที่ 23 องศา เย็นสบายทีเดียว
แต่ว่าตอนนี้สวนสนุก outdoor ของเกนติ้ง ปิดให้บริการนะครับ จะเหลือแต่สวนสนุก indoor เท่านั้น ผมเองก็ไม่ได้ซื้อตั๋วครับ ซื้อให้ลูกเล่นอย่างเดียว ประมาณ 16 rm ได้ ก็เล่นกันสนุกเลย ภาพช่วงนี้จะไม่ค่อยมี เพราะอะไร ไว้เฉลยทีหลังครับ
สวนสนุก outdoor ที่นี่ จะเปลี่ยนเป็น Fox Studio นะครับ เห็นว่าเสร็จปีหน้า แต่ผมดูจากการก่อสร้างแล้ว ยังงง ว่าทันได้ยังไง
เห็นว่าใช้งบลงทุน 60000 ล้านบาท ว้าวววววววววววว ไว้เปิดก่อน ไม่พลาดแน่
วันนี้เราค้างที่นี่นะครับ ได้ทานอาหารหลาย ๆ ร้าน มีอยุ่ร้าน อยุ่ใกล้ๆ รร.ที่พัก เป็นร้านบะหมี่หมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง มีข้าวด้วย อร่อยดีครับร้านนี้ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ จานละ 16-20 RM แต่รสชาติดีครับ
ออกเดินทางตอน 10 โมง เรามีเที่ยวบินไป โยโฮ ตอน บ่ายสองครับ ต้องออกจาก Genting ตรงไปสนามบิน KLIA2 เดินออกมา ไม่น่าเชื่อ เช้าวันอาทิตย์ไม่มีรถไปสนามบิน มีเที่ยวแรก 8.30 am แล้วอีกที 12.30 pm เลย เอาล่ะสิ ไปไงฟะเนี่ย สรุปไปตกที่ taxi ครับ สนนราคา 160 rm ก็โอเคครับ แพงว่า bus ไม่เท่าไหร่ ตรงนี้แนะนำว่า อย่าให้คนขายตั่ว bus เรียกให้นะครับ เค้าจะบวกไปถึง 180 rm ให้เรียกเอง จะมีคนยืนอยุ่ตรงนั้นเยอะ ๆ ถามเลยครับ ว่าใช่ taxi มั้ย เรียกไปได้เลย อาจจะได้ราคาถึง 150 rm ด้วยซ้ำ
ทางลงเขามีแต่หมอกเต็มไปหมด อากาศดีมาก ๆ ครับ
ถึงสนามบิน เวลาพอดีๆ ให้เดินเข้าช่องบินภายในประเทศ ตรงนี้ไม่ต้องผ่านด่านอะไรครับ ยื่นพาสปอร์ตโชว์เฉย ๆ ครับ เราก็จะบินไป โยโฮ กัน เวลาแจ้งไว้ว่า 55 นาที แต่บินจริง ๆ 30 นาทีเท่านั้น เร็วมาก ๆ
ถึงสนามบินโยโฮ ตรงนี้ใครบิน airasia ให้มองหา shuttle bus ไว้นะครับ จะนำคุณไปสู่ jb sentral ซึ่งเป็นย่านการค้า ไว้ต่อรถไปโน่นมานี่ได้ง่าย ๆ แล้ว shuttle bus นี่บริการฟรีครับ เอาตั๋ว airasia ให้เค้าดู นั่งไปได้เลย ไกลอยู่นะ ประมาณ 45 นาทีได้
ถึง jb sentral ผมก็เดินหาซื้อ sim card มาเลย์ไว้ใช้ครับ ได้มาในราคา 15 rm + เงินในการ์ด 10 rm เล่นเนตได้ 2 วัน สบาย ๆ แจ่มาก ๆ ประหยัดกว่าโรมมิ่งจากไทยไปตั้งเยอะ
เดินไปเดินมาเจอร้าน J.co Donut ครับ นั่งทานกันก่อน ส่วนตัวชอบโดนัทร้านนี้มาก ๆ อร่อย และไม่หวานเหมือน KK จัดกันไปคนละชิ้น แถมด้วยหอบไปอีก 1 กล่องใหญ่ ไว้ทานกันคืนนี้
เรานั่ง taxi เดินทางไปรร.ครับ ค่า taxi ไม่แพงครับ ประมาณ 10 rm ได้ เพราะมันห่างกันไม่ไกลมาก แค่ 2 km เอง
วันนี้เราจะนอนกันที่ Hallmark ครับ อยู่ใกล้ๆ กับห้าง ksl city ชาร์จแบตให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไป LegoLand กัน
ตอนเย็น ๆ สัก 6 โมงเย็น ออกเดินไปข้าง ๆ โรงแรมครับ เดินไปห้าง ksl city กัน หาอะไรทาน ได้ทานอาหารญี่ปุ่นกันครับ เป็น sushi รสชาติใช้ได้ แต่ราคาผมว่าโอเคเลย เป็นมิตรดีมาก ไปเดินเล่น lotus ซื้อน้ำฟักยี่ห้อ Yeo มา ลูกชายชอบมาก กินทีหมดกล่องตลอด
ขากลับเราเดินออกมาจาก Ksl city ประมาณ 2 ทุ่มครับ เราก็เดินกลับมาทางเดิมครับ ระยะทางประมาณ 800 เมตรได้
เดินมาได้สัก 500 เมตร แฟนผม โดนกระชากกระเป๋าสะพายครับ โจรขี่มอเตอร์ไซค์มา มาคนเดียวด้วย กระชากแล้วขับต่อไปเลย ผมวิ่งตามไปได้สัก 100 เมตร ถึงป้อมตำรวจพอดี ตะโกนบอกตำรวจ ตำรวจก็ขับมอไซค์ตามไป 2 คัน ผมนั่งรอได้สัก 15 - 30 นาที พี่ตำรวจก็กลับมามือเปล่าครับ ไม่ได้อะไรกลับมา ไม่เจอตัวด้วย เรียบร้อยครับ ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต โดนกระชากกระเป๋า แล้วมันต้องมาเกิดที่ต่างประเทศด้วยนะ ก็คุยภาษาอังกฤษกับตำรวจไป งู ๆ ปลา ๆ เดินหากล้องแถวนั้น ก็ไม่มีกล้องสักตัวครับ คนในบ้านแถวนั้น ก็บอกว่า เกิดเหตุบ่อย แถวนี้ ต้องระวัง ดีแล้วที่ไม่บาดเจ็บ คนก่อน ๆ มีบาดเจ็บด้วย
นี่เป็นถนนที่เราโดนคนร้ายกระชากกระเป๋าครับ จุดเกิดเหตุ อยู่ใกล้ๆ ป้อมตำรวจมาก ๆ ทำกันได้ลงคอ TT
สิ่งที่หายไปมีเงินสด ทั้งเงินมาเลย์ เงินสิงคโปร์ เงินไทย Iphone 6+ 1 เครื่อง พาสปอร์ต 3 เล่ม มีของผม ของภรรยา ของลูกชาย บัตรประชาชน เครดิตการ์ด 1 ใบ ยาดม - -'
เอาไงล่ะครับ พาสปอร์ตหาย เราจะเดินทางกลับกันยังไง ตำรวจตรงป้อมแนะนำให้เราไปสถานีตำรวจครับ อยุ่ตรงแถว jb sentral ที่เรามาเมื่อตอนกลางวัน หลังจากรอตรงนั้น 1 ชม. คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว ก็เลยไปที่สถานีตำรวจครับ นั่ง taxi ไป ตำรวจที่มารับเรื่อง ดูเหมือนคนจีนหน่อย ๆ พิมพ์ภาษาอังกฤษไม่ได้ ตายล่ะ ผมเองต้องเป็นคนพิมพ์ภาษาอังกฤษเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ในใบแจ้งความเสียเอง หลังจากนั้น เค้าก็ให้นั่งรอ สักพัก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ดูเหมือนเป็นฝรั่ง ผิวดำ ตัวใหญ่มากก เข้ามาเรียกเราไปที่ห้องด้านใน เหมือนกับสอบถามอะไรอีกรอบ ก่อนจะอออกใบ report ให้ แล้วก็แนะนำเราว่า เราต้องไปทำพาสปอร์ตชั่วคราว เพื่อที่จะกลับประเทศได้ และใกล้ๆ นี่ไม่มี ต้องเดินทางไปที่ KL อีกรอบ เพื่อทำพาสปอร์ตที่ว่านี้ ระยะทางห่างกัน 400 โล และเราควรไปพรุ่งนี้เช้าทันที เพราะว่าเห็นว่าเรามีไฟลท์กลับวันอังคารที่สิงคโปร์ ไม่งั้นเราจะผ่านแดนไมได้ มึนเลยคราวนี้ นั่งคุยกับภรรยา 2 คน พรุ่งนี้เราต้องไป legoland เรามีตั๋วเข้าสวนสนุก สวนน้ำ และ ห้องพักไว้แล้ว ทั้งหมดนี่เป็นเงินอีก 10000 กว่าบาท เราถามพี่เบิ้มว่า แล้วมันจะเสร็จทันพรุ่งนี้มั้ย พี่เบิ้มบอกว่าไม่แน่ใจ อาจจะไม่ทันด้วยซ้ำ เราปรึกษากับภรรยา แล้วบอกเค้าไปว่า งั้นเราขอเที่ยวที่นี่ก่อน แล้วค่อยเดินทางกลับไป KL ในเช้าวันอังคารอีกรอบ เพราะว่า ลูกชายเรารอทริปนี้มา 1 ปีแล้ว เราก็อยากให้เค้าสนุกกับ legoland แม้ว่าอีพ่ออีแม่มันจะไม่สนุกแล้วก็ตาม พี่เบิ้มก็เข้าใจ บอกว่า งั้นคุณก็เที่ยวให้สนุกตามแพลนละกัน ถ้าใครขอดูพาสปอร์ตก็เอา report นี้ให้เค้าดู ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ได้ใบ report มาเรียบร้อย พี่เบิ้ม ก็ให้อีกคนที่นั่น ขับรถมาส่งเราที่โรงแรม กลับมาแบบไร้วิญญาณ เหนื่อยใจ และเหนื่อยกายหมดแรง นอนก็นอนไม่หลับ ลูกชายก็กลัว แม่แฟนก็กลัวว ผมกับแฟนก็กลัว แม่แฟนโชคดีหน่อยตรงที่ไม่ได้เสียอะไรไป passport เค้าอยู่กับตัว เหลือที่ พ่อแม่ลูกนี่แหละ จะเอาไงกับชีวิต แต่ก็เอาน่ะ จะพาลูกเที่ยวก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน อย่างน้อย ให้ลูกหายกลัวก่อน ให้สนุกก่อน แล้วค่อยแก้ปัญหากันหลังจากนั้นก็แล้วกัน สรุปกว่าจะได้นอน ตี 2 - -'
วันที่ 3 Legoland ตื่นมาวันนี้อาหารเช้าที่โรงแรมแย่มากกก อร่อยสุดคือไข่ลวก น้ำตาจะไหล กินกันแบบพะอืดพะอม ถือว่าแย่
ออกเดินทางออกจากโรงแรม และสิ่งเลวร้าย ตอน 9 โมงเช้า นั่ง taxi ไปครับ ระหว่างทางก็คุยกับ taxi ไป เค้าบอกว่าเค้าเคยทำงานที่สิงคโปร์ จะบอกว่า ในสิงคโปร์ไม่มีหรอกแบบนี้ มีการเตรียมพร้อมไว้อย่างดี จนโจรไม่กล้าที่จะทำ สังเกตนะครับ เค้าไม่ได้บอกว่าบ้านเค้าไม่มีโจรนะ แต่เค้าบอกว่า ป้องกันไว้เป็นอย่างดี ไฟสว่าง เยอะ ๆ กล้องวงจรปิดเพียบ แต่ที่นี่ เหมือนกับว่า ยะโฮยังไม่ได้เตรียมพร้อมกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวมากพอ ยะโฮตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะกว่าแต่ก่อนมาก เพราะ Legoland นี่แหละ ตำรวจ รัฐบาล ต้องเตรียมการมากกว่านี้ อาชญากรรมจะได้ลดลงไป ก็แลกเปลี่ยนกันไปครับ ลุงแกขับมาเรามาส่งถึง logoland ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ค่า taxi 33 RM
ถึงโรงแรม ไปที่ lobby แจ้งจะเชคอิน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าที่นี่เชคอินเวลา 4.00pm แม่เจ้าาา เย็นมากกก เตรียมไว้แค่ 2.00pm นะเนี่ย แต่ก็เอาน่ะ แจ้งรายละเอียดไปก่อนเลย เค้าบอกว่า ถึงเวลาจะโทรมาบอกนะ ถ้าได้ห้องก่อน ขอดูพาสปอร์ต ให้ดูใบแจ้งความพร้อมทำหน้าน่าสงสารไป - -'
ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ตอนนี้ได้เวลา legoland เปิดแล้วครับ เอาล่ะ เราจะไปกันล่ะ ลูกผม ไหนล่ะลูกผม โน่นนน ไปคลุกอยุ่ที่กอง lego กองมหึมาอยู่โน่นนนน นี่ลืมที่กลัวไปแล้วใช่มั้ย 555 ดูเค้าสนุกมากครับ ต่อโน่น ๆ ต่อนี่ เลยให้เวลาไปอีกนิด ก่อนจะเข้าไปสวนสนุกกัน
ตอนนี้เป็นรูปติดครอบครัวเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ขออภัย 55
เป็นบริเวณล็อบบี้ครับ
ตั๋ว legoland ที่ผมซื้อมา ผมซื้อที่เมืองไทยนะครับ ผ่านเวบของ legoland เอง จองแบบ book วัน และจองล่วงหน้า จะได้ราคาที่ดีกว่า มาซื้อที่นี่ครับ ลองกด ๆ กันดู ซื้อไม่ยากครบ ปรินทร์ออกมาจะมี barcode มาให้ด้วยเลย สบายมาก ใช้เข้าได้เลย เวลาจะเข้า โชว์พาสปอร์ตของคนที่ซื้อ ขอให้ชื่อตรงกัน แค่ 1 คนก็พอครับ และแน่นอน ผมใช้ใบแจ้งความ ผมซื้อไป 4 ใบ เป็นแบบ combo เข้าได้ทั้งสวนน้ำ และสวนสนุก แบบผู้ใหญ่ 2 ใบ แบบเด็ก 1 ใบ และแบบสวนสนุกอย่างเดียว 1 ใบ สำหรับคุณแม่
ส่วนโรงแรมผมก็จองล่วงหน้าหลายเดือน ได้ราคามาประมาณ 7000 กว่าบาท ห้องมีเตียงสองชั้น 1 เตียง แล้วก็เตียงใหญ่ 6 ฟุต 1 เตียง นอนได้เต็ม ๆ 5 คน หรือจะ 6 คนก็ได้ แถมอาหารเช้าแต่ไม่แน่ใจว่ากี่คนนะครับ ผมไปได้ทานทั้งหมด 4 คน