บทสรุปการเดินทาง จีน - ทิเบต บนเส้นทางของผม
วันสุดท้ายของการเดินทาง ผมมีเวลาในช่วงเช้าถึงเที่ยงในมหานครฉงซิ่ง ก่อนที่จะต้องเดินทางกลับประเทศไทย เราตัดสินใจที่จะไปเดินซื้อของฝากในอาคารที่ไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก
อาคารหลังใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นติดกับแม่น้ำเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมหานครแห่งนี้ อาคารในรูปแบบจีนโบราณ
ดูจากภายนอกที่ว่าค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวครับ การผสมผสานระหว่างความโบราณแบบจีนกับกลิ่นไอของตะวันตกดูจะผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมาย ถ้าผมจำไม่ผิดพลาดอาคารจะมี 9 ชั้น ด้านบนจะมีลานกว้างที่ตกแต่งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปวิวของมหานครแห่งนี้ได้อย่างดีทีเดียว
ส่วนด้านบนของอาคาร สวยงามแปลกตาดีครับ
สินค้ามากมายสำหรับนักท่องเที่ยว เราสามารถต่อรองราคาได้ตามปกติ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก หากคุณซื้อหลายชิ้นผมขอแนะนำใหัต่อรองเลยครับ ราคาจะลดลงได้มากทีเดียว
ในแต่ละชั้นของอาคารหลังนี้ จะประกอบไปด้วยโซนต่างๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เฟอร์นิเจอร์ กำไล สร้อยคอ หินสีต่างๆ ฯลฯ ให้เลือกสรรตามที่นักท่องเที่ยวต้องการ
บริเวณร้านค้าสินค้าประเภทต่างๆภายในตึก
เราใช้เวลาไม่มากกับการเลือกซื้อของฝากจากที่นี่ เพราะโปรแกรมสุดท้ายก่อนที่จะเราจะกลับไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวไปสนามบินนั้นคือ การไปกินหม้อไฟแบบจีน รูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆกับสุกี้บ้านเราครับ มีให้เลือกทั้งบัฟเฟต์ และสั่งเป็นจาน
มีหลายมุมให้เลือกถ่ายรูปสวยดีครับ
5 ผู้ร่วมเดินทางไปกับผมในครั้งนี้
แต่รสชาติที่ต่างไปแน่นอนนั้นคือน้ำซุปครับ เรียกได้ว่าเผ็ดมากๆแม้กระทั่งกับคนที่กินเผ็ดได้อย่างผม อาหารก็มีให้เลือกมากมาย หลากหลาย
หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลาที่เราจะต้องไปเตรียมกระเป๋าเพื่อไปยังสนามบินระหว่างประเทศของมหานครฉงซิ่งเพื่อกลับเมืองไทย
ซุปหม้อใหญ่ มีอาหารให้เลือกมากมาย แต่นำ้ซุปรสชาติเผ็ดมากครับ
บรรยากาศในร้าน Starbucks ใกล้ๆโรงแรมที่พัก
บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมมีมุมเล็กๆจัดแสดงวิธีการดื่มชาในแบบของจีน
ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีจากโรงแรมที่พักใจกลางเมืองเราก็มาถึงอาคารสนามบินระหว่างประเทศ อาคารไม่ใหญ่นักแต่ดูเหมือนนักท่องเที่ยวจะค่อนข้างมากที่เดินทางเข้าออกจากที่นี่
เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เช็คอินได้ก่อนเวลาเครื่องออกแค่ 1 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจึงต่อแถวเรียงคิวเมื่อใกล้ถึงเวลาไฟลท์ที่ต้องเดินทาง
การตรวจสัมภาระก็ดูจะเข้มงวดเหมือนทุกสนามบินที่เราผ่านๆมา ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างเรียบร้อย อีกไม่กี่นาทีเราทั้ง 6 คนที่ออกเดินทางมาตามความฝันของตัวเองที่ครั้งหนึ่งอยากมีประสบการณ์ในการไปเยือนดินแดนที่หลายคนเรียกมันว่า “หลังคาโลก” จะจบลง
ความทรงจำตลอดการเดินทาง 10 วันในสถานที่ที่แตกต่างจากที่เราเคยอยู่ อาหารการกินรสชาติแตกต่างจากที่เรากินเป็นปกติ ความเป็นอยู่แตกต่างจากที่เราเคยสัมผัส และที่สำคัญประสบการณ์แตกต่างจากที่เราเคยได้รับมา มันเป็นเครื่องที่จะคอยเตือนผมว่าผมจะไม่ลืมดินแดนแห่งนี้ไปตลอดกาล ดินแดนแห่งมนต์ขลัง “หลังคาโลก”
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นอีกประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่มิอาจจะรู้ลืม......
บันทึกเหตุการณ์ 10 วันที่เกิดขึ้นในดินแดนหลังคาโลก
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านเรื่องราวของการแบกเป้ไปหลังคาโลกนะครับ ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ถ่ายทอดออกมาน่าจะพอมีประโยชน์สำหรับใครที่สนใจที่เดินทางไปเยือนที่นี่ซักครั้ง มีข้อแนะนำบางประการที่อยากจะบอกกล่าวสำหรับคนที่สนใจเพื่อได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนสำหรับประสบการณ์ดีๆในดินแดนหลังคาโลกครับ
ข้อแนะนำ แม้ว่าคุณอาจจะเตรียมตัวมาพร้อมก่อนออกเดินทางเป็นเดือนๆ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย อาหารการกิน แต่ผมขอแนะนำให้เตรียมยาไดอาม็อคให้พร้อมสำหรับทุกคนก่อนออกเดินทาง และควรกินก่อนจะออกเดินทางไปยังลาซาอย่างน้อย 1วัน ผลของยาอาจจะทำให้คุณเสียน้ำ ฉี่บ่อย เหน็บชาตามร่างกาย แต่ดีกว่าแน่ๆครับถ้าจะช่วยไม่ให้เกิดปัญหา attitude sickness
นอกจากนี้การเข้าห้องน้ำบนรถไฟ ผมขอแนะนำให้เข้าให้พร้อมตั้งแต่อยู่ในสถานีต้นทางที่คุณโดยสาร หรือถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำจะทั้งถ่ายหนักหรือถ่ายเบา การเข้าห้องน้ำหลังจากรถไฟหยุดพักตามสถานีต่างจะสะอาดที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่บนรถไฟแต่ละขบวนจะทำความสะอาดห้องน้ำก่อนถึงสถานีและจะปิดไม่ให้เข้าห้องน้ำในช่วงจอดสถานีต่างๆ แต่จะเปิดให้ใช้อีกครั้งเมื่อรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีซึ่งนั้นแปลว่าคุณจะได้เข้าเป็นคนแรกหลังจากได้ทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อย
ประสบการณ์เล็กๆที่ดูตื่นเต้นพอสมควรบนรถไฟและในอีกหลายๆสถานที่เกี่ยวกับห้องน้ำในประเทศจีน ผมไม่แน่ใจนักว่าทำไมคนที่เข้าห้องน้ำจะไม่ค่อยกดชำระ หรือราดน้ำหลังเสร็จธุระ ภาพที่เราอาจจะตกใจเมื่อใช้ห้องน้ำต่อจากคนกลุ่มนั้น คุณๆคงเข้าใจนะครับว่าคุณจะเจอกับอะไร
ส่วนห้องน้ำตามร้านค้าสำหรับผม ผมแนะนำว่าหากคุณต้องเข้าห้องน้ำระหว่างการเดินทางในทิเบต พุ่มไม้ หรือข้างทางที่มีมุมเล็กๆให้ทำธุระได้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเข้าห้องน้ำในจุดพักรถหรือแม้แต่ในร้านอาหารก็ตาม
สำหรับเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากชาวทิเบตจะกินเนื้อสัตว์เพียง 2 ชนิด นั้นคือ จามรี และแกะ คุณอาจจะไม่ชอบถูกใจกับกลิ่นที่อาจจะรุนแรงมากนัก ผมขอแนะนำให้เตรียมอาหารสำเร็จรูปไปพอสมควรสำหรับทุกมื้อครับ น้ำพริกอาจจะเป็นสิ่งที่เพิ่มรสชาติให้กับอาหารได้ดีทีเดียว
การตรวจสัมภาระในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานีรถไฟ หรือที่ท่องเที่ยวต่างๆค่อนข้างเข้มงวด การจัดเตรียมสัมภาระพวกสเปรย์จึงต้องนำออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/33775320 เปิดเส้นทางใหม่ที่คนไทยน้อยคนนักเคยไปถึง “พระราชวังโปตาลา-วัดโจคัง-ทะเลสาบลาว็อก-ธารน้ำแข็งมิดุย”......
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/33779378 เริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯสู่หลังคาโลก
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/33782794 ตะลุยสุสานจิ๋นซี ฮ่องเต้
ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/33784827 นั่งรถไฟไป "หลังคาโลก" ทิเบต
ตอนที่ 5
http://ppantip.com/topic/33788603 ขอต้อนรับสู่ดินแดน ”หลังคาโลก”
ตอนที่ 6
http://ppantip.com/topic/33799398 พระราชวังโปตาลา - วัดโจคัง ศูนย์รวมใจของชาวทิเบต
ตอนที่ 7
http://ppantip.com/topic/33805284 จากลาซา สู่หนิงซิ ด้านหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย
ตอนที่ 8
http://ppantip.com/topic/33812287 จากหนิงซิ (บายี) - สู่เมืองโพมิ เส้นทางเส้นทรหด
ตอนที่ 9
http://ppantip.com/topic/33825898 ทิเบตพลาดไม่ได้ "ทะเลสาบลาว็อก-ธารน้ำแข็งมิดุย"
ตอนที่ 10
http://ppantip.com/topic/33834611 ผมเรียกที่นี่ว่า “ซัมบาลา”
ตอนที่ 11
http://ppantip.com/topic/33851383 “ฉงชิ่ง” วัฒนธรรมร่วมสมัยของจีนยุคใหม่
แบกเป้จากศูนย์สู่”หลังคาโลก” (12)
วันสุดท้ายของการเดินทาง ผมมีเวลาในช่วงเช้าถึงเที่ยงในมหานครฉงซิ่ง ก่อนที่จะต้องเดินทางกลับประเทศไทย เราตัดสินใจที่จะไปเดินซื้อของฝากในอาคารที่ไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก
อาคารหลังใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นติดกับแม่น้ำเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมหานครแห่งนี้ อาคารในรูปแบบจีนโบราณ
ดูจากภายนอกที่ว่าค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวครับ การผสมผสานระหว่างความโบราณแบบจีนกับกลิ่นไอของตะวันตกดูจะผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมาย ถ้าผมจำไม่ผิดพลาดอาคารจะมี 9 ชั้น ด้านบนจะมีลานกว้างที่ตกแต่งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปวิวของมหานครแห่งนี้ได้อย่างดีทีเดียว
ส่วนด้านบนของอาคาร สวยงามแปลกตาดีครับ
สินค้ามากมายสำหรับนักท่องเที่ยว เราสามารถต่อรองราคาได้ตามปกติ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก หากคุณซื้อหลายชิ้นผมขอแนะนำใหัต่อรองเลยครับ ราคาจะลดลงได้มากทีเดียว
ในแต่ละชั้นของอาคารหลังนี้ จะประกอบไปด้วยโซนต่างๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เฟอร์นิเจอร์ กำไล สร้อยคอ หินสีต่างๆ ฯลฯ ให้เลือกสรรตามที่นักท่องเที่ยวต้องการ
บริเวณร้านค้าสินค้าประเภทต่างๆภายในตึก
เราใช้เวลาไม่มากกับการเลือกซื้อของฝากจากที่นี่ เพราะโปรแกรมสุดท้ายก่อนที่จะเราจะกลับไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวไปสนามบินนั้นคือ การไปกินหม้อไฟแบบจีน รูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆกับสุกี้บ้านเราครับ มีให้เลือกทั้งบัฟเฟต์ และสั่งเป็นจาน
มีหลายมุมให้เลือกถ่ายรูปสวยดีครับ
5 ผู้ร่วมเดินทางไปกับผมในครั้งนี้
แต่รสชาติที่ต่างไปแน่นอนนั้นคือน้ำซุปครับ เรียกได้ว่าเผ็ดมากๆแม้กระทั่งกับคนที่กินเผ็ดได้อย่างผม อาหารก็มีให้เลือกมากมาย หลากหลาย
หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลาที่เราจะต้องไปเตรียมกระเป๋าเพื่อไปยังสนามบินระหว่างประเทศของมหานครฉงซิ่งเพื่อกลับเมืองไทย
ซุปหม้อใหญ่ มีอาหารให้เลือกมากมาย แต่นำ้ซุปรสชาติเผ็ดมากครับ
บรรยากาศในร้าน Starbucks ใกล้ๆโรงแรมที่พัก
บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมมีมุมเล็กๆจัดแสดงวิธีการดื่มชาในแบบของจีน
ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีจากโรงแรมที่พักใจกลางเมืองเราก็มาถึงอาคารสนามบินระหว่างประเทศ อาคารไม่ใหญ่นักแต่ดูเหมือนนักท่องเที่ยวจะค่อนข้างมากที่เดินทางเข้าออกจากที่นี่
เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เช็คอินได้ก่อนเวลาเครื่องออกแค่ 1 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจึงต่อแถวเรียงคิวเมื่อใกล้ถึงเวลาไฟลท์ที่ต้องเดินทาง
การตรวจสัมภาระก็ดูจะเข้มงวดเหมือนทุกสนามบินที่เราผ่านๆมา ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างเรียบร้อย อีกไม่กี่นาทีเราทั้ง 6 คนที่ออกเดินทางมาตามความฝันของตัวเองที่ครั้งหนึ่งอยากมีประสบการณ์ในการไปเยือนดินแดนที่หลายคนเรียกมันว่า “หลังคาโลก” จะจบลง
ความทรงจำตลอดการเดินทาง 10 วันในสถานที่ที่แตกต่างจากที่เราเคยอยู่ อาหารการกินรสชาติแตกต่างจากที่เรากินเป็นปกติ ความเป็นอยู่แตกต่างจากที่เราเคยสัมผัส และที่สำคัญประสบการณ์แตกต่างจากที่เราเคยได้รับมา มันเป็นเครื่องที่จะคอยเตือนผมว่าผมจะไม่ลืมดินแดนแห่งนี้ไปตลอดกาล ดินแดนแห่งมนต์ขลัง “หลังคาโลก”
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนที่ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นอีกประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่มิอาจจะรู้ลืม......
บันทึกเหตุการณ์ 10 วันที่เกิดขึ้นในดินแดนหลังคาโลก
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านเรื่องราวของการแบกเป้ไปหลังคาโลกนะครับ ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ถ่ายทอดออกมาน่าจะพอมีประโยชน์สำหรับใครที่สนใจที่เดินทางไปเยือนที่นี่ซักครั้ง มีข้อแนะนำบางประการที่อยากจะบอกกล่าวสำหรับคนที่สนใจเพื่อได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนสำหรับประสบการณ์ดีๆในดินแดนหลังคาโลกครับ
ข้อแนะนำ แม้ว่าคุณอาจจะเตรียมตัวมาพร้อมก่อนออกเดินทางเป็นเดือนๆ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย อาหารการกิน แต่ผมขอแนะนำให้เตรียมยาไดอาม็อคให้พร้อมสำหรับทุกคนก่อนออกเดินทาง และควรกินก่อนจะออกเดินทางไปยังลาซาอย่างน้อย 1วัน ผลของยาอาจจะทำให้คุณเสียน้ำ ฉี่บ่อย เหน็บชาตามร่างกาย แต่ดีกว่าแน่ๆครับถ้าจะช่วยไม่ให้เกิดปัญหา attitude sickness
นอกจากนี้การเข้าห้องน้ำบนรถไฟ ผมขอแนะนำให้เข้าให้พร้อมตั้งแต่อยู่ในสถานีต้นทางที่คุณโดยสาร หรือถ้ามีเหตุจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำจะทั้งถ่ายหนักหรือถ่ายเบา การเข้าห้องน้ำหลังจากรถไฟหยุดพักตามสถานีต่างจะสะอาดที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่บนรถไฟแต่ละขบวนจะทำความสะอาดห้องน้ำก่อนถึงสถานีและจะปิดไม่ให้เข้าห้องน้ำในช่วงจอดสถานีต่างๆ แต่จะเปิดให้ใช้อีกครั้งเมื่อรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีซึ่งนั้นแปลว่าคุณจะได้เข้าเป็นคนแรกหลังจากได้ทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อย
ประสบการณ์เล็กๆที่ดูตื่นเต้นพอสมควรบนรถไฟและในอีกหลายๆสถานที่เกี่ยวกับห้องน้ำในประเทศจีน ผมไม่แน่ใจนักว่าทำไมคนที่เข้าห้องน้ำจะไม่ค่อยกดชำระ หรือราดน้ำหลังเสร็จธุระ ภาพที่เราอาจจะตกใจเมื่อใช้ห้องน้ำต่อจากคนกลุ่มนั้น คุณๆคงเข้าใจนะครับว่าคุณจะเจอกับอะไร
ส่วนห้องน้ำตามร้านค้าสำหรับผม ผมแนะนำว่าหากคุณต้องเข้าห้องน้ำระหว่างการเดินทางในทิเบต พุ่มไม้ หรือข้างทางที่มีมุมเล็กๆให้ทำธุระได้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเข้าห้องน้ำในจุดพักรถหรือแม้แต่ในร้านอาหารก็ตาม
สำหรับเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากชาวทิเบตจะกินเนื้อสัตว์เพียง 2 ชนิด นั้นคือ จามรี และแกะ คุณอาจจะไม่ชอบถูกใจกับกลิ่นที่อาจจะรุนแรงมากนัก ผมขอแนะนำให้เตรียมอาหารสำเร็จรูปไปพอสมควรสำหรับทุกมื้อครับ น้ำพริกอาจจะเป็นสิ่งที่เพิ่มรสชาติให้กับอาหารได้ดีทีเดียว
การตรวจสัมภาระในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานีรถไฟ หรือที่ท่องเที่ยวต่างๆค่อนข้างเข้มงวด การจัดเตรียมสัมภาระพวกสเปรย์จึงต้องนำออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/33775320 เปิดเส้นทางใหม่ที่คนไทยน้อยคนนักเคยไปถึง “พระราชวังโปตาลา-วัดโจคัง-ทะเลสาบลาว็อก-ธารน้ำแข็งมิดุย”......
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/33779378 เริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯสู่หลังคาโลก
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/33782794 ตะลุยสุสานจิ๋นซี ฮ่องเต้
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/33784827 นั่งรถไฟไป "หลังคาโลก" ทิเบต
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/33788603 ขอต้อนรับสู่ดินแดน ”หลังคาโลก”
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/33799398 พระราชวังโปตาลา - วัดโจคัง ศูนย์รวมใจของชาวทิเบต
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/33805284 จากลาซา สู่หนิงซิ ด้านหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย
ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/33812287 จากหนิงซิ (บายี) - สู่เมืองโพมิ เส้นทางเส้นทรหด
ตอนที่ 9 http://ppantip.com/topic/33825898 ทิเบตพลาดไม่ได้ "ทะเลสาบลาว็อก-ธารน้ำแข็งมิดุย"
ตอนที่ 10 http://ppantip.com/topic/33834611 ผมเรียกที่นี่ว่า “ซัมบาลา”
ตอนที่ 11 http://ppantip.com/topic/33851383 “ฉงชิ่ง” วัฒนธรรมร่วมสมัยของจีนยุคใหม่