จั่วหัวมาก็เอาเลย บางคนที่เข้ามาอ่านคงจะคิดว่าเป็นเรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ใช่มั้ย เฮ้ย!อ่านบ่อยแล้วปะ
โน่วววว!!!
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เราพบเจอ "ด้วยตนเอง" ตอนอยู่มหาวิทยาลัย (ต่อจากนี้ขออนุญาตย่อว่ามหาลัยหรือ ม. นะคะ) ซึ่งเราเจอได้เยอะสิ่งมากอยู่ช่วงหนึ่ง คาดว่าเนื่องด้วยช่วงนั้นดูดวงให้เพื่อนบ่อยในขณะที่ตัวเองไม่ได้มีพลังมากขนาดนั้น และมีเหตุอื่นที่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก (จะเล่าต่อไปภายหน้านะ ยาว)
- ขอแบ่งเป็นเรื่องๆนะคะ เพราะแต่ละครั้งที่เจอ เจอเล็กเจอน้อย ไม่ได้เชื่อมโยงกัน และไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตปัจจุบันค่ะ
- ไทม์ไลน์ไม่เรียงกันนะคะ แก่แล้ว ลืมค่ะ หุหุ
1. "ใคร" ที่ริมรั้ว
เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เราศึกษาอยู่ในมหาลัยแห่งนี้ ในคณะที่เรียนเกี่ยวกับป่าไม้ (ได้ข่าวว่ามีคณะเดียว) ซึ่งคณะนี้เนี่ย จะมีรั้วล้อมรอบเป็นรั้วไม้ซึ่งแต่ละชิ้นถูกตีห่างกันประมาณ 1 นิ้ว (นึกภาพตามค่ะ) เหตุมันเกิดขึ้นเมื่อเรากับเพื่อนอีก 2 คนต้องปั่นจักรยานกลับโดยผ่านคณะของพวกเราไปออกประตูสัตว์แพทย์เพื่อส่งเพื่อนของเราคนหนึ่งกลับหอโดยสวัสดิภาพ ก็มีแต่ผู้หญิง ต้องดูแลกันเองดีๆค่ะ
ตอนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เรา 3 คนกลับจากทำงานหรืออ่านหนังสือนี่แหละที่ชมรม ขอแทนเพื่อนทั้ง 2 ว่า A และ B นะ เรากับ B อยู่หอใกล้กันทางงามวงศ์วาน ในขณะที่ A อยู่หอตรงซ.พหลฯ เรากับ A มีจักรยานทั้งคู่ จึงตกลงกันว่าเราปั่นโดยมี B ซ้อนท้ายเพื่อไปส่ง A ที่ประตูสัตว์แพทย์ และค่อยกลับหอมาด้วยกัน ก็ปั่นไปเม้าท์ไป กินลมชมวิว(มืดๆ) จนถึงคณะของเรา ทีนี้หางตาเราเหลือบไปเห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ผมสั้น ใส่เชิ้ตสีขาวแขนสั้นเหมือนเสื้อนิสิต โน้มตัวออกมาจากรั้วในลักษณะหันทั้งตัวมาทางพวกเราแล้วเอียงตัวข้างๆอะ เห็นแค่ครึ่งตัวบนที่โน้มออกมาเพราะครึ่งตัวล่างอยู่ในรั้ว ซึ่งทันทีที่เราเห็น สำนึกของเราบอกว่า ตรงนั้นมันไม่มีช่องว่างขนาดให้ตัวคนผ่านออกมาได้แน่ๆ เพราะฉะนั้น... เราจึงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น (ทุกครั้งที่เจอทำงี้ตลอด คิดเอาเองว่า ถ้าเราทำเป็นไม่เห็น "เขา" จะคิดว่าเราไม่เห็น) แล้วปั่นผ่านไปตามปกติ ปากก็ยังคงเม้าท์แม้จะเงียบไปแป๊บนึงตอนเห็นก็เถอะ ก็ทำการส่งเพื่อนถึงประตูได้สำเร็จก็ได้เวลากลับ ขากลับเราก็แอบภาวนาว่า อย่าเห็นอีกเล้ย ไปไหนก็ไปเห๊อะ แต่พอถึงจุดเดิม เห็นจ้า ลักษณะเดิมครบถ้วน แค่เปลี่ยนด้านที่หันมาทางด้านเราอีกรอบ คราวนี้เงียบ....และปั่นอย่างเร็ว ลูกระน่งระนาดไม่สนใจ B คงเจ็บก้น จึงเอ่ยปากว่า "ทำไมแกปั่นเร็วจัง" เราเลยบอกไปว่า "ไม่มีอะไรหรอกแก"
แต่เราเรียนวิทยาศาสตร์ค่ะ ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ พอตอนเช้า(ขอพิสูจน์ตอนสว่างๆนะ) เราจึงเดินไปที่รั้วบริเวณนั้นเผื่อมีไม้หลุดออกสักแผ่นสองแผ่นและมีคนมาชะโงกตอนดึกๆจริง และพบว่ารั้วอย่างแน่นจ้า และไม่มีสิ่งของตั้งสูงใดๆที่จะทำให้ตาฝาดมองเป็นผู้ชายสวมเสื้อนิสิตได้เลย
2. ตามกลับหอ
ตอนนั้นเราอยู่ปี 3 วันนั้นเป็นวันพระ พระจันทร์เต็มดวง (ลืมบอก เราจะเห็นวันพระที่พระจันทร์เต็มดวงทุกครั้ง) เราเพิ่งกลับมาจากบ้านตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง นึกครึ้มอกครึ้มใจหาเพื่อดูบอล เลยปั่นเข้าไปในคณะ กะว่าจะดูบอลที่สโมสรฯ อย่างที่บอกคณะเรามีรั้ว มีรั้วก็ต้องมีประตู และอีประตูนี่ปิดเร็วด้วย แต่ยังมีประตูอื่นที่ใกล้ๆกัน ปั่นไปก็คิดไปว่าประตูปิดยังว้า พอถึงประตูก็ปรากฏว่าปิดจริงๆ เราเลยปั่นไปอีกประตูใกล้ๆกัน แหงะไปเห็นที่ยอดประตูเท่านั้นแหละ สิ่งที่เห็นคือสภาพร่างขนาดเท่าเด็กทารก แต่ผอมติดกระดูกและพุงโล เกาะตรงยอดของรั้วอยู่ในลักษณะเหมือนกอดซี่ลูกกรงไว้แน่นและหันมามองเรา ป้าด! วิธีเดิมค่ะ ทำเป็นมองไม่เห็น แต่เราปั่นมาเร็วไง จึงต้องไถลไปกลับรถโดยผ่านรั้วตรงนั้นแล้วปั่นกลับอย่างเร็ว ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองปั่นเร็วมาก แต่ขณะเดียวกันรู้สึกหน่วงในหัว เหมือนปวดหัวตุ๊บๆแต่มีความกดดันมากๆอยู่ เรายิ่งรีบปั่น ปั่นข้ามถนน (ดีรถไม่ชน) ปั่นเข้าซอย จนถึงหอมีความรู้สึกกดดันตามมาด้วยตลอดและหนักขึ้นเรื่อยๆ เราจอดจักรยาน ไม่ล๊อคไม่อะไรทั้งสิ้น และเปิดประตูหอเข้าไป ผลั่วะ! หลุดค่ะ เบาสบาย ความรู้สึกกดดันเหมือนจะทนไม่ไหว หายไปทันที เรามองไปที่ศาล ศาลจีนตั้งพื้นสีแดงๆนี่แหละ ที่อยู่หน้าหอ รู้สึกว่าไอ้ "สิ่งนั้น" เข้ามาไม่ได้เพราที่นี่มีเจ้าของอยู่แล้ว เรายกมือไหว้ขอบคุณและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เข้าไปตรงนั้นตอนดึกๆอีก
เดี๋ยวมาต่อนะ แม่เรียกกินข้าว
อะ ล้อเล่น ปวดตาแล้ว ว่างๆจะมาต่อกระทู้หน้าอีกเรื่องสองเรื่อง และซีรี่ย์ "เสียงลึกลับในป่า" กันนะ เยอะเหมือนกัน เพราะตอนเรียนเที่ยวบ่อยเว่อร์
อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวนะ เจอจริง สถานการณ์จริง เค้าไม่ได้มาจองเวรอะไรแค่มาให้เห็น ขอบคุณที่แวะมาอ่านจ้า
สิ่งลี้ลับที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านบางเขน
โน่วววว!!!
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เราพบเจอ "ด้วยตนเอง" ตอนอยู่มหาวิทยาลัย (ต่อจากนี้ขออนุญาตย่อว่ามหาลัยหรือ ม. นะคะ) ซึ่งเราเจอได้เยอะสิ่งมากอยู่ช่วงหนึ่ง คาดว่าเนื่องด้วยช่วงนั้นดูดวงให้เพื่อนบ่อยในขณะที่ตัวเองไม่ได้มีพลังมากขนาดนั้น และมีเหตุอื่นที่น่าจะเป็นสาเหตุหลัก (จะเล่าต่อไปภายหน้านะ ยาว)
- ขอแบ่งเป็นเรื่องๆนะคะ เพราะแต่ละครั้งที่เจอ เจอเล็กเจอน้อย ไม่ได้เชื่อมโยงกัน และไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับชีวิตปัจจุบันค่ะ
- ไทม์ไลน์ไม่เรียงกันนะคะ แก่แล้ว ลืมค่ะ หุหุ
1. "ใคร" ที่ริมรั้ว
เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เราศึกษาอยู่ในมหาลัยแห่งนี้ ในคณะที่เรียนเกี่ยวกับป่าไม้ (ได้ข่าวว่ามีคณะเดียว) ซึ่งคณะนี้เนี่ย จะมีรั้วล้อมรอบเป็นรั้วไม้ซึ่งแต่ละชิ้นถูกตีห่างกันประมาณ 1 นิ้ว (นึกภาพตามค่ะ) เหตุมันเกิดขึ้นเมื่อเรากับเพื่อนอีก 2 คนต้องปั่นจักรยานกลับโดยผ่านคณะของพวกเราไปออกประตูสัตว์แพทย์เพื่อส่งเพื่อนของเราคนหนึ่งกลับหอโดยสวัสดิภาพ ก็มีแต่ผู้หญิง ต้องดูแลกันเองดีๆค่ะ
ตอนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เรา 3 คนกลับจากทำงานหรืออ่านหนังสือนี่แหละที่ชมรม ขอแทนเพื่อนทั้ง 2 ว่า A และ B นะ เรากับ B อยู่หอใกล้กันทางงามวงศ์วาน ในขณะที่ A อยู่หอตรงซ.พหลฯ เรากับ A มีจักรยานทั้งคู่ จึงตกลงกันว่าเราปั่นโดยมี B ซ้อนท้ายเพื่อไปส่ง A ที่ประตูสัตว์แพทย์ และค่อยกลับหอมาด้วยกัน ก็ปั่นไปเม้าท์ไป กินลมชมวิว(มืดๆ) จนถึงคณะของเรา ทีนี้หางตาเราเหลือบไปเห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ผมสั้น ใส่เชิ้ตสีขาวแขนสั้นเหมือนเสื้อนิสิต โน้มตัวออกมาจากรั้วในลักษณะหันทั้งตัวมาทางพวกเราแล้วเอียงตัวข้างๆอะ เห็นแค่ครึ่งตัวบนที่โน้มออกมาเพราะครึ่งตัวล่างอยู่ในรั้ว ซึ่งทันทีที่เราเห็น สำนึกของเราบอกว่า ตรงนั้นมันไม่มีช่องว่างขนาดให้ตัวคนผ่านออกมาได้แน่ๆ เพราะฉะนั้น... เราจึงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น (ทุกครั้งที่เจอทำงี้ตลอด คิดเอาเองว่า ถ้าเราทำเป็นไม่เห็น "เขา" จะคิดว่าเราไม่เห็น) แล้วปั่นผ่านไปตามปกติ ปากก็ยังคงเม้าท์แม้จะเงียบไปแป๊บนึงตอนเห็นก็เถอะ ก็ทำการส่งเพื่อนถึงประตูได้สำเร็จก็ได้เวลากลับ ขากลับเราก็แอบภาวนาว่า อย่าเห็นอีกเล้ย ไปไหนก็ไปเห๊อะ แต่พอถึงจุดเดิม เห็นจ้า ลักษณะเดิมครบถ้วน แค่เปลี่ยนด้านที่หันมาทางด้านเราอีกรอบ คราวนี้เงียบ....และปั่นอย่างเร็ว ลูกระน่งระนาดไม่สนใจ B คงเจ็บก้น จึงเอ่ยปากว่า "ทำไมแกปั่นเร็วจัง" เราเลยบอกไปว่า "ไม่มีอะไรหรอกแก"
แต่เราเรียนวิทยาศาสตร์ค่ะ ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ พอตอนเช้า(ขอพิสูจน์ตอนสว่างๆนะ) เราจึงเดินไปที่รั้วบริเวณนั้นเผื่อมีไม้หลุดออกสักแผ่นสองแผ่นและมีคนมาชะโงกตอนดึกๆจริง และพบว่ารั้วอย่างแน่นจ้า และไม่มีสิ่งของตั้งสูงใดๆที่จะทำให้ตาฝาดมองเป็นผู้ชายสวมเสื้อนิสิตได้เลย
2. ตามกลับหอ
ตอนนั้นเราอยู่ปี 3 วันนั้นเป็นวันพระ พระจันทร์เต็มดวง (ลืมบอก เราจะเห็นวันพระที่พระจันทร์เต็มดวงทุกครั้ง) เราเพิ่งกลับมาจากบ้านตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง นึกครึ้มอกครึ้มใจหาเพื่อดูบอล เลยปั่นเข้าไปในคณะ กะว่าจะดูบอลที่สโมสรฯ อย่างที่บอกคณะเรามีรั้ว มีรั้วก็ต้องมีประตู และอีประตูนี่ปิดเร็วด้วย แต่ยังมีประตูอื่นที่ใกล้ๆกัน ปั่นไปก็คิดไปว่าประตูปิดยังว้า พอถึงประตูก็ปรากฏว่าปิดจริงๆ เราเลยปั่นไปอีกประตูใกล้ๆกัน แหงะไปเห็นที่ยอดประตูเท่านั้นแหละ สิ่งที่เห็นคือสภาพร่างขนาดเท่าเด็กทารก แต่ผอมติดกระดูกและพุงโล เกาะตรงยอดของรั้วอยู่ในลักษณะเหมือนกอดซี่ลูกกรงไว้แน่นและหันมามองเรา ป้าด! วิธีเดิมค่ะ ทำเป็นมองไม่เห็น แต่เราปั่นมาเร็วไง จึงต้องไถลไปกลับรถโดยผ่านรั้วตรงนั้นแล้วปั่นกลับอย่างเร็ว ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองปั่นเร็วมาก แต่ขณะเดียวกันรู้สึกหน่วงในหัว เหมือนปวดหัวตุ๊บๆแต่มีความกดดันมากๆอยู่ เรายิ่งรีบปั่น ปั่นข้ามถนน (ดีรถไม่ชน) ปั่นเข้าซอย จนถึงหอมีความรู้สึกกดดันตามมาด้วยตลอดและหนักขึ้นเรื่อยๆ เราจอดจักรยาน ไม่ล๊อคไม่อะไรทั้งสิ้น และเปิดประตูหอเข้าไป ผลั่วะ! หลุดค่ะ เบาสบาย ความรู้สึกกดดันเหมือนจะทนไม่ไหว หายไปทันที เรามองไปที่ศาล ศาลจีนตั้งพื้นสีแดงๆนี่แหละ ที่อยู่หน้าหอ รู้สึกว่าไอ้ "สิ่งนั้น" เข้ามาไม่ได้เพราที่นี่มีเจ้าของอยู่แล้ว เรายกมือไหว้ขอบคุณและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เข้าไปตรงนั้นตอนดึกๆอีก
เดี๋ยวมาต่อนะ แม่เรียกกินข้าว
อะ ล้อเล่น ปวดตาแล้ว ว่างๆจะมาต่อกระทู้หน้าอีกเรื่องสองเรื่อง และซีรี่ย์ "เสียงลึกลับในป่า" กันนะ เยอะเหมือนกัน เพราะตอนเรียนเที่ยวบ่อยเว่อร์
อาจจะไม่ค่อยน่ากลัวนะ เจอจริง สถานการณ์จริง เค้าไม่ได้มาจองเวรอะไรแค่มาให้เห็น ขอบคุณที่แวะมาอ่านจ้า