ผมซื้อคอนโดห้อง 40 ตรมอยู่เอง แฟนมีคอนโดของตัวเองอยู่แล้วอยู่กับครอบครัว
บางครั้งแฟนมาหาผมที่คอนโดบ้าง แต่เธอติว่าอึดอัดห้องเล็ก แคบเกินไป
เราวางแผนอนาคตร่วมกันว่าถ้าอยู่ด้วยกันจะอยู่คอนโด เพราะดูแลรักษาง่าย (แฟนผมไม่ชอบทำงานบ้าน)
เราตกลงกันว่าจะไม่มีลูก และไม่จัดงานแต่งงานใหญ่โต อาจจดทะเบียนเฉยๆ หรือจัดงานเล็กๆจริงๆ
สุดท้ายตกลงกันว่าจะหาคอนโด 2 ห้องนอน ใหญ่ขึ้น หาได้ทำเลที่เราทั้งคู่รับได้ ซึ่งก็แพงพอตัว เกือบ8 ล้านบาท
เธอเป็นคนโลเลมาก อยากได้ห้องใหญ่ขึ้นแต่เสียดายเงินหลายล้าน ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี
ผมเลยถามว่าอยู่ห้อง 40 ตรม ของผมได้มั้ย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ซื้อใหม่ อันเก่าก็ขายไป เธอบอกอึดอัด อยู่ไม่ได้
พอดีเธอต้องเปลี่ยนงาน รายได้ลดลงจากเดิมมาก เดิมตั้งใจว่าจะผ่อนกันคนละครึ่ง ชื่อร่วม
ในเมื่อเธออยากได้ แต่ตัดสินใจไม่ได้ผมก็ตัดสินใจให้แล้วกัน ผมเลยบอกว่าผมซื้อคนเดียวก็ได้ ตัดปัญหา แต่เป็นชื่อผมคนเดียวนะ เธออยากช่วยเท่าไหร่ก็ช่วย เธอก็โอเค
ผมก็ตกลงไปทำสัญญา ยื่นกู้ เนื่องจากเป็นมือสอง จะกู้ได้ไม่เต็ม ผมคำนวณแล้วว่าถ้ากู้ 85% ผมจะขาดเงินสด 1 แสนบาท ต้องขายหุ้นหรือขายสลาก ผมจึงถามเธอก่อน ว่าถ้าผมกู้ไม่ผ่าน หรือเงินขาด ผมจะยืมเงินสดเธอก่อน เธอบอกว่าไม่มีปัญหา กู้ร่วมก็ได้ ถ้ากู้ไม่ผ่าน หรือ ให้ยืมเงินสด ยังไงก็ต้องช่วยอยู่แล้ว
พอตกลงกันได้ก็เหมือนจะราบรื่น เธอก็ถามๆผมว่าจะได้อยู่เมื่อไหร่ ผมบอกเธอไปว่าซื้อเสร็จเงินสดผมจะแทบหมดพอดี ต้องรอเก็บเงินใหม่ 3-4 เดือน แต่ถ้ารีบเธอก็ช่วยออกค่าบิ้วอิน หรือไม่ก็คนละครึ่งก็ได้ถ้าอยากช่วย ถ้าไม่ช่วยก็ต้องรอหน่อย
เวลาผ่านไปประมาณ 1เดือน ผลออกมาได้ 85%จริงๆ ผมจึงโทรไปบอกเธอว่าขอยืม2แสน เธอบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาให้ แต่พอถึงวันจริง เธอไม่ให้ บอกว่าเธอยังไม่มั่นใจที่จะซื้อ ผมรีบตัดสินใจไป ไม่ถามเธอให้ดีเนื่องจากเธอติดใจ 2 เรื่อง
1 คอนโด เป็นชื่อผม ไม่มีเธอเลย
ตามความคิดผม แค่คิดว่ารายได้เธอน้อยลงมาก ไม่อยากให้เป็นภาระเธอ และยังเป็นแค่แฟนกัน ผมเลยบอกเธอไปว่าผมซื้อเอง ถือว่าเป็นชื่อผมจะได้ไม่มีปัญหา ไม่ต้องทะเลาะกันทีหลัง ถ้าเลิกกัน จะได้จัดการง่ายๆ
ซึ่งแฟนผมรับไม่ได้ หาว่าผมเห็นแก่ตัว คิดเล็กคิดน้อย คิดแต่ว่าจะเลิกกัน งี้ถ้าเลิกกัน คอนโดก็เป็นของผมสิ ผมขายคอนโดก็ได้กำไร เธอก็ไม่ได้อะไร (ทำไมไม่คิดว่าคนกู้ เสียดอกเบี้ยไม่สนุกนะ แล้วมันก็ไม่ได้ขายง่ายๆเลยนะ)
ซึ่งผมเคยถามเธอแล้วว่าออกคนละครึ่งมั้ย ชื่อ2คน เธอบอกว่าผมคิดเล็กคิดน้อย คิดทุกอย่างเป๊ะๆ ต้องหารสองเป๊ะๆ แล้วเธอก็ไม่ตอบว่าเอาหรือไม่เอา
ผมเคยถามว่าจดทะเบียนเลยดีมั้ย ถ้าไม่มั่นใจ เธอก็ไม่ตอบว่าไง
2 เรื่องที่ผมบอกให้เธออกค่าบิ้วอิน เธอบอกว่าผมคิดเล็กคิดน้อย คิดว่าเธอไม่รู้เหรอว่า ถ้าเลิกกัน เงินค่าบิ้วอิน เธอก็ไม่ได้คืน
ผมก็บอกแล้วว่าผมออกเอง แต่รอหน่อยถ้าเธอช่วยก็ดีหรือคนละครึ่ง แต่เธอเคืองมาก เธอบอกว่าในเมื่อทุกอย่างเป็นของผม ผมก็ออกเองไปสิ
ตอนที่ขอยืมสองแสนแล้วเธอไม่ให้ ก็ยังไม่ได้ทะเลาะกันนะ ผมยังงงอยู่ว่าทำไใบอกจะช่วยแล้วไม่ช่วย ผมก็ต้องไปคุยกะแบงค์ใหม่ขอเพิ่มจาก85%ซึ่งแบงค์ก็โอเคไม่มีปัญหา
พอตกลงจะซื้อจริงๆ เธอค่อยมาบอกว่ารับไม่ได้
ถือว่าผมบ่นให้ฟังแล้วกันครับ
แล้วก็อยากฟังความเห็นเพื่อนๆ ว่าผมทำไม่ถูกเหรอครับ ผมงง
ขอบคุณครับ
ทะเลาะกับแฟนเรื่องซื้อที่อยู่อาศัย ขอถามเพื่อนๆครับ
บางครั้งแฟนมาหาผมที่คอนโดบ้าง แต่เธอติว่าอึดอัดห้องเล็ก แคบเกินไป
เราวางแผนอนาคตร่วมกันว่าถ้าอยู่ด้วยกันจะอยู่คอนโด เพราะดูแลรักษาง่าย (แฟนผมไม่ชอบทำงานบ้าน)
เราตกลงกันว่าจะไม่มีลูก และไม่จัดงานแต่งงานใหญ่โต อาจจดทะเบียนเฉยๆ หรือจัดงานเล็กๆจริงๆ
สุดท้ายตกลงกันว่าจะหาคอนโด 2 ห้องนอน ใหญ่ขึ้น หาได้ทำเลที่เราทั้งคู่รับได้ ซึ่งก็แพงพอตัว เกือบ8 ล้านบาท
เธอเป็นคนโลเลมาก อยากได้ห้องใหญ่ขึ้นแต่เสียดายเงินหลายล้าน ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี
ผมเลยถามว่าอยู่ห้อง 40 ตรม ของผมได้มั้ย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ซื้อใหม่ อันเก่าก็ขายไป เธอบอกอึดอัด อยู่ไม่ได้
พอดีเธอต้องเปลี่ยนงาน รายได้ลดลงจากเดิมมาก เดิมตั้งใจว่าจะผ่อนกันคนละครึ่ง ชื่อร่วม
ในเมื่อเธออยากได้ แต่ตัดสินใจไม่ได้ผมก็ตัดสินใจให้แล้วกัน ผมเลยบอกว่าผมซื้อคนเดียวก็ได้ ตัดปัญหา แต่เป็นชื่อผมคนเดียวนะ เธออยากช่วยเท่าไหร่ก็ช่วย เธอก็โอเค
ผมก็ตกลงไปทำสัญญา ยื่นกู้ เนื่องจากเป็นมือสอง จะกู้ได้ไม่เต็ม ผมคำนวณแล้วว่าถ้ากู้ 85% ผมจะขาดเงินสด 1 แสนบาท ต้องขายหุ้นหรือขายสลาก ผมจึงถามเธอก่อน ว่าถ้าผมกู้ไม่ผ่าน หรือเงินขาด ผมจะยืมเงินสดเธอก่อน เธอบอกว่าไม่มีปัญหา กู้ร่วมก็ได้ ถ้ากู้ไม่ผ่าน หรือ ให้ยืมเงินสด ยังไงก็ต้องช่วยอยู่แล้ว
พอตกลงกันได้ก็เหมือนจะราบรื่น เธอก็ถามๆผมว่าจะได้อยู่เมื่อไหร่ ผมบอกเธอไปว่าซื้อเสร็จเงินสดผมจะแทบหมดพอดี ต้องรอเก็บเงินใหม่ 3-4 เดือน แต่ถ้ารีบเธอก็ช่วยออกค่าบิ้วอิน หรือไม่ก็คนละครึ่งก็ได้ถ้าอยากช่วย ถ้าไม่ช่วยก็ต้องรอหน่อย
เวลาผ่านไปประมาณ 1เดือน ผลออกมาได้ 85%จริงๆ ผมจึงโทรไปบอกเธอว่าขอยืม2แสน เธอบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาให้ แต่พอถึงวันจริง เธอไม่ให้ บอกว่าเธอยังไม่มั่นใจที่จะซื้อ ผมรีบตัดสินใจไป ไม่ถามเธอให้ดีเนื่องจากเธอติดใจ 2 เรื่อง
1 คอนโด เป็นชื่อผม ไม่มีเธอเลย
ตามความคิดผม แค่คิดว่ารายได้เธอน้อยลงมาก ไม่อยากให้เป็นภาระเธอ และยังเป็นแค่แฟนกัน ผมเลยบอกเธอไปว่าผมซื้อเอง ถือว่าเป็นชื่อผมจะได้ไม่มีปัญหา ไม่ต้องทะเลาะกันทีหลัง ถ้าเลิกกัน จะได้จัดการง่ายๆ
ซึ่งแฟนผมรับไม่ได้ หาว่าผมเห็นแก่ตัว คิดเล็กคิดน้อย คิดแต่ว่าจะเลิกกัน งี้ถ้าเลิกกัน คอนโดก็เป็นของผมสิ ผมขายคอนโดก็ได้กำไร เธอก็ไม่ได้อะไร (ทำไมไม่คิดว่าคนกู้ เสียดอกเบี้ยไม่สนุกนะ แล้วมันก็ไม่ได้ขายง่ายๆเลยนะ)
ซึ่งผมเคยถามเธอแล้วว่าออกคนละครึ่งมั้ย ชื่อ2คน เธอบอกว่าผมคิดเล็กคิดน้อย คิดทุกอย่างเป๊ะๆ ต้องหารสองเป๊ะๆ แล้วเธอก็ไม่ตอบว่าเอาหรือไม่เอา
ผมเคยถามว่าจดทะเบียนเลยดีมั้ย ถ้าไม่มั่นใจ เธอก็ไม่ตอบว่าไง
2 เรื่องที่ผมบอกให้เธออกค่าบิ้วอิน เธอบอกว่าผมคิดเล็กคิดน้อย คิดว่าเธอไม่รู้เหรอว่า ถ้าเลิกกัน เงินค่าบิ้วอิน เธอก็ไม่ได้คืน
ผมก็บอกแล้วว่าผมออกเอง แต่รอหน่อยถ้าเธอช่วยก็ดีหรือคนละครึ่ง แต่เธอเคืองมาก เธอบอกว่าในเมื่อทุกอย่างเป็นของผม ผมก็ออกเองไปสิ
ตอนที่ขอยืมสองแสนแล้วเธอไม่ให้ ก็ยังไม่ได้ทะเลาะกันนะ ผมยังงงอยู่ว่าทำไใบอกจะช่วยแล้วไม่ช่วย ผมก็ต้องไปคุยกะแบงค์ใหม่ขอเพิ่มจาก85%ซึ่งแบงค์ก็โอเคไม่มีปัญหา
พอตกลงจะซื้อจริงๆ เธอค่อยมาบอกว่ารับไม่ได้
ถือว่าผมบ่นให้ฟังแล้วกันครับ
แล้วก็อยากฟังความเห็นเพื่อนๆ ว่าผมทำไม่ถูกเหรอครับ ผมงง
ขอบคุณครับ