ที่มา Piyabutr Saengkanokkul
นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. และนักวิชาการคณะนิติราษฎร์
ได้เขียนถึงนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรม
เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเพิ่งถูกเพิ่งหมายจับ และถูกนำตัวไปยังศาลทหารเมื่อ
ช่วงค่ำที่ผ่านมา ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังนี้
นายรังสิมันต์ โรม หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า "โรม" เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ กำลัง
จบการศึกษา เป็นนิติศาสตรบัณฑิตในอีกไม่กี่เดือนนี้
ผมเริ่มรู้จักเขา เพราะ เขาและเพื่อนๆ มักมาซักถามผมหลังการบรรยาย เขาตามลง
ทะเบียนเรียนวิชาทางกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง
นิติปรัชญา กับพวกเรา คณะนิติราษฎร์
เท่าที่ผมรู้จัก โรมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย การพูดจามีระเบียบวิธี และนุ่มนวล แต่เป็น
ลักษณะ "อ่อนนอก แข็งใน" ภายใต้ความสุภาพเรียบร้อยนั้น หากอะไรที่ไม่ถูกต้อง
ตามหลักการ เขาพร้อมที่จะยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง
โรมและเพื่อนๆของเขาในนามของกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ทำกิจกรรม
รณรงค์ต่อเนื่อง ตั้งแต่ คัดค้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โรงอาหารใหม่ ราคาแพง
นิรโทษกรรม "เหมาเข่ง" ฯลฯ
โรมเริ่มสนิทกับพวกอาจารย์มากขึ้น เมื่อเขามาช่วยทำกิจกรรม โดยเฉพาะกรณีรณรงค์
ให้การเลือกตั้ง 2 กพ 57
รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ทำให้เขาเริ่มออกมายืนแถวหน้ามากขึ้นๆ เพราะ เขาเห็นว่า
รัฐประหารเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง การกระทำของ คสช ไม่ถูกต้อง และบรรดาอาจารย์ที่สอน
เขาหลายคน หรืออาจารย์ในทางตำรา ไม่ประพฤติปฏิบัติตามหลักการที่พร่ำสอน
โรมบอกผมว่า อยากไปศึกษากฎหมายมหาชนที่ฝรั่งเศส เขาไม่มีเงินมากพอที่จะ
เรียนภาษาฝรั่งเศสที่ Alliance française จึงเรียนภาษาฝรั่งเศสที่คณะจัดให้ไปพลางก่อน
ผมแนะนำเขาว่า ระหว่างรอหาทุนการศึกษา ให้สมัครเรียนปริญญาโท สาขากฎหมายมหาชน
ไปก่อน ส่วนเรื่องค่าเทอม หากมีปัญหา ก็เดี๋ยวมาหาทางกัน เพราะ ปีที่แล้ว คณะยอมให้
นักศึกษาบางรายผ่อนจ่ายค่าเทอมได้
เขาและเพื่อนๆ แวะมาดื่ม กิน สนทนา กับผมบ่อยๆ ที่บ้านผมบ้าง ที่ร้านอาหาร ร้านเหล้า
ร้านเบียร์บ้าง
ผมบอกเขาว่า หากไม่มีเงินซื้อหนังสือ ก็ให้มาหยิบยืมหนังสือของผมไปได้ เล่มที่เขายืมไป
เพื่อใช้ทำรายงาน คือ เจตนารมณ์ของกฎหมาย ของ Montesquieu วันก่อน ยังเห็นหนังสือ
เล่มนี้ปรากฏอยู่ในคลิปข่าวสกู๊ปเรื่องเขา
หลังสอบเสร็จ เขาอยากสนทนากับผม เพื่อเล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจสู้กับ คสช แต่ผม
เดินทางไปเสวนาวิชาการที่ต่างประเทศ เลยยังไม่มีโอกาสได้ดื่ม กิน สนทนากัน เขา
เลยแจ้งให้ผมทราบว่า เขาจะเดินตามแนวทาง ดื้อแพ่ง ต่อ คสช
เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะ เสี่ยง อันตราย และอาจสร้างความเดือดร้อนให้
กับเขา แต่ก็นั่นแหละ เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีอัตวินิจฉัยของตนเอง
ผมก็ทำได้แต่สนับสนุนให้กำลังใจ
ผมเห็นว่า การตัดสินใจอย่างกล้าหาญสู้กับระบอบ คสช ที่เขาและเพื่อนๆ กระทำอยู่นั้น
คือ การนำสิ่งที่เขาได้เรียนมาใช้ในชีวิตจริง
คณะรัฐประหาร กระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง มีความผิดฐานกบฏ แต่กลับใช้อำนาจ
ออกสิ่งที่พวกเขาให้ค่ามันว่าเป็น "กฎหมาย" เพื่อนิรโทษกรรมให้แก่ตนเอง ละเมิดสิทธิ
และเสรีภาพของบุคคลอื่นอย่างรุนแรง ใครไม่เชื่อฟัง ก็ลงโทษ
สำหรับโรม ซึ่งเป็นนักศึกษานิติศาสตร์ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เขาจึงเลือกเดินทาง
ดื้อแพ่งและต่อต้านอย่างสันติต่อ "กฎหมาย" ของระบอบ คสช
ผมบอกเขาว่า ผมพึ่งส่งคะแนนสอบคัดเลือกเข้าเรียน ป โท ไป
เขาบอกผมว่า เขาทำข้อสอบในส่วนของวิชากฎหมายมหาชน ได้ดีที่สุด
ผมบอกเขาว่า ถ้าผ่านข้อเขียน วันสอบสัมภาษณ์ วันที่ 18 ก.ค. นี้ ไม่ต้องกังวล หากมา
สอบไม่ได้ ผมจะแจ้งทางคณะ เพื่อขอเว้นให้มาสัมภาษณ์ภายหลัง หรือถ้าไม่ได้จริงๆ
ผมจะขอมาสอบสัมภาษณ์ในคุกนี่แหละ
ผมนับถือในความกล้าหาญของเขาและเพื่อน
เมื่อผมอายุเท่าเขา ผมยังไม่กล้าหาญเท่านี้
เมื่อผมอายุมากขึ้น ผมก็ทำได้แต่ให้กำลังใจสนับสนุน
พลังของคนหนุ่มสาว คือ ความเป็นไปได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435332879
นี่คือความหวังใหม่ ของพวกคนรุ่นเก่า ...
หรือ เราจะมี 14 ตุลา (2) กันอีก
"รังสิมันต์ โรม" นักศึกษาถูกหมายจับศาลทหาร จากมุมมองของอาจารย์ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ...ข่าวมติชนออนไลน์ ..sao..เหลือ..noi
นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. และนักวิชาการคณะนิติราษฎร์
ได้เขียนถึงนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรม
เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งเพิ่งถูกเพิ่งหมายจับ และถูกนำตัวไปยังศาลทหารเมื่อ
ช่วงค่ำที่ผ่านมา ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาดังนี้
นายรังสิมันต์ โรม หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า "โรม" เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มธ กำลัง
จบการศึกษา เป็นนิติศาสตรบัณฑิตในอีกไม่กี่เดือนนี้
ผมเริ่มรู้จักเขา เพราะ เขาและเพื่อนๆ มักมาซักถามผมหลังการบรรยาย เขาตามลง
ทะเบียนเรียนวิชาทางกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง
นิติปรัชญา กับพวกเรา คณะนิติราษฎร์
เท่าที่ผมรู้จัก โรมเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย การพูดจามีระเบียบวิธี และนุ่มนวล แต่เป็น
ลักษณะ "อ่อนนอก แข็งใน" ภายใต้ความสุภาพเรียบร้อยนั้น หากอะไรที่ไม่ถูกต้อง
ตามหลักการ เขาพร้อมที่จะยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง
โรมและเพื่อนๆของเขาในนามของกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ทำกิจกรรม
รณรงค์ต่อเนื่อง ตั้งแต่ คัดค้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โรงอาหารใหม่ ราคาแพง
นิรโทษกรรม "เหมาเข่ง" ฯลฯ
โรมเริ่มสนิทกับพวกอาจารย์มากขึ้น เมื่อเขามาช่วยทำกิจกรรม โดยเฉพาะกรณีรณรงค์
ให้การเลือกตั้ง 2 กพ 57
รัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 ทำให้เขาเริ่มออกมายืนแถวหน้ามากขึ้นๆ เพราะ เขาเห็นว่า
รัฐประหารเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง การกระทำของ คสช ไม่ถูกต้อง และบรรดาอาจารย์ที่สอน
เขาหลายคน หรืออาจารย์ในทางตำรา ไม่ประพฤติปฏิบัติตามหลักการที่พร่ำสอน
โรมบอกผมว่า อยากไปศึกษากฎหมายมหาชนที่ฝรั่งเศส เขาไม่มีเงินมากพอที่จะ
เรียนภาษาฝรั่งเศสที่ Alliance française จึงเรียนภาษาฝรั่งเศสที่คณะจัดให้ไปพลางก่อน
ผมแนะนำเขาว่า ระหว่างรอหาทุนการศึกษา ให้สมัครเรียนปริญญาโท สาขากฎหมายมหาชน
ไปก่อน ส่วนเรื่องค่าเทอม หากมีปัญหา ก็เดี๋ยวมาหาทางกัน เพราะ ปีที่แล้ว คณะยอมให้
นักศึกษาบางรายผ่อนจ่ายค่าเทอมได้
เขาและเพื่อนๆ แวะมาดื่ม กิน สนทนา กับผมบ่อยๆ ที่บ้านผมบ้าง ที่ร้านอาหาร ร้านเหล้า
ร้านเบียร์บ้าง
ผมบอกเขาว่า หากไม่มีเงินซื้อหนังสือ ก็ให้มาหยิบยืมหนังสือของผมไปได้ เล่มที่เขายืมไป
เพื่อใช้ทำรายงาน คือ เจตนารมณ์ของกฎหมาย ของ Montesquieu วันก่อน ยังเห็นหนังสือ
เล่มนี้ปรากฏอยู่ในคลิปข่าวสกู๊ปเรื่องเขา
หลังสอบเสร็จ เขาอยากสนทนากับผม เพื่อเล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจสู้กับ คสช แต่ผม
เดินทางไปเสวนาวิชาการที่ต่างประเทศ เลยยังไม่มีโอกาสได้ดื่ม กิน สนทนากัน เขา
เลยแจ้งให้ผมทราบว่า เขาจะเดินตามแนวทาง ดื้อแพ่ง ต่อ คสช
เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนัก เพราะ เสี่ยง อันตราย และอาจสร้างความเดือดร้อนให้
กับเขา แต่ก็นั่นแหละ เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีอัตวินิจฉัยของตนเอง
ผมก็ทำได้แต่สนับสนุนให้กำลังใจ
ผมเห็นว่า การตัดสินใจอย่างกล้าหาญสู้กับระบอบ คสช ที่เขาและเพื่อนๆ กระทำอยู่นั้น
คือ การนำสิ่งที่เขาได้เรียนมาใช้ในชีวิตจริง
คณะรัฐประหาร กระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง มีความผิดฐานกบฏ แต่กลับใช้อำนาจ
ออกสิ่งที่พวกเขาให้ค่ามันว่าเป็น "กฎหมาย" เพื่อนิรโทษกรรมให้แก่ตนเอง ละเมิดสิทธิ
และเสรีภาพของบุคคลอื่นอย่างรุนแรง ใครไม่เชื่อฟัง ก็ลงโทษ
สำหรับโรม ซึ่งเป็นนักศึกษานิติศาสตร์ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เขาจึงเลือกเดินทาง
ดื้อแพ่งและต่อต้านอย่างสันติต่อ "กฎหมาย" ของระบอบ คสช
ผมบอกเขาว่า ผมพึ่งส่งคะแนนสอบคัดเลือกเข้าเรียน ป โท ไป
เขาบอกผมว่า เขาทำข้อสอบในส่วนของวิชากฎหมายมหาชน ได้ดีที่สุด
ผมบอกเขาว่า ถ้าผ่านข้อเขียน วันสอบสัมภาษณ์ วันที่ 18 ก.ค. นี้ ไม่ต้องกังวล หากมา
สอบไม่ได้ ผมจะแจ้งทางคณะ เพื่อขอเว้นให้มาสัมภาษณ์ภายหลัง หรือถ้าไม่ได้จริงๆ
ผมจะขอมาสอบสัมภาษณ์ในคุกนี่แหละ
ผมนับถือในความกล้าหาญของเขาและเพื่อน
เมื่อผมอายุเท่าเขา ผมยังไม่กล้าหาญเท่านี้
เมื่อผมอายุมากขึ้น ผมก็ทำได้แต่ให้กำลังใจสนับสนุน
พลังของคนหนุ่มสาว คือ ความเป็นไปได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435332879
นี่คือความหวังใหม่ ของพวกคนรุ่นเก่า ...
หรือ เราจะมี 14 ตุลา (2) กันอีก