เรื่องราวต่อของ greece กับ eu

ทาง eu ไม่ช่วยเหลือทางการเงินกับ greece แน่นอนแล้ว
ทาง eu ก็จะตัดสินใจต่อไปว่า ควรจะให้อยู่ใน eu ต่อไปไหม
ทำใจเรื่อง ตัดปัญหาเรื่องเงิน

ทาง greece บอก ขอถามประชาชนก่อน
ไว้ได้ผลเป็นทางการจะมาบอก
ถ้า ประชาชนอยากอยู่ต่อ จะยอมรับข้อเสนอจากทาง eu
Eu ก็จะยอมให้เงินช่วยเหลือต่อ

สรุป อยากได้อะไรก็ทำให้ clear นะ

6 เหตุผลที่โลกจะไม่วิบัติเมื่อกรีซพ้นยูโรโซน
9/6/58 ข่าวหุ้น


กรีซใกล้ผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะออกจากยูโรโซนหลังจากที่ได้เลือกที่จะเลื่อนชำระเงินกู้คืนแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) 300 ล้านยูโร อย่างไรก็ดี แนวโน้มที่กรีซจะออกจากยูโรโซน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ตลาดกังวลเหมือนที่เคยเป็น



ในขณะที่อาจจะมีความเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นี่คือเหตุผลว่าทำไมการออกจากยูโรโซนของกรีซอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เหมือนปี 2555 หรือปี 2553 เมื่อยูโรโซนใกล้จะล้ม

1.เจ้าหนี้แข็งแรงขึ้น: โครงสร้างหนี้ของกรีซได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ในปี 2553 หนี้กรีซ 85% เป็นของนักลงทุนเอกชนซึ่งทำให้พวกเขาขาดทุนมาก แต่นับตั้งแต่นั้นมา สัดส่วนดังกล่าวได้เปลี่ยนไป  ข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้จากโอเพน ยุโรปชี้ว่า ในขณะนี้ หนี้ของรัฐบาลกรีซ 80% เป็นของรัฐบาลต่างๆ และสถาบันอื่นๆ เช่น ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งในขณะนี้มีความพร้อมที่จะจัดการกับแนวโน้มที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ได้ดีขึ้น

2.ความเสี่ยงกระจายออก:  ไม่มีธนาคารรายเดียวที่ถือหนี้กรีซเป็นจำนวนมากเช่นกัน  ดังนั้นจึงไม่มีเจ้าหนี้รายใดที่จะได้รับผลกระทบมากเกินไป ประกอบกับธนาคารต่างชาติถือหนี้กรีซอยู่เพียง 46,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปลายปี 2557  เทียบกับที่มีจำนวนถึง 300,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2553 เมื่อดูจากข้อมูลของเวลส์ ฟาร์โก และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ

ธนาคารทั่วโลกไม่ได้รับผลกระทบแม้ว่าการคุมเชิงเรื่องหนี้กำลังสั่นคลอนความเชื่อมั่นในระบบการเงินของกรีซ  หุ้นธนาคารปิราอุส และอัลฟ่า แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่สุดของกรีซ ได้ปรับตัวลงประมาณ 51% และ 32% ตามลำดับ นับตั้งแต่ต้นปี

3.ไม่มีความวิตกถึงผลกระทบแบบโดมิโน่: กรีซดูมืดมน แต่โปรตุเกส อิตาลีและสเปนซึ่งเป็นประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนที่มีปัญหาเช่นกัน กำลังดีขึ้นมากหลังจากที่สามารถบริหารโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอันเจ็บปวดด้วยตนเองได้

ผลตอบแทนพันธบัตรสามารถบอกสตอรี่ในเรื่องนี้ได้   นักลงทุนเต็มใจมากขึ้นที่จะปล่อยกู้ให้กับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มมากขึ้นเพราะมีความวิตกน้อยลงว่าประเทศเหล่านี้จะออกจากยูโรโซนตามกรีซ โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุไถ่ถอน 10 ปีของสเปนในขณะนี้ยืนที่ 2.2% เมื่อเทียบกับ 7% ในปี 2553 และความจริงแล้วในขณะนี้ ทั้งสเปนและอิตาลีกู้เงินได้ถูกกว่าสหรัฐฯ

4.มาตรการกระตุ้นของอีซีบี : ธนาคารกลางยุโรปเปิดเผยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเดือนมกราคม ซึ่งทำให้นักลงทุนพอใจมาก มีการคาดการณ์ว่า โครงการซื้อพันธบัตรจำนวน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของยูโรโซน  และเงินราคาถูกสามารถช่วยชดเชยแนวโน้มที่จะเกิดวิกฤติใดๆ จากกรีซได้

5.เศรษฐกิจกำลังเติบโต: แม้ว่าต้องต่อสู้กับผลกระทบของภาวะถดถอยเป็นเวลานาน  ในเวลานี้เศรษฐกิจยุโรปกำลังจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่กรีซอาจจะต้องออกจากยูโรโซนเมื่อปี 2555 โดยเศรษฐกิจยูโรโซนโตประมาณ 0.4% ในช่วงไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 อัตราการเติบโตต่อปีเพิ่มขึ้นเป็น  1%

6.แผนการใหม่เพื่อรัฐสมาชิก :  เมื่อวิกฤติยูโรโซนโจมตีครั้งแรกในปี 2553 ผู้นำกลุ่มยูโรโซนไม่มีกรอบการทำงานใดๆ หากประเทศสมาชิกประสบปัญหา  และนับตั้งแต่นั้นมา ประเทศในยูโรโซนได้ตั้งกองทุนเงินกู้ฉุกเฉินเป็นเงิน 800,000 ล้านดอลลาร์และยังได้ตกลงเกี่ยวกับระเบียบที่ประเทศต่างๆ สามารถเข้าถึงเงินนี้ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่