Sloth : ขี้เกียจตัวเป็นศพ (7 sins the series เล่ม 1) ตอนที่ 1 : ห้องน้ำสยองขวัญ




แนวเรื่อง : ลึกลับ ระทึกขวัญ สยองขวัญ หักมุม
ผู้แต่ง : Phakin (ภาคิน) -- https://www.facebook.com/phakin.uttabolyukol


มนุษย์เราทุกผู้ล้วนมีบาป ซึ่งนั่นอาจกลายเป็นหนทางแห่งความตาย...
บนเส้นทางชีวิตมีบ่อยครั้งที่ต้องเลือกว่า จะทำ หรือไม่ทำ...
แต่ปลายทางคงเลือกไม่ได้ว่า จะตาย หรือไม่ตาย

ถ้าชอบช่วยกดไลค์แฟนเพจไว้ติดตามข่าวสารเรื่องนี้ และเรื่องอื่น ๆ ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/phakin.uttabolyukol


คำนำ(7 sins the series)


          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คำนำ(Sloth : ขี้เกียจ...ตัวเป็นศพ)


          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตอนที่ 1 : ห้องน้ำสยองขวัญ


    ยามค่ำคืนที่เหล่าหรีดหริ่งเรไรต่างร่วมกันขับขานท่วงทำนองแห่งเพลงไพร ดุจดั่งเป็นบทสดุดีแด่ดวงจันทรา ผู้คนส่วนใหญ่ต่างกำลังเอนกายลงนอน เตรียมตัวพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานเยี่ยงข้าทาสแห่งเงินตรา...แต่ก็แค่กับคนส่วนใหญ่

    เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังพยายามโหมแรงกาย และแรงใจที่มีทั้งหมด พยุงตัวเองแหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำไร้ผู้คน เขาทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมจนเวลาล่วงเข้าสู่ดึกดื่นค่ำมืด หวังพัฒนาให้กล้ามเนื้อทุกส่วนสัด และระบบประสาทมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็น

     หากแต่ร่างกายของมนุษย์นั้นอ่อนแอ เปราะบาง ขีดจำกัดของการใช้งานมาถึงได้ง่ายกว่าที่เจ้าตัวจะสามารถคาดคิด แม้กำลังใจจะยังคงเต็มเปี่ยม ทว่ากลับถูกความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าพุ่งขึ้นแซงหน้า ร่างกายของเด็กหนุ่มจึงเริ่มแข็งเกร็ง การทำงานของประสาทเชื่องช้าลง เป็นสัญญาณที่ส่งให้ทราบถึงการโหยหาช่วงพักผ่อน

     เขาตระหนักได้ถึงอันตรายของมันดี จึงพยายามดิ้นรนไปถึงขอบสระให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่ร่างกายจะแข็งเกร็งอยู่กลางน้ำ ไม่สามารถพยุงให้ตัวเองลอยได้อีกต่อไป

    ...ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึง มันย่อมหมายถึงความตาย

    ...

    มนุษย์ปุถุชนทั่วไปหาใช่อรหันต์ไม่ ล้วนแล้วแต่มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่หนีไม่พ้นตามกาลเวลา...

    หยดน้ำจากฟ้าที่ใสสะอาด และบริสุทธิ์ เคลื่อนตัวผ่านผืนดินแห้งกรัง แลโคลนตมชุ่มแฉะ อีกทั้งสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ตามทาง ก่อนจะไหลมาบรรจบพบรวมกับหยดน้ำหยาดอื่น ๆ เพื่อก่อตัวรวมกันเป็นกระแสชลธาร บางส่วนรวมตัวกันเป็นแอ่งน้ำ บ่อดิน หรือบึงโคลนสกปรก และเน่าเหม็น ก่อนที่จะถูกเปลวแสงร้อนแรงแห่งดวงอาทิตย์โลมเลียแผดเผา ระเหยเป็นเพียงละอองไอลอยขึ้นสู่ผืนฟ้าเบื้องบน รอวันเวลาที่จะถูกกลั่นตัวลงมาเป็นหยดหยาดพิรุนทร์1  อันบริสุทธิ์ผุดผ่องอีกครั้ง

     อาจเปรียบได้เช่นชีวิตมนุษย์ เมื่อแรกเกิด จิตใจของเราทุกคนล้วนแล้วแต่ใสสะอาดดั่งดวงแก้วไร้ตำหนิ ปราศจากความมืดมิดหลบซ่อนอยู่ภายใน แต่เมื่อเวลาได้โบกบินผินผ่าน จิตใจของเราก็ดูดซึม รวบรวมเอาบาปกรรมนานับประการมาสั่งสมไว้ในตัว มากบ้าง น้อยบ้าง หัวใจที่เคยใสราวกระจกกลับค่อย ๆ ขุ่นมัวขึ้นตามกาลเวลา หากแต่สิ่งที่ต่างออกไป คือบาปกรรมที่เราได้กระทำนั้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ดี ยังคงรอวันที่จะทวงถามการชำระความอยู่ร่ำไป

      เมื่อใดที่เราพลาด หรือเผอเรอ ความตายก็อาจจะมาเยี่ยมเยือนโดยไม่รู้ตัว...

       ดวงอาทิตย์สีทองกำลังแขวนตัวอยู่ตรงขอบฟ้าทางทิศตะวันตกราวกับสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ แสงแดดอันอบอุ่นกระจายตัวโอบกอดทั่วทั้งแผ่นฟ้าเบื้องบน และผืนธรณีเบื้องล่าง ทิวเมฆบางเบาถูกอาบไล้ด้วยเปลวแสงแห่งดวงตะวัน จนแปรเปลี่ยนเป็นสีอำพันสว่างใส เคลื่อนคล้อยอย่างสง่างามราวกับลีลาของอิสตรีสูงค่า ผินผ่านบดบังลูกไฟขนาดยักษ์อยู่เป็นระยะ ๆ ก่อนที่ผ่านเลยไป ทิ้งให้ดวงสุริยาต้องเฝ้าครวญคิดรำพันถึง ดุจดั่งภาพจิตกรรมที่สวยงามแห่งแสงเงายามเย็น

      เงาสะท้อนของต้นไม้ใหญ่น้อย และสุมทุมพุ่มพฤกษ์ซึ่งถูกประดับประดาไว้ข้างสระกระเบื้องขนาดใหญ่ โบกพลิ้วไปมาตามแรงลมที่โชยไหว พลางทอดตัวสะท้อนกับผิวน้ำซึ่งใสเหมือนกระจกเงา ระรอกคลื่นเล็ก ๆ กระเพื่อมตัวขึ้นลงอย่างแผ่วเบา หยอกล้อกับลำแสงสีทองช่วงสุดท้ายของวัน สะท้อนประกายระยิบระยับราวกับแก้วมณีอันมีค่า เมื่อได้เพ่งพิศมองดูด้วยจิตใจที่สงบ จะเห็นเป็นราวกับอีกโลกหนึ่งที่แปลกตาไปคล้ายความฝัน

       ด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำที่ถูกปูกระเบื้องสีฟ้าอ่อน เด็กหนุ่มในชุดกางเกงว่ายน้ำสีคราม กำลังนั่งอยู่บนพื้นหินละเอียดของขอบสระกระเบื้อง พลางทอดสายตามองดูบนแผ่นฟ้ากว้างใหญ่สุดหยั่งถึงอย่างเหม่อลอย ทิวเมฆทั้งเล็กใหญ่ต่างกำลังล่องลอยผ่านไปอย่างช้า ๆ ตามจังหวะของกระแสลมโชยเอื่อย บางก้อนก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายสรรพสัตว์ต่าง ๆ ทั้งกระต่าย ช้าง นก และอย่างอื่นอีกมากมายจนเกินจะพรรณนาได้หมดสิ้น บ้างก็ดูคล้ายกับเป็นเพียงก้อนสำลีไร้รูปทรงเพียงเท่านั้น แต่ที่เห็นจะถูกใจเด็กหนุ่มที่สุด คงจะหนีไม่พ้นกลุ่มเมฆที่มีรูปร่างคล้ายกับคนกำลังนอนไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ราวกับไม่รู้สึกรู้สาในความวุ่นวายของผู้คนเบื้องล่าง

      เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางคิดไปว่า คงจะดีไม่น้อย หากตอนนี้เขาเองก็กำลังทำเช่นนั้นอยู่บนเตียงแสนนุ่มสบายภายในห้องนอนของตน โดยไม่ต้องมีทั้งการบ้าน หรือหน้าที่ล้างถ้วยล้างจาน ปัดกวาดเช็ดถู อย่างที่พ่อแม่ได้ย้ำนักย้ำหนาให้ทำอยู่ทุกวัน

      ชื่อของเขาคือ ‘ปธานิน2 ’ เด็กหนุ่มรูปร่างเล็ก เนื้อตัวผอมบาง ไว้ผมสั้นเกรียนติดหนังหัว ถึงแม้ว่าเขาจะมีชื่อเป็นสมาชิกคนหนึ่งของชมรมว่ายน้ำโรงเรียนมัธยม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้อยากจะเข้าชมรมอะไรพวกนี้สักเท่าใดนัก หากโรงเรียนไม่ได้มีกฎบังคับให้นักเรียนต้องเลือกเข้าอย่างน้อยหนึ่งชมรม สำหรับเขา แค่เพียงการเรียนอย่างหน้าดำคร่ำเครียดในระดับมัธยมศึกษาปีที่หกอันแสนหนักหน่วงเอง ก็ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้มากพอดู ปธานินอดคิดไม่ได้ ถ้าหากเลือกได้ เขาคงเลือกที่จะนอนเอกเขนกอยู่บ้านอย่างสบายใจมากกว่า เด็กหนุ่มจึงได้แต่ก้มลงมองสระว่ายน้ำตรงหน้า พลางถอนหายใจออกมาดัง ๆ ด้วยความเซ็ง

      “เฮ้ย! นิน ยังไม่ลงไปซ้อมกับเขาอีกเหรอวะ”  เสียงของเด็กหนุ่มในชุดกางเกงว่ายน้ำสีดำแดงดังขึ้น เขามีรูปร่างสูง กำยำล่ำสัน แผงอกนูนได้รูป เพราะผ่านการฝึกฝนว่ายน้ำมาเป็นอย่างดี ผิวพรรณทั่วตัวมีสีน้าผึ้งเข้มกร้านแดดเสมอกัน ชื่อของเขาคือ ‘พนธกร3’ อันมีความหมายตรงกับภาพพจน์ที่เขามี ทว่าใคร ๆ ต่างก็เรียกเขาว่า ‘บอย’

     “วันนี้ขี้เกียจหว่ะ อยากกลับไปนอนดูทีวีอยู่บ้านมากกว่า” ปธานินตอบด้วยแววตาเลื่อนลอย น้ำเสียงเจือปนด้วยความเบื่อหน่าย พลางหาวหวอดโดยไม่รู้ตัว

     “กูก็เห็นเป็นอย่างนี้ทุกวัน เอาน่า... ไหน ๆ ก็เปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำมาแล้ว มาแข่งกันสักรอบดีกว่า” บอยตีมือลงที่ไหล่ของปธานินเบา ๆ ครั้งหนึ่ง หวังกระตุ้นให้เพื่อนสนิทได้รู้สึกแอคทีฟขึ้นมาบ้าง


    
1 หยดหยาดพิรุนทร์ = ฝน
2  ปธานิน อ่านว่า ปะ-ทา-นิน แปลว่า ผู้มีความเพียรอันยิ่งใหญ่
3  พนธกร อ่านว่า พน-ทะ-กอน แปลว่า สร้างความผูกพัน เป็นที่รักเป็นที่ผูกพัน

--- ยังไม่จบครับ อ่านต่อด้านล่างเลยครับ ---
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่