====================
รัก(ไม่)สวย......ของฟ้าใส
====================
ประเภท : Over - action
ชานเมืองเล็กๆ ในเขตชนบทแห่งหนึ่ง ดวงตะวันเพิ่งลุกขึ้นจากขอบฟ้าส่องแสงเจิดจ้ามองลงมายังถนนนอกเมืองสายปลอดโปร่งโล่งรถราและทิวสนเรียงรายสองฟาก ขยับแผ่วพลิ้วสะท้านไหวจากสายลมฉอเลาะ นักเรียนหญิงคนหนึ่งสลับสับเท้าก้าวเร่งรุดมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอย่างรีบร้อน
ที่อกเสื้อด้านหนึ่งปักว่า อิงฝา ด้วยอักษรไทยชัดเจนสวยงาม ความจริงเธอชื่ออิงฟ้า แต่เพราะความใจลอยจึงปักผิดจากอิงฟ้าเป็นอิงฝา
เปิดเทอมวันแรกเธอก็ตลกร้ายกับตัวเอง โดยการไปโรงเรียนสาย เนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะมัวแต่ฝันถึงมาริลิน แมนสัน นักร้องเพลงร็อควัยหวาน ฝันว่าได้ติดปีกนางฟ้าโผผินโบยบินไปยังฝั่งฝันอเมริกา เพื่อไปร่วมงานแฟนคลับของแมนสัน ทำให้เธอบินจนตกเตียงลงมานั่งอิงฝาผนังห้องอยู่ตั้งนาน
อักษร M จึงเป็นอักษรที่เธอชอบมากที่สุด เพราะเป็นตัวย่อชื่อของ Marilyn Manson ชายในฝัน
ภาพเด็กนักเรียนหญิงวัยใสปนสวย เดินแกมวิ่งไปบนเส้นทางแห่งชีวิตวัยรุ่นเป็นภาพแสนหวานทำให้หลายคนต้องหันไปมองอย่างประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้ ฟ้าเคยขึ้นเกวียนของชาวไร่ชาวนาไปเรียนหนังสือ แต่หลังจากสังเกตพบว่ามีหญิงชราอายุแปดสิบกว่าขวบคนหนึ่งพยุงสังขารเดินแซงเกวียนประจำทางไปต่อหน้าต่อตา ทำให้ฟ้าต้องหันมามองเจ้าทุยใจดำผู้ลากเกวียนแล้วหยุดยืนเคี้ยวเอี้ยงอยู่ข้างทางอย่างเรียมเหลือทนแล้วนั่น และเริ่มเป็นห่วงว่าถึงโรงเรียนคงได้เวลาเลิกเรียนพอดี เธอจึงหันมาขึ้นรถเมล์ แต่ในชนบทรถเมล์ไม่ได้มีเวลาชัดเจนอย่างเมืองใหญ่ นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะหลับคนขับก็แวะข้างทางปูเสื่อนอน หิวข้าวคนขับก็แวะร้านข้างทาง ทำให้เชื่อถือไม่ได้ เด็กสาวจึงเลือกเดินแกมวิ่งไปตามถนนสายวัยรุ่นอันสงบเงียบราวถนนในฝันของผู้คนกลางเมืองใหญ่
เมื่อเธอไปถึงโรงเรียน เธอก็ถึงกับเข่าอ่อนหมดแรงหน้าโรงเรียน ธงชาติสะบัดไหวเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเสาประหนึ่งจะเย้ยไยไพ ริ้วธงไทยไหวพลิ้วส่งรหัสหยามหยันถากถางสามารถอ่านรหัสเป็นข้อความได้ว่า มาสาย.....มาสาย.....
ฟ้ารู้สึกหน้ามืดหัวใจหวิวคล้ายจะเป็นลมจนต้องทิ้งร่างลงคุกเข่าโครมบนพื้นซบหน้ากับฝ่ามืออย่างร้าวรานอับอาย คำว่า มาสาย ประหนึ่งคมมีดแหลมคมบรรจงกรีดกลางใจให้เจ็บปวดรวดร้าวระทมขมขื่นสิ้นเนื้อประดาตัวมืดมนอนธการ
ลมพัด ใบไม้ไหว น้ำตาราตรีที่ยังอุตส่าห์หลงเหลือจากสายตาของแสงแดดหยดหนึ่ง โรยตัวทิ้งหยดหยาดจากปลายกิ่งสนอย่างอ้อยอิ่งลงมายังพื้นแตกกระจายเป็นสะเก็ดแก้วพิสดารกระจายหายลับกับผิวพื้น หยาดน้ำตาราตรีกระทบแผ่วผิวถนน ฝนน้ำตาฟ้าร่วงไหลริน
“น้องครับ”
เสียงทุ้มนุ่มดังแทรกเข้ามาราวโคมไฟฉายจรัสกวัดแกว่งวับแวมในความมืดมัวสลัวกลางใจ ฟ้าเงยหน้าพร่าพรายเกร็ดน้ำตาขึ้นมองย้อนแสงตะวันยามสาย
เพื่อเป็นการบอกว่าพระเอกมาแล้ว เด็กนักเรียนชายม.ปลาย คนนั้นจึงหน้าคมตาเข้มสูงโปร่งปากบางเฉียบเข้าหาท้าแสงตะวันให้ประกายรวีฉายจับอาบใบหน้าสร้างแสงสีเงาฉาบฉายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลของพระเอกทุกประการ
ผ้าเช็ดหน้าลายการ์ตูนยื่นมาตรงหน้าระริกพลิกพลิ้วไหวสะท้านในสายลมอย่างมีชีวิตชีวา
“เช็ดน้ำลาย เอ้ย....น้ำตาสิครับ”
“แมนสัน”
ฟ้าอุทาน มองผ่านม่านน้ำตาที่กำลังระเหยอย่างรวดเร็วเพราะถูกเผาผลาญด้วยประกายของรอยยิ้ม
เงาหลังตะวันจะเป็นใครไม่ได้นอกจากมาริลิน แมนสันชายในฝัน
เด็กหนุ่มคนนั้นทำหน้ามึน(งง)นิดหนึ่งก่อนเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ใครครับแมนสัน ผมรู้จักแต่แมน มอเตอร์ไซด์”
นั่นล่ะฟ้าจึงตาสว่างเสียที
เด็กหนุ่มรุ่นพี่คนนั้นจะเป็นมาริลีน แมนสัน ดาราหน้าสวยหวานของเธอได้อย่างไร ความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร ฝันคือฝัน ตะวันอยู่สูงสุดฟากฟ้าไกลเกินเอื้อมคว้า มีเพียงสายใจทอใยส่งไปถึง
“พี่ชื่อซัน ครับยินดีที่รู้จัก”
เธอยิ้มทั้งน้ำตาก่อนตวัดนิ้วเรียวเขี่ยหยดน้ำตาส่วนเกินจากหัวใจปลิดปลิวหายออกไปอย่างรวดเร็วก่อนรีบแนะนำตัว
“ฟ้าค่ะ พี่ซันแมน”
พอได้ฟังเด็กหนุ่มคนนั้นเล่นมุกเลียนแบบโฆษณาทางทีวียุคโบราณทันที
“ยัยฟ้านะเหรอ อย่าถ่ายเลยเปลืองฟิล์มเปลืองแฟลช”
ฟ้าอึ้งไปครู่หนึ่ง รับมุกไม่ทันเลยเจออีกชุดหนึ่ง
“รู้ไหมว่าฉายาของเธอว่าอย่างไร ดำดอทคอม ไง”
ฟ้าขบกรามแน่น ในที่สุดดึงปากกาออกมาจากกระเป๋าเคาะไปที่บ่าเด็กหนุ่มคนนั้นแบบเดียวกับในโฆษณาทีวีบ้าง
“ฟ้า”
เด็กหนุ่มหันมามองแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อสบตาฟ้าก่อนเอ่ยคล้ายคนละเมอ ฟ้ายิ้มหวานขณะบอกว่า
“เดี๋ยวนี้ฟ้าเปลี่ยนเป็นหน้าใสดอทคอมแล้ว”
ตูม!
ในภาพยนตร์โฆษณาหลังจากนี้จะเป็นเสียงชัตเตอร์กล้องลั่นดังแชะ......แต่ในเมื่อแถวนี้ไม่มีกล้อง ฟ้าจึงสร้าง ซาวน์เอฟเฟกต์ประยุกต์ใช้โดยการกดตูมเข้าให้เต็มหน้าเด็กหนุ่มด้วยฝ่ามืออย่างสะใจ
พระเอกซันหมุนร่างคว้างปานกังหันต้องลมจากแรงตบมหากาฬก่อนหน้าทิ่มลงไปในถังขยะข้างทาง
“โอ.....ขอโทษค่ะ พอดีกำลังอินกับบทเกินไป ฟ้าขอโทษนะคะ”
ฟ้าได้สติ พยายามลากนายซันออกมาจากถังขยะ โดยมีก้างปลา เศษเนื้อ เศษผัก ติดตามใบหน้าของเด็กหนุ่มแต่พองาม ปากของเด็กหนุ่มยังคาบเศษน่องไก่ไว้แน่นเพราะความตกใจแก้มซ้ายบวมตุ่ยเป็นรอยฝ่ามือชัดเจน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ซันรีบคายเศษน่องไก่ในปากทิ้ง พยายามทำเป็นไม่สนใจกับสภาพของตนเองและความเจ็บตัว ต้องวางมาดหล่อนิ่งไว้ตามแบบฉบับมาตรฐานของพระเอก
“ว่าแต่คุณเป็นอะไรครับเห็นวิ่งหน้าตาหลับ เอ้ย...ตื่นมาเชียว”
“ฟ้ารีบมาโรงเรียนค่ะ” เธอบอกเสียงแผ่วเบาด้วยความอุธัจ อายแสนอายจนหน้าแดงระเรื่อโลกทั้งใบคล้ายหมุนคว้างหลุดจากฝ่าเท้า
“วันนี้วันหยุดนะครับ โรงเรียนหยุดแล้วมาทำไม”
“หา......”
ฟ้าตะลึง เลือดในกายเย็นเฉียบราวตกลงลงไปในหล่มน้ำแข็ง
นี่เธอเป็นเอามากขนาดนี่เลยเหรอ เด็กสาวคิดในใจ ขนาดลืมวันลืมคืนลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเสาร์หรือว่าเป็นเพราะส้มตำปูเค็มที่กินเข้าไปเมื่อวานหรือเปล่านะ เรื่องทะเล่อทะล่ามาโรงเรียนวันนี้เลยกลายเป็นเรื่องตลก...มิน่าล่ะว่าคนถึงมองแปลกๆ
“อ่า....คือว่า ฟ้ามาวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายตอนสายค่ะ” เธอแก้ตัวโดยเร็วตามประสาคนมีไหวพริบดี เรื่องอะไรจะบอกความจริงให้โง่ล่ะ
“วิ่งจ๊อกกิ้งกับกระเป๋าหนังสือและชุดนักเรียนนี่นะ” เด็กหนุ่มสงสัย
“คือว่าฟ้าเป็นคนโรงเรียนนิยมจัดค่ะ รักโรงเรียนมาก เลยใส่ชุดนักเรียนมาวิ่ง”
“เป็นรสนิยมแปลกดีนะครับคุณฟ้า ว่าแต่สบายดีหรือครับ”
“โอ้น...สบายดีแข็งแรงแล้วค่ะไม่เชื่อลองดูนี่”
ฟ้าลงทุนกระโดดตบ(ตบหน้าเด็กหนุ่ม) ตามด้วยลีลามูน วอคเกอร์ ของไมเคล แจ๊คสัน ตบท้ายด้วยลีลาเช็ดกระจก
ขณะกำลังจะเปลี่ยนท่าเป็นรำปอบผีฟ้า พระเอกซันรีบบอกก่อนเด็กสาวจะเสียอาการมากไปกว่านี้ว่า
“ผมเชื่อแล้วครับ..เชื่อแล้วว่าคุณเพี้ยน เอ้ย...แข็งแรง”
ฟ้าฟังแล้วยิ้มปากกว้างด้วยความภูมิใจพลางถามว่า
“แล้วพี่ซันมาโรงเรียนทำไมคะ ในเมื่อวันนี้วันหยุด อย่าบอกนะว่าลืมวันเหมือนฟ้า”
เด็กหนุ่มลอบกลืนน้ำลายก่อนฝืนยิ้ม เพราะคำพูดของเด็กสาวแทงใจดำ เขาเองก็ลืมนึกไปว่าวันนี้เป็นวันหยุด มาโรงเรียนผิดวันเหมือนกันแต่เรื่องอะไรจะบอกความจริงให้เสียอิมเมจ
“พี่ว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า” นายซันรีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อความปลอดภัยของภาพลักษณ์ “พี่เอารถเก๋งของคุณพ่อมา จะขับไปส่งนะครับ”
“พี่ซันมีใบขับขี่แล้วหรือคะ”
“โอ้ย..ระดับพี่ไม่ต้องมีใบขับขี่ ใครจะกล้าจับ พ่อพี่ใหญ่นะครับ”
เด็กหนุ่มคุยฟุ้ง แต่ไม่บอกรายละเอียดว่าความจริงพ่อเขาชื่อใหญ่
ถนนสายวัยรุ่นที่ยาวไกลมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังจูงเข็นรถยนต์เดินคู่ไปกับเด็กสาวอย่างไม่รีบแต่ร้อนเพราะสายมากแล้ว
มันเป็นวิธีการเดียวกับหนุ่มหลายคนเคยจูงจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์คุยสาว เพราะบางทีสาวเจ้าไม่ยอมซ้อนท้ายโดยให้เหตุผลว่าเป็นจักรยานฮ้าง หรือมอเตอร์ไซด์ฮ้าง แต่พระเอกซันย่อมมีการพัฒนาการมากกว่า โดยการจูงรถยนต์คุย
วิธีการก็คือติดเครื่องรถเข้าเกียร์ว่างเปิดประตูรถด้านคนขับแล้วมือข้างหนึ่งบังคับพวงมาลัย ใช้มืออีกข้างและไหล่ดันขอบประตูให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า ดูแล้วสุดแสนทุลักทุเลแต่ก็ต้องยอมลงทุนเพื่อจีบสาว อาบเหงื่อต่างน้ำก็ยอม
เป็นภาพพจน์งดงามราวภาพฝันบรรเจิดเพริดแพร้ว
ฟ้าไม่ยอมนั่งรถยนต์หนุ่มคนนี้เพราะเพิ่งรู้จักกัน แม่สอนว่าอย่านั่งรถยนต์คนแปลกหน้าแม้จะหล่อลากไส้ปานใดก็ตาม ต้องอดทนอดกลั้นอย่าให้ความหล่อมามอมเมาเย้ายวนเด็ดขาด ดังคำที่ว่า “อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนหล่อ”
ต่อให้ประทับใจขนาดไหนแต่ความเป็นกุลสตรีดีงามของเธอทำให้ยอมเดินไปตามทางเส้นทางถนนสายวัยรุ่นด้วยสองเท้าของตนเองดีกว่า
“ฟังเพลงไหมครับ”
ซันชวนคุย แม้จะเริ่มอาบเหงื่อต่างน้ำเพราะรถยนต์ทั้งคันหนักไม่ใช่เล่น ยังดีว่าเป็นทางลาดเล็กน้อยลงเนินเขาทำให้ไม่ต้องออกแรงแบบสุดใจขาดดิ้น
.....
รัก(ไม่)สวย...ของฟ้าใส
รัก(ไม่)สวย......ของฟ้าใส
====================
ประเภท : Over - action
ชานเมืองเล็กๆ ในเขตชนบทแห่งหนึ่ง ดวงตะวันเพิ่งลุกขึ้นจากขอบฟ้าส่องแสงเจิดจ้ามองลงมายังถนนนอกเมืองสายปลอดโปร่งโล่งรถราและทิวสนเรียงรายสองฟาก ขยับแผ่วพลิ้วสะท้านไหวจากสายลมฉอเลาะ นักเรียนหญิงคนหนึ่งสลับสับเท้าก้าวเร่งรุดมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอย่างรีบร้อน
ที่อกเสื้อด้านหนึ่งปักว่า อิงฝา ด้วยอักษรไทยชัดเจนสวยงาม ความจริงเธอชื่ออิงฟ้า แต่เพราะความใจลอยจึงปักผิดจากอิงฟ้าเป็นอิงฝา
เปิดเทอมวันแรกเธอก็ตลกร้ายกับตัวเอง โดยการไปโรงเรียนสาย เนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะมัวแต่ฝันถึงมาริลิน แมนสัน นักร้องเพลงร็อควัยหวาน ฝันว่าได้ติดปีกนางฟ้าโผผินโบยบินไปยังฝั่งฝันอเมริกา เพื่อไปร่วมงานแฟนคลับของแมนสัน ทำให้เธอบินจนตกเตียงลงมานั่งอิงฝาผนังห้องอยู่ตั้งนาน
อักษร M จึงเป็นอักษรที่เธอชอบมากที่สุด เพราะเป็นตัวย่อชื่อของ Marilyn Manson ชายในฝัน
ภาพเด็กนักเรียนหญิงวัยใสปนสวย เดินแกมวิ่งไปบนเส้นทางแห่งชีวิตวัยรุ่นเป็นภาพแสนหวานทำให้หลายคนต้องหันไปมองอย่างประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้ ฟ้าเคยขึ้นเกวียนของชาวไร่ชาวนาไปเรียนหนังสือ แต่หลังจากสังเกตพบว่ามีหญิงชราอายุแปดสิบกว่าขวบคนหนึ่งพยุงสังขารเดินแซงเกวียนประจำทางไปต่อหน้าต่อตา ทำให้ฟ้าต้องหันมามองเจ้าทุยใจดำผู้ลากเกวียนแล้วหยุดยืนเคี้ยวเอี้ยงอยู่ข้างทางอย่างเรียมเหลือทนแล้วนั่น และเริ่มเป็นห่วงว่าถึงโรงเรียนคงได้เวลาเลิกเรียนพอดี เธอจึงหันมาขึ้นรถเมล์ แต่ในชนบทรถเมล์ไม่ได้มีเวลาชัดเจนอย่างเมืองใหญ่ นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะหลับคนขับก็แวะข้างทางปูเสื่อนอน หิวข้าวคนขับก็แวะร้านข้างทาง ทำให้เชื่อถือไม่ได้ เด็กสาวจึงเลือกเดินแกมวิ่งไปตามถนนสายวัยรุ่นอันสงบเงียบราวถนนในฝันของผู้คนกลางเมืองใหญ่
เมื่อเธอไปถึงโรงเรียน เธอก็ถึงกับเข่าอ่อนหมดแรงหน้าโรงเรียน ธงชาติสะบัดไหวเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเสาประหนึ่งจะเย้ยไยไพ ริ้วธงไทยไหวพลิ้วส่งรหัสหยามหยันถากถางสามารถอ่านรหัสเป็นข้อความได้ว่า มาสาย.....มาสาย.....
ฟ้ารู้สึกหน้ามืดหัวใจหวิวคล้ายจะเป็นลมจนต้องทิ้งร่างลงคุกเข่าโครมบนพื้นซบหน้ากับฝ่ามืออย่างร้าวรานอับอาย คำว่า มาสาย ประหนึ่งคมมีดแหลมคมบรรจงกรีดกลางใจให้เจ็บปวดรวดร้าวระทมขมขื่นสิ้นเนื้อประดาตัวมืดมนอนธการ
ลมพัด ใบไม้ไหว น้ำตาราตรีที่ยังอุตส่าห์หลงเหลือจากสายตาของแสงแดดหยดหนึ่ง โรยตัวทิ้งหยดหยาดจากปลายกิ่งสนอย่างอ้อยอิ่งลงมายังพื้นแตกกระจายเป็นสะเก็ดแก้วพิสดารกระจายหายลับกับผิวพื้น หยาดน้ำตาราตรีกระทบแผ่วผิวถนน ฝนน้ำตาฟ้าร่วงไหลริน
“น้องครับ”
เสียงทุ้มนุ่มดังแทรกเข้ามาราวโคมไฟฉายจรัสกวัดแกว่งวับแวมในความมืดมัวสลัวกลางใจ ฟ้าเงยหน้าพร่าพรายเกร็ดน้ำตาขึ้นมองย้อนแสงตะวันยามสาย
เพื่อเป็นการบอกว่าพระเอกมาแล้ว เด็กนักเรียนชายม.ปลาย คนนั้นจึงหน้าคมตาเข้มสูงโปร่งปากบางเฉียบเข้าหาท้าแสงตะวันให้ประกายรวีฉายจับอาบใบหน้าสร้างแสงสีเงาฉาบฉายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลของพระเอกทุกประการ
ผ้าเช็ดหน้าลายการ์ตูนยื่นมาตรงหน้าระริกพลิกพลิ้วไหวสะท้านในสายลมอย่างมีชีวิตชีวา
“เช็ดน้ำลาย เอ้ย....น้ำตาสิครับ”
“แมนสัน”
ฟ้าอุทาน มองผ่านม่านน้ำตาที่กำลังระเหยอย่างรวดเร็วเพราะถูกเผาผลาญด้วยประกายของรอยยิ้ม
เงาหลังตะวันจะเป็นใครไม่ได้นอกจากมาริลิน แมนสันชายในฝัน
เด็กหนุ่มคนนั้นทำหน้ามึน(งง)นิดหนึ่งก่อนเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ใครครับแมนสัน ผมรู้จักแต่แมน มอเตอร์ไซด์”
นั่นล่ะฟ้าจึงตาสว่างเสียที
เด็กหนุ่มรุ่นพี่คนนั้นจะเป็นมาริลีน แมนสัน ดาราหน้าสวยหวานของเธอได้อย่างไร ความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร ฝันคือฝัน ตะวันอยู่สูงสุดฟากฟ้าไกลเกินเอื้อมคว้า มีเพียงสายใจทอใยส่งไปถึง
“พี่ชื่อซัน ครับยินดีที่รู้จัก”
เธอยิ้มทั้งน้ำตาก่อนตวัดนิ้วเรียวเขี่ยหยดน้ำตาส่วนเกินจากหัวใจปลิดปลิวหายออกไปอย่างรวดเร็วก่อนรีบแนะนำตัว
“ฟ้าค่ะ พี่ซันแมน”
พอได้ฟังเด็กหนุ่มคนนั้นเล่นมุกเลียนแบบโฆษณาทางทีวียุคโบราณทันที
“ยัยฟ้านะเหรอ อย่าถ่ายเลยเปลืองฟิล์มเปลืองแฟลช”
ฟ้าอึ้งไปครู่หนึ่ง รับมุกไม่ทันเลยเจออีกชุดหนึ่ง
“รู้ไหมว่าฉายาของเธอว่าอย่างไร ดำดอทคอม ไง”
ฟ้าขบกรามแน่น ในที่สุดดึงปากกาออกมาจากกระเป๋าเคาะไปที่บ่าเด็กหนุ่มคนนั้นแบบเดียวกับในโฆษณาทีวีบ้าง
“ฟ้า”
เด็กหนุ่มหันมามองแล้วทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อสบตาฟ้าก่อนเอ่ยคล้ายคนละเมอ ฟ้ายิ้มหวานขณะบอกว่า
“เดี๋ยวนี้ฟ้าเปลี่ยนเป็นหน้าใสดอทคอมแล้ว”
ตูม!
ในภาพยนตร์โฆษณาหลังจากนี้จะเป็นเสียงชัตเตอร์กล้องลั่นดังแชะ......แต่ในเมื่อแถวนี้ไม่มีกล้อง ฟ้าจึงสร้าง ซาวน์เอฟเฟกต์ประยุกต์ใช้โดยการกดตูมเข้าให้เต็มหน้าเด็กหนุ่มด้วยฝ่ามืออย่างสะใจ
พระเอกซันหมุนร่างคว้างปานกังหันต้องลมจากแรงตบมหากาฬก่อนหน้าทิ่มลงไปในถังขยะข้างทาง
“โอ.....ขอโทษค่ะ พอดีกำลังอินกับบทเกินไป ฟ้าขอโทษนะคะ”
ฟ้าได้สติ พยายามลากนายซันออกมาจากถังขยะ โดยมีก้างปลา เศษเนื้อ เศษผัก ติดตามใบหน้าของเด็กหนุ่มแต่พองาม ปากของเด็กหนุ่มยังคาบเศษน่องไก่ไว้แน่นเพราะความตกใจแก้มซ้ายบวมตุ่ยเป็นรอยฝ่ามือชัดเจน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ซันรีบคายเศษน่องไก่ในปากทิ้ง พยายามทำเป็นไม่สนใจกับสภาพของตนเองและความเจ็บตัว ต้องวางมาดหล่อนิ่งไว้ตามแบบฉบับมาตรฐานของพระเอก
“ว่าแต่คุณเป็นอะไรครับเห็นวิ่งหน้าตาหลับ เอ้ย...ตื่นมาเชียว”
“ฟ้ารีบมาโรงเรียนค่ะ” เธอบอกเสียงแผ่วเบาด้วยความอุธัจ อายแสนอายจนหน้าแดงระเรื่อโลกทั้งใบคล้ายหมุนคว้างหลุดจากฝ่าเท้า
“วันนี้วันหยุดนะครับ โรงเรียนหยุดแล้วมาทำไม”
“หา......”
ฟ้าตะลึง เลือดในกายเย็นเฉียบราวตกลงลงไปในหล่มน้ำแข็ง
นี่เธอเป็นเอามากขนาดนี่เลยเหรอ เด็กสาวคิดในใจ ขนาดลืมวันลืมคืนลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเสาร์หรือว่าเป็นเพราะส้มตำปูเค็มที่กินเข้าไปเมื่อวานหรือเปล่านะ เรื่องทะเล่อทะล่ามาโรงเรียนวันนี้เลยกลายเป็นเรื่องตลก...มิน่าล่ะว่าคนถึงมองแปลกๆ
“อ่า....คือว่า ฟ้ามาวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายตอนสายค่ะ” เธอแก้ตัวโดยเร็วตามประสาคนมีไหวพริบดี เรื่องอะไรจะบอกความจริงให้โง่ล่ะ
“วิ่งจ๊อกกิ้งกับกระเป๋าหนังสือและชุดนักเรียนนี่นะ” เด็กหนุ่มสงสัย
“คือว่าฟ้าเป็นคนโรงเรียนนิยมจัดค่ะ รักโรงเรียนมาก เลยใส่ชุดนักเรียนมาวิ่ง”
“เป็นรสนิยมแปลกดีนะครับคุณฟ้า ว่าแต่สบายดีหรือครับ”
“โอ้น...สบายดีแข็งแรงแล้วค่ะไม่เชื่อลองดูนี่”
ฟ้าลงทุนกระโดดตบ(ตบหน้าเด็กหนุ่ม) ตามด้วยลีลามูน วอคเกอร์ ของไมเคล แจ๊คสัน ตบท้ายด้วยลีลาเช็ดกระจก
ขณะกำลังจะเปลี่ยนท่าเป็นรำปอบผีฟ้า พระเอกซันรีบบอกก่อนเด็กสาวจะเสียอาการมากไปกว่านี้ว่า
“ผมเชื่อแล้วครับ..เชื่อแล้วว่าคุณเพี้ยน เอ้ย...แข็งแรง”
ฟ้าฟังแล้วยิ้มปากกว้างด้วยความภูมิใจพลางถามว่า
“แล้วพี่ซันมาโรงเรียนทำไมคะ ในเมื่อวันนี้วันหยุด อย่าบอกนะว่าลืมวันเหมือนฟ้า”
เด็กหนุ่มลอบกลืนน้ำลายก่อนฝืนยิ้ม เพราะคำพูดของเด็กสาวแทงใจดำ เขาเองก็ลืมนึกไปว่าวันนี้เป็นวันหยุด มาโรงเรียนผิดวันเหมือนกันแต่เรื่องอะไรจะบอกความจริงให้เสียอิมเมจ
“พี่ว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า” นายซันรีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อความปลอดภัยของภาพลักษณ์ “พี่เอารถเก๋งของคุณพ่อมา จะขับไปส่งนะครับ”
“พี่ซันมีใบขับขี่แล้วหรือคะ”
“โอ้ย..ระดับพี่ไม่ต้องมีใบขับขี่ ใครจะกล้าจับ พ่อพี่ใหญ่นะครับ”
เด็กหนุ่มคุยฟุ้ง แต่ไม่บอกรายละเอียดว่าความจริงพ่อเขาชื่อใหญ่
ถนนสายวัยรุ่นที่ยาวไกลมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังจูงเข็นรถยนต์เดินคู่ไปกับเด็กสาวอย่างไม่รีบแต่ร้อนเพราะสายมากแล้ว
มันเป็นวิธีการเดียวกับหนุ่มหลายคนเคยจูงจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์คุยสาว เพราะบางทีสาวเจ้าไม่ยอมซ้อนท้ายโดยให้เหตุผลว่าเป็นจักรยานฮ้าง หรือมอเตอร์ไซด์ฮ้าง แต่พระเอกซันย่อมมีการพัฒนาการมากกว่า โดยการจูงรถยนต์คุย
วิธีการก็คือติดเครื่องรถเข้าเกียร์ว่างเปิดประตูรถด้านคนขับแล้วมือข้างหนึ่งบังคับพวงมาลัย ใช้มืออีกข้างและไหล่ดันขอบประตูให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า ดูแล้วสุดแสนทุลักทุเลแต่ก็ต้องยอมลงทุนเพื่อจีบสาว อาบเหงื่อต่างน้ำก็ยอม
เป็นภาพพจน์งดงามราวภาพฝันบรรเจิดเพริดแพร้ว
ฟ้าไม่ยอมนั่งรถยนต์หนุ่มคนนี้เพราะเพิ่งรู้จักกัน แม่สอนว่าอย่านั่งรถยนต์คนแปลกหน้าแม้จะหล่อลากไส้ปานใดก็ตาม ต้องอดทนอดกลั้นอย่าให้ความหล่อมามอมเมาเย้ายวนเด็ดขาด ดังคำที่ว่า “อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนหล่อ”
ต่อให้ประทับใจขนาดไหนแต่ความเป็นกุลสตรีดีงามของเธอทำให้ยอมเดินไปตามทางเส้นทางถนนสายวัยรุ่นด้วยสองเท้าของตนเองดีกว่า
“ฟังเพลงไหมครับ”
ซันชวนคุย แม้จะเริ่มอาบเหงื่อต่างน้ำเพราะรถยนต์ทั้งคันหนักไม่ใช่เล่น ยังดีว่าเป็นทางลาดเล็กน้อยลงเนินเขาทำให้ไม่ต้องออกแรงแบบสุดใจขาดดิ้น
.....