สวัสดีค่ะ วันนี้เรามารีวิวสีผมแบบ Ombre Balayage ค่ะ
คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จักการทำสีผมแบบนี้ แต่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน
มันคือการไล่สีผมจากเข้มไปจนถึงอ่อน การตัดกันของสีแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ
ตัวอย่างจ้า
*รูปจาก Google ค่ะ
เราเห็นเทรนด์สีผมแบบไล่ๆกันอย่างนี้ตาม blog ต่างประเทศและ Youtube มาหลายปีแล้วค่ะ
แต่เพิ่งตัดสินใจทำได้อาทิตย์ที่แล้ว เพราะเพิ่งหาร้านที่คิดว่าทำได้รวมถึงราคาที่เอื้อมถึง (สำคัญมาก55)
ที่ตัดสินใจทำที่ร้านเพราะพื้นผมเราสีเข้ม และเราไม่กล้าฟอกผมเองค่ะ กลัวจะด่าง
เรา Search ใน Google หาร้านที่ทำได้ในกรุงเทพ แต่ปรากฏว่าราคาแต่ละที่ค่อนข้างสูงค่ะ
บางร้านทำออกมาไม่ดี สีที่ได้มาจะเป็นเส้นตรงทื่อๆแบบนี้เลย
*รูปจาก Google ค่ะ
วันก่อนเรานั่งกด hashtag #ombre ดูรูปไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอลิ้งค์ของร้านทำผม
ชื่อร้าน Sassy Salon Republic ร้านอยู่ตรงข้าม K-village ไปง่ายมากๆ ซ.สุขุมวิท 26
ตอนนั้นมีโปรโมชั่นลดราคา 20%ด้วย รีบเลยค่ะ 555 เราก็ไลน์หาพี่ที่ร้าน นัดวันและเวลาเรียบร้อยเลย
และนี่คือสีผมที่เราได้จากการทำที่ร้านค่ะ (ขออนุญาตปิดหน้าบางรูปนะคะ คือหน้าไม่พร้อมจริงๆ 55555)
ขั้นตอนการทำคร่าวๆนะคะ คือจะทำการลงสีพื้นผมที่จะอยู่ส่วนบนก่อน
เราเลือกสีบลอนด์ค่ะ แต่ไม่สว่างมาก เพราะไม่อยากให้ผมที่งอกมาใหม่ตัดกับสีเดิม
(นี่คือจุดประสงค์ที่เราทำ Ombre เลย เพราะขี้เกียจเติมโคน 55555)
หลังจากนั้นก็ทำการฟอกผมค่ะ เราฟอกทั้งหมด 3 รอบ
ผมเดิมเราสีเข้ม แห้งและฟูมากๆๆๆ เราเลยทำใจก่อนแล้วว่าผมต้องแห้งกว่าเดิมมาก
แต่พี่ที่ร้านแนะนำให้ทำ Treatment ชื่อ Olaplex ด้วย เพื่อป้องกันผมเสีย เราตกลงทำด้วยเลยค่ะ
(ก่อนหน้านี้เราลองไปเสริชดูทรีทเมนต์ตัวนี้ ดังที่อเมริกามาก และผลลัพธ์ของแต่ละคนที่ทำออกมาดีจริงๆ)
สรุปว่าผมเราไม่เสียเท่าไหร่ค่ะ ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้ตัวนี้ ผมเราคงแห้งกรอบไปแล้วแน่นอน
สิ่งที่ประทับใจ:
1) สีผมที่ได้ออกมาสว่าง ทำให้หน้าเราจากหมองๆเหมือนโดนของดูดีขึ้นค่ะ 55
2) ไม่ต้องกังวลเรื่องเติมโคนสีผมตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอย่างเรา ฮ่าๆ
3) ทรีทเมนต์ที่ทำดีมากเลย เรารู้สึกมันบำรุงภายในเส้นผมมากกว่าเคลือบเงาภายนอกค่ะ
4) พี่ช่างที่ร้านทั้งสองคนน่ารักและเป็นกันเองมากค่ะ ไม่มีการ Hard sale ผมเราแห้งขนาดไหนก็ไม่บ่น
(ปกติเราโดนช่างทำผมบ่นตลอดว่าทำไมไม่ดูแลผม ..แต่ผมเราเป็นอะไรที่บำรุงก็ยังฟูอะค่ะ)
5) ราคาถือว่าไม่แพงเลยค่ะ สำหรับการทำผมที่ใช้เวลาครึ่งวันขนาดนี้ สงสารช่างมาก 555
เราทำสี Ombre (ลงสีพื้น + ฟอก) ราคา 4,400 บาท Olaplex 1,500 บาท
ราคาข้างต้นคือลดแล้ว แต่ละคนจะคิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยาวของผมนะคะ
6) ผมที่ฟอกแล้วเราสามารถเติมสีแบบ treatment ลงบนปลายผมได้เลย
จะได้แนวๆ Pastel สวยไปอีกแบบค่ะ แบบนี้เลย
*รูปจาก Google ค่ะ
เราซื้อสีม่วงมาเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์หน้าคิดว่าจะลองทำค่ะ
7) ปกติแฟนบ่นเวลาเราทำสีผม แต่ทำสีนี้แล้วแฟนชมทั้งวันเลยค่ะ เค้าชอบมาก 5555
สิ่งที่ไม่ค่อยประทับใจ:
1) เราต้องดูแลผมอย่างจริงจังกว่าเดิมมาก สำหรับคนที่ขี้เกียจอย่างเรา ถือว่าเป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนกันค่ะ
2) สีผมสว่างๆแบบนี้ เวลาไปเดินตามตลาดก็มีคนมองเหมือนกันค่ะ แต่ไม่แคร์ อิอิ
ทิ้งท้าย....
ผมOmbre แบบนี้ เราว่าเหมาะกับการทำผมเป็นลอนมากๆ ค่ะ
พอทำออกมาแล้วเราชอบมากเลย (เซนเซอร์หน้าอีกแล้ว 55)
ในรูปดูผมฟูๆไปหน่อย 555 เพราะเราชอบยีผม ไม่ชอบให้ผมลีบค่ะ
ปล.รูปถ่ายจากกล้อง Iphone 5s ทั้งกล้องหน้า - หลัง แสงธรรมชาติ ไม่มีการปรับสีใน App นะคะ
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้จ้า
[CR] รีวิวสีผม Ombre Balayage ร้าน Sassy Salon Republic จ้า
คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จักการทำสีผมแบบนี้ แต่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน
มันคือการไล่สีผมจากเข้มไปจนถึงอ่อน การตัดกันของสีแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ
ตัวอย่างจ้า
*รูปจาก Google ค่ะ
เราเห็นเทรนด์สีผมแบบไล่ๆกันอย่างนี้ตาม blog ต่างประเทศและ Youtube มาหลายปีแล้วค่ะ
แต่เพิ่งตัดสินใจทำได้อาทิตย์ที่แล้ว เพราะเพิ่งหาร้านที่คิดว่าทำได้รวมถึงราคาที่เอื้อมถึง (สำคัญมาก55)
ที่ตัดสินใจทำที่ร้านเพราะพื้นผมเราสีเข้ม และเราไม่กล้าฟอกผมเองค่ะ กลัวจะด่าง
เรา Search ใน Google หาร้านที่ทำได้ในกรุงเทพ แต่ปรากฏว่าราคาแต่ละที่ค่อนข้างสูงค่ะ
บางร้านทำออกมาไม่ดี สีที่ได้มาจะเป็นเส้นตรงทื่อๆแบบนี้เลย
*รูปจาก Google ค่ะ
วันก่อนเรานั่งกด hashtag #ombre ดูรูปไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอลิ้งค์ของร้านทำผม
ชื่อร้าน Sassy Salon Republic ร้านอยู่ตรงข้าม K-village ไปง่ายมากๆ ซ.สุขุมวิท 26
ตอนนั้นมีโปรโมชั่นลดราคา 20%ด้วย รีบเลยค่ะ 555 เราก็ไลน์หาพี่ที่ร้าน นัดวันและเวลาเรียบร้อยเลย
และนี่คือสีผมที่เราได้จากการทำที่ร้านค่ะ (ขออนุญาตปิดหน้าบางรูปนะคะ คือหน้าไม่พร้อมจริงๆ 55555)
ขั้นตอนการทำคร่าวๆนะคะ คือจะทำการลงสีพื้นผมที่จะอยู่ส่วนบนก่อน
เราเลือกสีบลอนด์ค่ะ แต่ไม่สว่างมาก เพราะไม่อยากให้ผมที่งอกมาใหม่ตัดกับสีเดิม
(นี่คือจุดประสงค์ที่เราทำ Ombre เลย เพราะขี้เกียจเติมโคน 55555)
หลังจากนั้นก็ทำการฟอกผมค่ะ เราฟอกทั้งหมด 3 รอบ
ผมเดิมเราสีเข้ม แห้งและฟูมากๆๆๆ เราเลยทำใจก่อนแล้วว่าผมต้องแห้งกว่าเดิมมาก
แต่พี่ที่ร้านแนะนำให้ทำ Treatment ชื่อ Olaplex ด้วย เพื่อป้องกันผมเสีย เราตกลงทำด้วยเลยค่ะ
(ก่อนหน้านี้เราลองไปเสริชดูทรีทเมนต์ตัวนี้ ดังที่อเมริกามาก และผลลัพธ์ของแต่ละคนที่ทำออกมาดีจริงๆ)
สรุปว่าผมเราไม่เสียเท่าไหร่ค่ะ ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้ตัวนี้ ผมเราคงแห้งกรอบไปแล้วแน่นอน
สิ่งที่ประทับใจ:
1) สีผมที่ได้ออกมาสว่าง ทำให้หน้าเราจากหมองๆเหมือนโดนของดูดีขึ้นค่ะ 55
2) ไม่ต้องกังวลเรื่องเติมโคนสีผมตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอย่างเรา ฮ่าๆ
3) ทรีทเมนต์ที่ทำดีมากเลย เรารู้สึกมันบำรุงภายในเส้นผมมากกว่าเคลือบเงาภายนอกค่ะ
4) พี่ช่างที่ร้านทั้งสองคนน่ารักและเป็นกันเองมากค่ะ ไม่มีการ Hard sale ผมเราแห้งขนาดไหนก็ไม่บ่น
(ปกติเราโดนช่างทำผมบ่นตลอดว่าทำไมไม่ดูแลผม ..แต่ผมเราเป็นอะไรที่บำรุงก็ยังฟูอะค่ะ)
5) ราคาถือว่าไม่แพงเลยค่ะ สำหรับการทำผมที่ใช้เวลาครึ่งวันขนาดนี้ สงสารช่างมาก 555
เราทำสี Ombre (ลงสีพื้น + ฟอก) ราคา 4,400 บาท Olaplex 1,500 บาท
ราคาข้างต้นคือลดแล้ว แต่ละคนจะคิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยาวของผมนะคะ
6) ผมที่ฟอกแล้วเราสามารถเติมสีแบบ treatment ลงบนปลายผมได้เลย
จะได้แนวๆ Pastel สวยไปอีกแบบค่ะ แบบนี้เลย
*รูปจาก Google ค่ะ
เราซื้อสีม่วงมาเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์หน้าคิดว่าจะลองทำค่ะ
7) ปกติแฟนบ่นเวลาเราทำสีผม แต่ทำสีนี้แล้วแฟนชมทั้งวันเลยค่ะ เค้าชอบมาก 5555
สิ่งที่ไม่ค่อยประทับใจ:
1) เราต้องดูแลผมอย่างจริงจังกว่าเดิมมาก สำหรับคนที่ขี้เกียจอย่างเรา ถือว่าเป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนกันค่ะ
2) สีผมสว่างๆแบบนี้ เวลาไปเดินตามตลาดก็มีคนมองเหมือนกันค่ะ แต่ไม่แคร์ อิอิ
ทิ้งท้าย....
ผมOmbre แบบนี้ เราว่าเหมาะกับการทำผมเป็นลอนมากๆ ค่ะ
พอทำออกมาแล้วเราชอบมากเลย (เซนเซอร์หน้าอีกแล้ว 55)
ในรูปดูผมฟูๆไปหน่อย 555 เพราะเราชอบยีผม ไม่ชอบให้ผมลีบค่ะ
ปล.รูปถ่ายจากกล้อง Iphone 5s ทั้งกล้องหน้า - หลัง แสงธรรมชาติ ไม่มีการปรับสีใน App นะคะ
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้จ้า