[CR] รีวิว : เปลี่ยนลุคเป็นสาวซ่าสุดแสบ กับสีผม Granny Hair

กระทู้รีวิว
หลังจากปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาพักใหญ่ๆเพราะน้ำหนักขึ้น หมดมู้ดจะแต่งตัว ไม่อยากถ่ายรูป บลาๆ พอน้ำหนักลง ก็ยังดูโทรมไม่สดใส วันหนึ่งส่องกระจกแล้วทนไม่ไหว คิดว่าควรจะต้องปฏิวัติตัวเองอีกสักครั้ง

เราเป็นคนมีปม ตอนเด็กเป็นเด็กเนิร์ดๆ โตขึ้นมาก็รู้สึกว่าตัวเองดูเรียบร้อยเกินไป 555 ทั้งยังเป็นคนขี้เกียจแต่งตัวมาก รู้สึกเหนื่อยเวลาต้องแต่งหน้าแต่งตัว แต่อยากเปรี้ยวบ้าง เก๋บ้าง เป็นผู้หญิงนี่มันไม่ง่ายเลยจีๆ

ล่าสุดอยากได้ลุคส์แนว Bad Ass จี๊ดๆ เท่ห์ๆ และดูแพง! เพื่อนเห็นต้องร้องว้าว!  ประหลาดใจ

ทำไงดีหล่ะ? ก็สะดุดสไตล์การทำสีผมคือผมโทนสีเทาคล้ายผมหงอกที่ฝรั่งเรียกกันว่า Grey Hair/Granny Hair แต่เนื่องจากกลัวจะเป็นยายไปจริงๆ เราเลยอยากได้แบบไล่สี ที่เขาเรียกกันว่า Ombre(ออมเบร)/ Balayage(บาลายาจ) บอกตามตรงเราแยกวิธีการทำสีผมสองวิธีนี้ไม่ออก และเพิ่งจะรู้ว่าสไตล์นี้เขาฮิตติดลมบนมาประมาณ 2ปีแล้วค่ะตัวเธอว์


(รูป Reference ที่ได้จาก Google)


ขั้นตอนต่อมาก็หาข้อมูล
ราคาสีผมแบบที่เราต้องการถ้าไปทำที่ร้านส่วนมากจะประมาณ 1 หมื่นบาทขึ้นไป O_o
ซึ่งแพงมากสำหรับเรา เพราะปกติจะทำสีผมเองที่บ้าน (สีน้ำตาลอ่อนธรรมชาติ) ในงบไม่เกิน 200บาท ร้านทำผมไม่ได้กินเงินเราหรอก  และผมโทนสีเทา เขาบอกกันว่าสีหลุดเร็วมากด้วย เลยรู้สึกไม่คุ้ม จากนั้นเราก็สนใจวิธีทำสีด้วยตัวเอง ก็เริ่มหาข้อมูล How to ต่างๆจากในเน็ต ทั้งจากเพื่อนๆในพันทิปและของต่างประเทศ จนได้ข้อสรุปว่า....”ไม่มีปัญญาทำเอง”แน่นอน คือถ้าทำสีเท่ากันทั้งหัวยังพอลุ้น แต่ถ้าต้องฟอกหนักๆ และไล่สีด้วย คงทั้งด่างและพังแน่นอน เราเคยมีประสบการณ์ซื้อน้ำยาฟอกสีผมมาทำไฮไลท์เองกับเพื่อนตอนสมัยอยู่มหาลัย ปรากฏว่าผมขาดเป็นช่อๆเลยจ้า จากนั้นก็ลืมๆมันไป ดูแล้วไม่อาจเอื้อม ก็คิดแค่ว่าไปตัดผมให้เป็นทรงก่อน แล้วกลับมาทำสีธรรมชาติที่บ้านเหมือนเดิมแล้วกัน

วันที่ไปตัดผมทรงเดิม กับพี่หนิง ช่างผมคนเดิม  เพิ่มเติมคือฉายาใหม่ “เจ้หนิง I Can See Your Voice”  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเราเอารูป Reference ด้านบนให้ช่างดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร เจ้หนิงบอกว่าทำได้ คิดราคา 5,000 รวมทรีทเมนต์แล้ว เราก็ตาวาวอย่างมีความหวัง ถูกกว่าที่เคยคิดไว้ครึ่งนึง ถือว่าให้ของขวัญวันเกิดตัวเองปีนี้แล้วกัน ไม่รอช้าทำการนัดหมายมาทำสีผมอีกรอบทันที เพราะเจ้หนิงบอกว่าต้องใช้เวลาทั้งวัน วันที่ไปตัดผมทำสีต่อไม่ทันแล้ว

สภาพผมก่อนตัด
ผมทรงอะไรแว้ หน้าตาก็ดูไม่สดใส แลดูเหนื่อย เหมือนนอนไม่พอตลอดเวลา



สภาพผมหลังตัด และก่อนทำสี
ผมทรงเดิมยังไม่เบื่อ ผมบ๊อบนี่อมตะจริงๆ ยังไงก็ไม่เชย ชอบตรงที่เซ็ตได้หลายลุคส์ เซอร์ เนี๊ยบ เปรี้ยว เรียบร้อย แต่สีผมนี่สิ ห่างจากการทำสีมาประมาณ 3 เดือน หงอกทุกมุม T^T


หลังทำสีผม
Grannyyyy เปลี่ยนจากป้ามาเป็นยายแล้วเฮ้!
ได้ลุคส์สาวซ่าสุดแสบแบบที่ต้องการเลย เยิฟ เยิฟ~



แชะรูปกับเจ้หนิงสักหน่อย


ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6ชั่วโมง นั่งเล่นมือถือจนแบตเกือบหมด (ขั้นตอนคร่าวๆ : ลงสีพื้น และฟอกทั้งหมด 3รอบ ก่อนจะลงสีที่ปลายผม และลงทรีทเม้นต์ทั้งก่อนและหลังทำสี เคมีเยอะมากมายหลายหลอด/ขวด เจ้หนิงต้องคอยดูแลเราตลอด ระหว่างที่ทำสีผมเราแทบจะรับลูกค้าคนอื่นไม่ได้เลย เข้าใจแหล่ะ ทำไมสีผมแบบนี้มันแพง!) ผมนุ่ม ไม่แห้ง/แตก/ฟูอย่างที่คิด สีผมที่ได้จะเป็นสีเทาเขียว แซมน้ำเงิน เจ้หนิงบอกว่าอีกแปบเดียวสีน้ำเงินจะหลุดออกก่อนใคร ส่วนตัวทำใจไว้แล้วว่าสีแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน คิดว่าสุดท้ายน่าจะเหลือเป็นสีบลอนด์อ่อนหม่นๆ


สระเองครั้งแรก เป่าแห้ง ก่อนและหลังเซ็ตผม หลังทำสีผม 2 วัน

สระครั้งแรกผ่านไป สียังคงเป็นสีเทาเขียวแซมน้ำเงินอยู่ ผมแห้งขึ้นเล็กน้อย แค่เป่าแห้งก็เป็นบ๊อบเด้งๆออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องเซ็ต ทั้งยังคงความเงางามไม่แห้งฟู อันนี้เกินความคาดหมายจริงๆ เพราะเห็นหลายคนที่ผ่านการฟอกสีผมหนักๆปลายผมมักจะแห้งและชี้ฟู นี่สินะข้อดีของการเสียเงินทำสีกีบมืออาชีพ  >.<

ผลิตภัณท์ที่เราใช้ดูแลเส้นผม

1. แชมพู Pantene Color&Perm Lasting Care สูตรสำหรับผมดัด ผมทำสี
2. ทรีทเมนต์ Loreal Hair Spa repairing creambath สูตรสำหรับผมเสีย
ที่จริงเป็นทรีทเมนต์สำหรับอบไอน้ำ แต่เราเอามาใช้แทนครีมนวดผม ใช้ดีค่ะ ถ้าผมไม่เสียมากแนะนำสูตรบำรุงธรรมดาดีกว่า สูตรสำหรับผมเสียตัวนี้อาจจะทำให้ผมลีบแบนได้
3. LOLANE Pixxel  Optimum Care Rejuvenating Oil Serum เป็นเซรั่มใส่ผมหลังสระ เราใช้บำรุงผมก่อนเป่าแห้ง ใช้แค่นิดเดียวเฉพาะปลายผม ใช้มา 2ปีแล้วยังไม่ถึงครึ่งขวดเลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



แนะนำสำหรับเพื่อนๆที่สนใจทำสี Granny Hair
1. งดทำผมสีเข้ม (ดำ, น้ำตาลเข้ม) ก่อนทำสีอย่างน้อย 3-6เดือน (ยิ่งนานยิ่งดี) เพราะสีเข้มจะทำผมสีอ่อนยาก ทำได้แต่ใช้เวลาและเปลืองเข้าไปอีกค่ะ
2. ดูแลสภาพเส้นผมและหนังศรีษะให้ดี เพราะต้องรับศึกหนัก
ก่อนวันที่ทำสีผม งดสระผมให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะน้ำมันจากหนังศรีษะตามธรรมชาติจะช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศรีษะเราจากการทำสีได้ค่ะ (ครั้งนี้นุชงดสระผมมา 3 วัน) สามารถใช้ครีมนวดผมได้ แต่งดผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมประเภทน้ำมัน, Hair Coat ยกเว้นผลิตภันฑ์ที่เขาเคลมว่าสามารถใช้กับการทำสีผมได้ เพื่อที่เราจะได้ทำสีรอบแรกได้เลยโดยไม่ต้องสระล้างผมก่อน
3. เตรียมเวลาไว้ทั้งวันเลยก็ดีค่ะ เพราะแต่ละคนน่าจะใช้เวลาไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม เพื่อให้ได้สีผมเริ่ดๆ เราต้องอดทน >.<
4. หากต้องการทำสีเพื่อออกงาน โดยเฉพาะทำสีวิกผมสีเดียวกันด้วย ควรทำก่อนวันงานไม่เกิน 2วัน เพราะสีเปลี่ยนเร็ว
5. ตังค์ (อันนี้สำคัญสุด อิอิ)


ค่าเสียหาย : ตัด+เซ็ต 350บาท, ทำสีผม 5,000 บาท(รวมทรีทเม้นต์แล้ว)
ให้ 4/5 คะแนนค่ะ หักตรงที่การไล่สียังไม่ละมุนขั้นเทพแบบที่เห็นกันใน google แต่ราคาดีงาม โดยรวมพอใจค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   ทำผม กับ เจ้หนิง I Can See Your Voice
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่