หลังสร้างความฮือฮาในหมู่แฟนคลับข้าบดินทร์ โดยโพสข้อความลงในเฟสบุ๊ค ขยายความละครข้าบดินทร์ที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ไทย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีพลังงาน ก็ได้ฤกษ์เข้ามาอัพสเตตัสขยายความเพิ่มเติม นอกจากขอแก้ไขข้อมูลคุณชายช่วงและเจ้าพระยาคลังที่เคยโพสต์ไว้ผิดเล็กน้อย ดร.ณรงค์ชัยยังได้อธิบายอิทธิพลของอังกฤษที่มีต่อประวัติศาสตร์สยามเพิ่มเติม รวมทั้งเอาเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่ไทยเราต้องทำตามกติกาสากล ทั้ง ICAO, IUU, TIP
รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างลองอ่านดูครับ แล้วท่านจะดูข้าบดินทร์คืนนี้ และอีกสองตอนสุดท้ายสนุกขึ้นอีกเยอะ
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี at กระทรวงพลังงาน//ministry of Energy
June 23 at 3:14pm
- สวัสดีวันอังคารที่ 23 มิ.ย. 2558 ครับ
- โอ้โห… เขียนเรื่องข้าบดินทร์ มีคนอ่านมากมาย ส่วนใหญ่เพราะสนใจมุมประวัติศาสตร์ เลยต้องแก้ไขข้อมูลเล็กน้อย และอธิบายอิทธิพลของอังกฤษที่มีต่อประวัติศาสตร์ชาติสยามเพิ่มเติม
- ข้อมูลเรื่องคุณชายช่วง ขอลำดับยศใหม่ครับ คือต่อมาท่านเป็นจมื่นไวยวรนารถ และตอนปลายสมัยร.3 เป็นพระยาศรีสุริยวงศ์ สุดท้ายเป็น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ในสมัยร.5 ข้อนี้ถูกต้อง
- ส่วนเจ้าพระยาพระคลังในละคร เป็นบิดาของคุณชายช่วง ตามที่คุณ Sandy Warithorn อธิบาย ถูกต้องครับ ท่านเป็นตระกูลบุนนาค เป็นเครือญาติกับครอบครัวลำดวนจากอัมพวาครับ
- ที่ผมอยากเล่าเพิ่มเติม ในเชิงประวัติศาสตร์ เหตุเพราะมีคนสนใจมาก จะไม่เล่าก็ดู “กระไร” อยู่
- ขอขยายความว่า การเมืองระหว่างประเทศที่กระทบสยามตอนนั้น สมัยร.3, 1824-1851 หนักหนาสาหัสขนาดไหน นึกถึง วันนี้ผมอยู่ในรัฐบาล แล้วเราต้องทำตามกติกาสากลยังแสนยาก ทั้ง ICAO, IUU, TIP วันนั้น ยุคนั้น ถูกบังคับให้ทำตามสั่งครับ รัฐบาลตอนนั้น บริหารอย่างไร ถึงรอดการเป็นอาณานิคมมาได้ชาติเดียวในอุษาคเนย์ และเป็น 1 ใน 2 ชาติในเอเชีย อีกหนึ่งคือ ญี่ปุ่น
- ขอเรียนว่า ชาติที่เปลี่ยน และสร้างประวัติศาสตร์โลกมากที่สุดในช่วงเวลานั้น ปี 1800-1900 คืออังกฤษ ที่ชาวสยามเรียก วิลาศ และขอชมว่า ผู้ประพันธ์นิยายเรื่องข้าบดินทร์ คือ วรรณวรรธน์ จับประเด็นได้ถูกเป๊ะเลยครับ
- คือ โลกเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ต่อเนื่องที่ใน ศตวรรษที่ 16 ชาวยุโรป นำโดยโปรตุเกส สเปน ต่อโดย ดัทช์ ที่เลี่ยงอิสลามตะวันออกกลาง เพื่อมาเอเชียทางทะเล พบของดีมากมาย ถึงศตวรรษที่ 18 อังกฤษออกล่าอาณานิคมด้วย หลังการเมืองภายในของเขาสงบ พอศตวรรษที่ 19 อังกฤษมี Industrial Revolution ผลิตสินค้าเหนือกว่าชาติอื่น และต้องใช้วัตถุดิบมาก จึงออกล่าอาณานิคมอย่างเต็มพิกัด ภาษาสมัยนี้เรียกว่า ลุยสุดซอย
- อังกฤษสมัย King George III, 1760-1820 และ Queen Victoria, 1837-1901 ยึดเอเชียหลักๆหมด มีการแลกพื้นที่กับดัทช์ สเปน โปรตุเกส เช่น ยกแอฟริกาใต้ให้ดัทช์ แลกกับพื้นที่ครอบครองของดัทช์ในอินเดีย แลกเกาะเล็กๆในอินโดนีเซียให้ดัทช์ กับเกาะ Manhattan ที่ New York เพื่อให้ดัทช์ครอบครองอินโดนีเซียเต็มพื้นที่ และปล่อยให้สเปนครอบครองฟิลิปปินส์ เพื่อจัดการผลประโยชน์ในทวีปอเมริการ่วมกัน ส่วนญี่ปุ่น เก่งและโชคดี คืออังกฤษใช้เวลาจัดการ เข้ายึดครองจีนนานไปหน่อย ตอนนั้นอเมริกามาแล้ว มาให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศปี 1854 (ภาพยนตร์ The Last Samurai) พอเปิดก็เข้ายุคเมจิ ญี่ปุ่นได้อเมริกามาช่วยกีดกันอังกฤษ และญี่ปุ่นก็เข้าขบวนการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วด้วย
- ซูมมาใกล้สยาม อังกฤษยึดอินเดีย (คือรวมทั้งชมพูทวีป) หมดปีค.ศ. 1858 ทางใต้เข้าครอบครองมาลายู มาลักกา สิงคโปร์ เริ่มจาก 1819 ครบหมด 1824 เริ่มเข้าพม่า (เมียนมา) ปี 1824 ยึดหมดถึงมัณฑะเลย์ปี 1885 เข้ายึดจีนด้วยสงครามฝิ่นครั้งแรก ช่วงปี 1839-1842 ครั้งที่สองในปี 1856-1860 ยึดครองเมืองใหญ่ๆได้ จีนเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็น Republic หมดราชวงศ์ชิง (แมนจู) ปี 1912 (ภาพยนตร์ The Last Emperor)
- สำหรับสยาม ดูท่าทางอังกฤษเอาแน่ ใช้การค้าบุกก่อน เรียกร้องให้เลิกระบบขายผ่านพระคลัง เป็นระบบเสรี ใช้ทูตเจมส์ บรู๊ค มาทำสนธิสัญญาเปิดก่อน จนนำไปสู่การยกเลิกระบบขายผ่านพระคลัง เป็นการค้าเสรีตาม Bowring Treaty ปี 1855 ที่รัฐเก็บภาษีได้ 3% เรียกว่า ภาษีร้อยชักสาม สำนักงานภาษีคือ อาคารเก่าข้างโรงแรมโอเรียลเตลและสถานทูตฝรั่งเศส ที่ใช้เป็นสำนักงานของตำรวจน้ำ สถาปัตยกรรมสุดสวย แต่สภาพปัจจุบันทรุดโทรมน่าเสียดายสุดๆ
- เสนาบดีที่เดินเรื่องนี้ต่อเนื่อง คือคุณชายช่วง ผมเชื่อว่า ตอนสมัยร.4 ถ้าเราไม่ยอมรับ Bowring Treaty เหมือนที่จีนและเมียนมาไม่ยอมรับ เราคงไม่รอด ถ้าท่านไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามฝิ่นครั้งที่ 2 ระหว่างอังกฤษกับจีน แสดงอยู่ที่ฮ่องกง จะเห็นว่า เราไม่มีทางสู้เลย Scene ข้าบดินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. แค่เรือกลไฟที่นายห้างหันแตร (Hunter) เอามาโชว์เพื่อขาย ชาวบางกอกก็ตื่นเต้น มุงดูกันเต็มฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
- ข้าบดินทร์ตอนต่อจากนี้จะเริ่มเห็นบทบาทของเหมกับคุณชายช่วงในการยื้อ/ยันพวกวิลาศ แล้วต้องเจอปัญหาฝิ่นที่พวกวิลาศเอามามอมเมาชาวสยามด้วย อย่าลืมติดตามชมนะครับ
- ข้อเขียนใน FB ของผม ตั้งแต่มารับหน้าที่เป็นรมว.พลังงาน เริ่มก.ย. 2557 กำลังรวมพิมพ์เป็นเล่ม จะแจกสัปดาห์หน้านี้ สนใจขอได้ครับที่ kverathaworn@gmail.com
- สวัสดีครับ…
ที่มา :
https://www.facebook.com/NarongchaiAkrasanee/posts/1605067443043597
ดร.ณรงค์ชัยแนะติดตามข้าบดินทร์คืนนี้ ดูพ่อเหมกับคุณชายช่วงยื้อ/ยันพวกวิลาศทำให้ไทยพ้นจากเมืองขึ้นได้อย่างไร
รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างลองอ่านดูครับ แล้วท่านจะดูข้าบดินทร์คืนนี้ และอีกสองตอนสุดท้ายสนุกขึ้นอีกเยอะ
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี at กระทรวงพลังงาน//ministry of Energy
June 23 at 3:14pm
- สวัสดีวันอังคารที่ 23 มิ.ย. 2558 ครับ
- โอ้โห… เขียนเรื่องข้าบดินทร์ มีคนอ่านมากมาย ส่วนใหญ่เพราะสนใจมุมประวัติศาสตร์ เลยต้องแก้ไขข้อมูลเล็กน้อย และอธิบายอิทธิพลของอังกฤษที่มีต่อประวัติศาสตร์ชาติสยามเพิ่มเติม
- ข้อมูลเรื่องคุณชายช่วง ขอลำดับยศใหม่ครับ คือต่อมาท่านเป็นจมื่นไวยวรนารถ และตอนปลายสมัยร.3 เป็นพระยาศรีสุริยวงศ์ สุดท้ายเป็น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ในสมัยร.5 ข้อนี้ถูกต้อง
- ส่วนเจ้าพระยาพระคลังในละคร เป็นบิดาของคุณชายช่วง ตามที่คุณ Sandy Warithorn อธิบาย ถูกต้องครับ ท่านเป็นตระกูลบุนนาค เป็นเครือญาติกับครอบครัวลำดวนจากอัมพวาครับ
- ที่ผมอยากเล่าเพิ่มเติม ในเชิงประวัติศาสตร์ เหตุเพราะมีคนสนใจมาก จะไม่เล่าก็ดู “กระไร” อยู่
- ขอขยายความว่า การเมืองระหว่างประเทศที่กระทบสยามตอนนั้น สมัยร.3, 1824-1851 หนักหนาสาหัสขนาดไหน นึกถึง วันนี้ผมอยู่ในรัฐบาล แล้วเราต้องทำตามกติกาสากลยังแสนยาก ทั้ง ICAO, IUU, TIP วันนั้น ยุคนั้น ถูกบังคับให้ทำตามสั่งครับ รัฐบาลตอนนั้น บริหารอย่างไร ถึงรอดการเป็นอาณานิคมมาได้ชาติเดียวในอุษาคเนย์ และเป็น 1 ใน 2 ชาติในเอเชีย อีกหนึ่งคือ ญี่ปุ่น
- ขอเรียนว่า ชาติที่เปลี่ยน และสร้างประวัติศาสตร์โลกมากที่สุดในช่วงเวลานั้น ปี 1800-1900 คืออังกฤษ ที่ชาวสยามเรียก วิลาศ และขอชมว่า ผู้ประพันธ์นิยายเรื่องข้าบดินทร์ คือ วรรณวรรธน์ จับประเด็นได้ถูกเป๊ะเลยครับ
- คือ โลกเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ต่อเนื่องที่ใน ศตวรรษที่ 16 ชาวยุโรป นำโดยโปรตุเกส สเปน ต่อโดย ดัทช์ ที่เลี่ยงอิสลามตะวันออกกลาง เพื่อมาเอเชียทางทะเล พบของดีมากมาย ถึงศตวรรษที่ 18 อังกฤษออกล่าอาณานิคมด้วย หลังการเมืองภายในของเขาสงบ พอศตวรรษที่ 19 อังกฤษมี Industrial Revolution ผลิตสินค้าเหนือกว่าชาติอื่น และต้องใช้วัตถุดิบมาก จึงออกล่าอาณานิคมอย่างเต็มพิกัด ภาษาสมัยนี้เรียกว่า ลุยสุดซอย
- อังกฤษสมัย King George III, 1760-1820 และ Queen Victoria, 1837-1901 ยึดเอเชียหลักๆหมด มีการแลกพื้นที่กับดัทช์ สเปน โปรตุเกส เช่น ยกแอฟริกาใต้ให้ดัทช์ แลกกับพื้นที่ครอบครองของดัทช์ในอินเดีย แลกเกาะเล็กๆในอินโดนีเซียให้ดัทช์ กับเกาะ Manhattan ที่ New York เพื่อให้ดัทช์ครอบครองอินโดนีเซียเต็มพื้นที่ และปล่อยให้สเปนครอบครองฟิลิปปินส์ เพื่อจัดการผลประโยชน์ในทวีปอเมริการ่วมกัน ส่วนญี่ปุ่น เก่งและโชคดี คืออังกฤษใช้เวลาจัดการ เข้ายึดครองจีนนานไปหน่อย ตอนนั้นอเมริกามาแล้ว มาให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศปี 1854 (ภาพยนตร์ The Last Samurai) พอเปิดก็เข้ายุคเมจิ ญี่ปุ่นได้อเมริกามาช่วยกีดกันอังกฤษ และญี่ปุ่นก็เข้าขบวนการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วด้วย
- ซูมมาใกล้สยาม อังกฤษยึดอินเดีย (คือรวมทั้งชมพูทวีป) หมดปีค.ศ. 1858 ทางใต้เข้าครอบครองมาลายู มาลักกา สิงคโปร์ เริ่มจาก 1819 ครบหมด 1824 เริ่มเข้าพม่า (เมียนมา) ปี 1824 ยึดหมดถึงมัณฑะเลย์ปี 1885 เข้ายึดจีนด้วยสงครามฝิ่นครั้งแรก ช่วงปี 1839-1842 ครั้งที่สองในปี 1856-1860 ยึดครองเมืองใหญ่ๆได้ จีนเปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็น Republic หมดราชวงศ์ชิง (แมนจู) ปี 1912 (ภาพยนตร์ The Last Emperor)
- สำหรับสยาม ดูท่าทางอังกฤษเอาแน่ ใช้การค้าบุกก่อน เรียกร้องให้เลิกระบบขายผ่านพระคลัง เป็นระบบเสรี ใช้ทูตเจมส์ บรู๊ค มาทำสนธิสัญญาเปิดก่อน จนนำไปสู่การยกเลิกระบบขายผ่านพระคลัง เป็นการค้าเสรีตาม Bowring Treaty ปี 1855 ที่รัฐเก็บภาษีได้ 3% เรียกว่า ภาษีร้อยชักสาม สำนักงานภาษีคือ อาคารเก่าข้างโรงแรมโอเรียลเตลและสถานทูตฝรั่งเศส ที่ใช้เป็นสำนักงานของตำรวจน้ำ สถาปัตยกรรมสุดสวย แต่สภาพปัจจุบันทรุดโทรมน่าเสียดายสุดๆ
- เสนาบดีที่เดินเรื่องนี้ต่อเนื่อง คือคุณชายช่วง ผมเชื่อว่า ตอนสมัยร.4 ถ้าเราไม่ยอมรับ Bowring Treaty เหมือนที่จีนและเมียนมาไม่ยอมรับ เราคงไม่รอด ถ้าท่านไปดูพิพิธภัณฑ์สงครามฝิ่นครั้งที่ 2 ระหว่างอังกฤษกับจีน แสดงอยู่ที่ฮ่องกง จะเห็นว่า เราไม่มีทางสู้เลย Scene ข้าบดินทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. แค่เรือกลไฟที่นายห้างหันแตร (Hunter) เอามาโชว์เพื่อขาย ชาวบางกอกก็ตื่นเต้น มุงดูกันเต็มฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
- ข้าบดินทร์ตอนต่อจากนี้จะเริ่มเห็นบทบาทของเหมกับคุณชายช่วงในการยื้อ/ยันพวกวิลาศ แล้วต้องเจอปัญหาฝิ่นที่พวกวิลาศเอามามอมเมาชาวสยามด้วย อย่าลืมติดตามชมนะครับ
- ข้อเขียนใน FB ของผม ตั้งแต่มารับหน้าที่เป็นรมว.พลังงาน เริ่มก.ย. 2557 กำลังรวมพิมพ์เป็นเล่ม จะแจกสัปดาห์หน้านี้ สนใจขอได้ครับที่ kverathaworn@gmail.com
- สวัสดีครับ…
ที่มา : https://www.facebook.com/NarongchaiAkrasanee/posts/1605067443043597