รบกวนถามเกี่ยวกับหนังเรื่อง 2001: A Space Odyssey หน่อยครับ

ผมรบกวนถามข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้หน่อยครับ
1.อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก เขียนนิยายไปพร้อมๆกับเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับสแตนลีย์ คูบริก ใช่ไหมครับ  ส่วนอีก 3 เล่มต่อมาเขียนในภายหลังจากเล่มแรกหรือหลังจากหนังออกฉายไปแล้ว  

2.ได้ข่าวว่าทั้งคู่มีความขัดแย้งทางความคิดกันอยู่บ้าง  และไม่รู้ว่าโดยรวมแล้วบทภาพยนตร์อิงความคิดใครเป็นหลัก  เคยได้ข่าวว่าแตกคอกันจน สแตนลีย์ คูบริก ได้เครดิตไปคนเดียว  แต่ผมดูเครดิตตอนจบ  บทภาพยนตร์ ก็ให้เครดิตกับทั้งคู่  ไม่ทราบว่ากรณีนี้เป็นแบบไหนกันแน่

3.ขณะที่เขียนเล่มแรกคิดว่า อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก คิดเรื่องราวทั้งหมดจนถึงเล่ม 4 ไปแล้วหรือยัง  คิดไว้คร่าวๆ หรืออาจเปลี่ยนความคิดบางอย่างในการเขียนเล่มต่อๆมา เพราะเว้นระยะห่างกันพอสมควร

4.เป็นไปได้หรือไม่ว่า ตอนเขียนบทภาพยนตร์ สแตนลีย์ คูบริก อาจจะคิดกับหนังของเขาอีกอย่างหนึ่ง  โดยเฉพาะสัญลักษณ์ทั้งหลาย  แต่ภายหลัง อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก ไปเขียนอีก 3 เล่ม เขาอาจจะคิดต่างกันกับ สแตนลีย์ คูบริก ก็ได้

5.สรุปคือ  หนังเรื่องนี้ดูเข้าใจยาก  แต่เห็นหลายความคิดเห็นหรือวิจารณ์บอกว่าจะเข้าใจง่ายขึ้นถ้าอ่านนิยายครบทั้ง 4 เล่ม  แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่า สิ่งที่อยู่ในนิยายอีก 3 เล่มต่อมา  มันอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่หนังเป็น หรือสิ่งที่ สแตนลีย์ คูบริก คิด

เพราะเท่าที่เคยดูหนังของ สแตนลีย์ คูบริก มาเขาค่อนข้างมีความเป็นศิลปินสูง  หนังของเขาค่อนข้างแนว  สร้างมานานแล้วแต่มาดูปัจจุบันก็ยังสนุก และไม่ล้าสมัย ประเด็นที่เขาสื่อก็ยังคงทรงพลังอยู่  หนังของเขาเท่าที่ผมดูจะตลกร้าย เสียดสีมนุษย์ เสียดสีสังคม วิพากษ์มนุษย์ สังคมจนกระทั่งโลกด้วย

จริงๆแล้ว สแตนลีย์ คูบริกอาจจะคิดอีกอย่างหนึ่ง ส่วน อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก พอไปเขียนอีก 3 เล่มอาจจะคิดอีกอย่างหนึ่ง  เป็นไปได้หรือไม่ และไม่ทราบว่ามีข้อมูลในส่วนนี้อย่างไรบ้างครับ



รบกวนสอบถามความคิดเห็นและข้อมูลหน่อยครับ

ขอบคุณมากนะครับ


### เพิ่มเติมข้อมูลครับ ###

ผมเคยอ่านข้อมูลมา(ไม่รู้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือเปล่านะครับ)  นิยายเล่ม 2-4 โดยเฉพาะเล่ม 4 จะอธิบายสิ่งที่เข้าใจยากในเล่มแรก  ทีนี้คนก็เลยเอาสิ่งที่อธิบายนั้นมาตีความหนัง  

ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าสิ่งที่หนังสืออธิบายในเล่มๆ ต่อๆมา  มันอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ สแตนลีย์ คูบริก คิด  เพราะสิ่งที่ สแตนลีย์ คูบริก ทำเขาอาจจะตั้งใจให้เราตีความเอาเอง  หรือเปิดให้เราตีความ   แต่ในหนังสืออีก 3 เล่มก็เป็นสิ่ง อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก เขาคิดภายหลังจากที่หนังออกฉายแล้ว เขาคิดและอธิบายในมุมของเขา ซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่หนังต้องการสื่อ หรือมันแตกต่างกัน




### เพิ่มเติม 2 ###

คือผมคิดว่าถ้าเราเอาเนื้อหาจากหนังสือมาอธิบายหนัง  โดยเฉพาะการอธิบายสิ่งที่ชวนสงสัยในหนัง ในหนังสือเล่มที่ 4  สิ่งที่เปิดให้เราตีความมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่ายเลย  เพราะมันอธิบายไว้หมดแล้ว  ถ้ามองในมุมนี้หนังจะลดความลุ่มลึกลงไปเยอะเลย

มันเป็นไปได้ไหมครับว่าจริงๆแล้ว คูบริก อาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นก็ได้ เขาอาจอยากจะให้เราตีความเอาเอง  ส่วนหนังสือก็เป็นการอธิบายหรือตีความในแนวคิดของ อาร์เธอร์ ชาลส์ คลาร์ก

คือถ้าเราไม่เอาสิ่งที่หนังสืออีก 3 เล่มอธิบาย  เอาแค่เนื้อหาที่เห็นในหนัง  มันอาจจะตีความได้หลายอย่าง ตรงกับความต้องการของ  คูบริก  หรือเปล่าครับ

ผมขออนุญาตเอาลิงค์ที่วิจารณ์หนังเรื่องนี้มานะครับ
http://ppantip.com/topic/31966071
จากที่ท่าน จขกท ในลิงค์นี้อธิบายและตีความผมค่อนข้างจะเห็นด้วยเลย  เพราะ คูบริก  ก็เคยทำหนังเสียดสีเกี่ยวกับสงครามเย็นมาแล้วในหนังเรื่อง Dr. Strangelove

หรือจะตีความเป็นเรื่องปรัชญาพุทธก็ได้อีก

หรือจะตีความแบบในหนังสือก็ได้อีก

คือผมสงสัยว่าจริงๆแล้ว  คูบริก แกอยากทำหนังปลายเปิดให้เราตีความเอาเอง  ส่วนหนังสือเล่มต่อๆมา ก็อธิบายในมุมของผู้เขียนเองหรือเปล่าครับ

คือถ้าเป็นแบบหนังสือ เนื้อหาก็ลึกล้ำอยู่ก็จริง  แต่ถ้าเราตัดเนื้อหาในหนังสือที่อธิบายสิ่งต่างๆไป  เอาแค่เนื้อหาในหนังหรือสิ่งที่ คูบริก ต้องการนำเสนอ  และก็จบแบบไม่อธิบาย ให้ตีความกันเอง หนังมันจะลุ่มลึกกว่าเยอะเลย ในความคิดของผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่