มีเรื่องราวในคดีดังนี้ค่ะ
โจทก์และจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยมีการพิพากษาตามสัญญา โดยมีข้อความกล่าวในข้อนึงว่า หากจำเลยผิดสัญญาให้โจทก์บังคับคดีขายบ้านจำเลยเพื่อนำเงินมาได้เลย เมื่อโจทก์ เห็นว่าจำเลยผิดสัญญาจึงร้องศาล และศาลได้ทำหมายบังคับคดีส่งไปที่เจ้าพนักงานบังคับคดี

มีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
เหตุการณ์ที่ 1. ศาลออกหมายบังคับคดี  โดยเขียนว่า ด้วยคดีเรื่องนี้ โจทก์ร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษา ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่แนบมาพร้อมนี้
เหตุการณ์ที่ 2. เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งการยึดอสังหาริมทรัพย์ และขอทราบราคาประเมิน จากเจ้าพนักงานที่ดิน พร้อมทั้งรายงานการยึดอสังหาริมทรัพย์
เหตุการณ์ที่ 3. จำเลย - ได้ดำเนินการร้องขอเพิกถอนหมายบังคับคดี และให้งดการบังคับคดี บอกว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดเอง จำเลยไม่ได้ทำผิด
เหตุการณ์ที่ 4. ศาล - นัดไต่สวนคำร้อง และตัดสินว่า
เมื่อปรากฏว่าจำเลยของดการบังคับคดีไว้ก่อน และโจทก์แถลงไม่คัดค้าน ศาลอนุญาตให้งดการบังคับคดีเอาไว้ กรณีจึงไม่มีเหตุไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนหมายบังคับคดีต่อไป ให้งดการไต่สวน

คำถามคือ
1. คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ว่าให้โจทก์บังคับคดีได้นั้น ยังคงมีอยู่หรือไม่
2. ถ้าหากจำเลยต้องการขายบ้าน ซึ่งตอนนี้ที่ดินได้ติดหนังสือจากเจ้าพนักงานบังคับคดี จะทำการขายได้ไหม หรือต้องมาขออนุญาตกับโจทก์ก่อน
3. คำร้องขอเพิกถอนหมายบังคับคดีของจำเลยที่เคยฟ้องกลับ แล้วศาลไม่ไต่สวน จำเลยจะสามารถฟ้องต่ออีกได้ไหม
4. ศาลอนุญาตให้งดการบังคับคดีเอาไว้นั้น เป็นการชั่วคราวหรือตลอดไป (โจทก์สามารถบังคับคดีในอนาคตได้อีกหรือไม่ เห็นว่าอายุการบังคับคดีมี 10 ปี)
4. จากเหตุการณ์ดังกล่าว โจทก์หรือจำเลย เป็นฝ่ายได้ประโยชน์

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ