สวัสดีค่ะ นี่คือคำชี้แจงของรุ่นพี่ ซึ่งขอยืมล็อกอินมาเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะ

   ทางเรา ในนามกลุ่มที่ทำเสื้อ I’M A NISIT KASETSART อยากจะขอเข้ามาชี้แจงรายละเอียด ในเรื่องที่มีการโพสดังนี้ อันดับแรก ทางกลุ่ม ยอมรับในประเด็นที่ลายเสื้อเหมือนกับอีกสถาบัน
โดยมีสาเหตุเกิดจากการเข้าใจไม่ตรงกันกับหุ้นส่วนคนที่ออกแบบลาย โดยหุ้นส่วนบอกว่ารู้จักกับกลุ่มคนขาย และ ออกแบบเสื้อ ซึ่งบอกว่าคุยได้เพราะเป็นเพื่อนกัน แต่ความจริง(มาทราบในภายหลัง ) แล้วคนที่หุ้นส่วนบอกว่าเป็นคนขายที่รู้จักนั้น เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์ ซึ่งมีการเข้าใจผิดว่าเป็นคนขายเอง ทั้งนี้พอรู้ข้อเท็จจริงแล้วทางเราต้องการแสดงความรับผิดชอบ โดยทางเรามีการติดต่อไปคุยกับอีกฝั่ง โดยยอมรับผิดในเรื่องลายเสื้อ ซึ่งทางอีกฝั่ง ณ ที่นี้ขอแทนตัวเองว่าน้อง ได้ขอไปปรึกษาเพื่อนก่อน และได้ข้อเสนอมาว่า ทางน้องทำเสื้อขึ้นมาเพื่อเป็นการกุศล โดยกำไรทั้งหมด 100% จะบริจาคให้ทางสภากาชาดไทย ( ซึ่งไม่ใช้คำว่ากำไรส่วนนึงแต่อย่างใด ) ทางน้องเสนอให้เรานำกำไรทั้ง 100% ไปร่วมบริจาค ในประเด็นนี้ทางเราก้ตอบไปตามความเป็นจริงว่า จะนำไปร่วมบริจาค

    ประเด็นต่อมา หลังจากมีการเริ่มขายเสื้อในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน ในการขายหน้าร้าน ทางเรามีการจดข้อมูลบัญชีอยู่ตลอดเวลา ว่าเสื้อแต่ละตัวขายได้ในราคาเท่าไหร่ เนื่องจากการขายเสื้อ โดยส่วนมากเป็นกลุ่มเพื่อนกัน ราคาก็จะมีการปรับลดบ้าง
และในคืนวันที่ 15 มีโทรศัพท์เข้ามาระบุว่าเป็นคุณแม่ของน้อง จากสถาบันดังกล่าว ต้องการสอบถามระยะเวลาที่ชัดเจนในการขายเสื้อ เพื่อจะได้นับจำนวนเงินทั้งหมดแล้วจึงตัดยอดบริจาค ทางเราตอบไปตามความเป็นจริงว่า ได้มีการตกลงกับน้องไปแล้ว ว่าจะพยายามจัดการให้เร็วที่สุด เนื่องจากเสื้อต้องมีการขายในวันที่ 16 อีกหนึ่งวัน ตามที่ตกลงไว้ และคาดว่าจะขายได้ไม่หมดเช่นกัน เนื่องจาก เป็นคณะที่ฐานลูกค้าของเราไม่แน่น ทางคุณแม่เสนอเงื่อนไข โดยให้ข้อมูลว่า“ มีการทำเสื้อมาหลายตัว ต้นทุนในการทำเสื้อสกรีน ประมาณตัวละ 100 บาท โดยยึดข้อมูลราคาขายจากอินสตราแกรมของทางร้าน ที่ราคา 200 บาทต่อตัว โดยสรุปว่าขายเสื้อได้ทั้งหมด 260 ตัว คิดเป็นกำไรตัวละ 100 บาท หักที่ต้องนำไปบริจาค 50% เป็นเงินทั้งหมด 13,000 บาท” และให้ทางเราโอนเงินไปให้ จะได้สรุปปิดบัญชี นี่คือสิ่งที่คุณแม่น้องพูด ตอนนี้ทางเรา ยอมรับว่ารู้สึกไม่โอเค จึงได้ยื่นข้อเสนอไปว่า ทางเราจะไปพยายามจัดการทุกอย่างให้เสร็จ และรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้

    หลังจากนั้นเราได้มีการติดต่อไปอีกครั้งในคืนวันที่ 15 มิถุนายน โดยทางเรา ได้ข้อสรุปว่าเหนื่อยกับปัญหาแล้ว ทางเราผิด และพยายามแก้ไขทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้ว แต่เรากลับโดนกดดันที่จะให้รีบโอนเงินไปบริจาค และ ถูกตำหนิ ด้วยวาจาที่กระทบกระทั่ง ทางเราจึงตัดสินใจที่จะเลิกขายเสื้อ และยื่นข้อเสนอว่า นำกำไรส่วนที่ขายเสื้อได้ในวันแรกทั้งหมด ร่วมบริจาคกับน้องเลย แต่ ทางน้องต้องการความมั่นใจว่า เราจะไม่ทำเสื้อลายนี้มาขายอีก เราจึงเสนอเพื่อความสบายใจ โดยจะนำเสื้อลายนี้ทั้งหมดที่ได้ทำมา ให้น้อง แต่ น้องไม่โอเค โดนให้เหตุผลว่า ไม่รู้จะนำเสื้อลายนี้ไปทำอะไร เนื่องจากเป็นคนละสถาบัน ทางเราเลย ให้น้องยื่นข้อเสนอว่า ต้องการจะทำยังไง และน้องก็ได้มีการไปปรึกษากันและกลับมาในข้อสรุปที่ว่า ต่างฝ่ายต่างดำเนินธุรกิจของตนไป โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เราก็ยื่นข้อเสนอครั้งสุดท้ายไปว่า รายได้ส่วนหนึ่งเราจะขอร่วมบริจาคกับน้องได้ไหม โดยได้ข้อสรุปจากน้องว่า ให้ต่างฝ่ายต่างไปทำบุญกับสภากาชาดเอง เพื่อความสบายใจ โดยนี่คือสายสุดท้ายที่เราได้คุยกัน

    และจากการโดนกล่าวหาว่าได้มีการผลิตเสื้อเพิ่มล๊อตใหม่มาขายนั้นซึ่งไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ เป็นการเข้าใจผิด ซึ่งจะขอชี้แจงว่าในเรื่องที่มีการพูดถึงเรื่องเสื้อล็อตใหม่ที่ทำการขายนั้น รูปนั้นทางพรีเซนเตอร์เรามีการลงรูปโดยเจตนาเพื่อจะแจ้งให้ทราบว่าเสื้อล็อตที่จะขายในวันที่ 16 นั้นเป็นอีกล็อตที่ไม่ได้เตรียมไว้เพื่อขายในวันที่ 15 ( คือเราแบ่งเสื้อ 260 ตัว ขายในสองวันนี้ นี่คือคำว่าล็อตของเรา ) เท่านั้น และตอนนี้ทางเราไม่ได้มีการผลิตเพิ่มแต่อย่างใด เนื่องจากเสื้อลายแรก 260 ตัวที่ทำยังขายไม่หมดเลย

นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทางเราไม่ทราบแต่อย่างใดว่าเจ้าของกระทู้ที่มีการตั้งในเมื่อคืนมีเจตนาอย่างไร แต่การนำชื่อสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง โดยก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งชื่อสถาบัน และน้องพรีเซนเตอร์ ที่ไม่มีการเซนเซอร์ในตอนแรก ทางเราคิดว่ามันเป็นเรื่องระหว่างบุคคล และ ได้มีการตกลงเรียบร้อยแล้ว

ทางเราต้องขอโทษที่ออกมาชี้แจงช้า จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย และอีกหลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง