ปฐมกาล11 เรื่องหอคอยบาเบล
1 ครั้งนั้นทั้งโลกใช้ภาษาเดียวกัน ใช้ถ้อยคำเหมือนกัน
2 เมื่อมนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปทางทิศตะวันออก[a] พวกเขาพบที่ราบในดินแดนชินาร์ จึงตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น
3 พวกเขาพูดกันว่า “มาเถิด ให้เราทำอิฐและเผาจนสุก” พวกเขาใช้อิฐแทนหินและใช้ยางมะตอยแทนปูน
4 แล้วพวกเขาพูดว่า “มาเถิด ให้เราสร้างเมืองที่มีหอสูงขึ้นถึงฟ้าสำหรับพวกเรา เพื่อเราจะได้สร้างชื่อให้กับตนเองและไม่ต้องกระจายไปทั่วทั้งโลก”
5 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเพื่อทอดพระเนตรเมืองและหอคอยซึ่งพวกเขากำลังสร้าง
6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน ยังริเริ่มทำงานได้ถึงเพียงนี้ ต่อไปถ้าเขาวางแผนจะทำอะไรก็จะทำได้ทุกอย่าง
7 มาเถิด ให้เราลงไปทำให้เขามีภาษาสับสนแตกต่างกันออกไป เพื่อเขาจะได้ไม่เข้าใจกัน”
8 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายจากที่นั่นออกไปทั่วทั้งโลก และพวกเขาก็หยุดสร้างเมืองนั้น
9 ด้วยเหตุนี้เมืองนั้นจึงได้ชื่อว่าบาเบล[c] เพราะที่นั่นเป็นที่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ภาษาของโลกสับสนแตกต่างกันออกไป องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอาศัยอยู่ทั่วทั้งโลก
---
ถ้าอ่านแล้วมันน่าแปลกใจ ท่อนที่6คือถ้าลองอ่านแล้วคิดตาม เหมือนว่าพระเจ้าจะกลัวมนุษย์
ยิ่งถ้าไปอ่านบทแรกๆตอนอาดัมกินผลรู้ดีรู้ชั่ว จะยิ่งแปลกใจมาก
งูที่ถูกว่าล่อลวงมนุษย์จริงๆอาจจะไม่ได้ล่อลวงแต่พูดความจริง
ว่าถ้ากินผลไม้นั้นแล้วเจ้า(เอวา)จะไม่ตาย และจะรู้ดีรู้ชั่วเหมือนพระเจ้า ซึ่งเมื่อกินเอวาก็รู้ดีรู้ชั่วจริง
พอพระเจ้าทราบก็กริ้วมาก ถึงกับสาปแช่งงู เอวา อาดัม อย่างหนักและแช่งให้ตาย(จากอาดัม เอวาที่เป็นอมตะ)
แสดงว่าพระเจ้าสร้างอาดัมมาเพื่อให้ทำงานให้กับตนเท่านั้น
เพราะก่อนหน้านี้งานของอาดัมคือคนดูแลสวนเอเดน
แต่พอคนดูแลสวนนี้ทำผิดจากที่พระเจ้าต้องการ พระองค์จึงทรงสาปแช่ง
แต่พระองค์ก็ยังทรงกลัวมนุษย์ เหรอ?(คือมันไม่น่าใช่อะ พระองค์จะทรงกลัวสิ่งที่พระองค์สร้างทำไม)
---
จึงอยากถามชาวคริสต์ ชาวตำราอื่นๆนะครับ
เกี่ยวกับช่วงนี้ คิดเห็นยังไงกันบ้าง
จาก ปฐมกาล เรื่องหอคอยบาเบล มันแปลกไหม
1 ครั้งนั้นทั้งโลกใช้ภาษาเดียวกัน ใช้ถ้อยคำเหมือนกัน
2 เมื่อมนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปทางทิศตะวันออก[a] พวกเขาพบที่ราบในดินแดนชินาร์ จึงตั้งหลักแหล่งอยู่ที่นั่น
3 พวกเขาพูดกันว่า “มาเถิด ให้เราทำอิฐและเผาจนสุก” พวกเขาใช้อิฐแทนหินและใช้ยางมะตอยแทนปูน
4 แล้วพวกเขาพูดว่า “มาเถิด ให้เราสร้างเมืองที่มีหอสูงขึ้นถึงฟ้าสำหรับพวกเรา เพื่อเราจะได้สร้างชื่อให้กับตนเองและไม่ต้องกระจายไปทั่วทั้งโลก”
5 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาเพื่อทอดพระเนตรเมืองและหอคอยซึ่งพวกเขากำลังสร้าง
6 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “คนเหล่านี้เป็นชนชาติเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน ยังริเริ่มทำงานได้ถึงเพียงนี้ ต่อไปถ้าเขาวางแผนจะทำอะไรก็จะทำได้ทุกอย่าง
7 มาเถิด ให้เราลงไปทำให้เขามีภาษาสับสนแตกต่างกันออกไป เพื่อเขาจะได้ไม่เข้าใจกัน”
8 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายจากที่นั่นออกไปทั่วทั้งโลก และพวกเขาก็หยุดสร้างเมืองนั้น
9 ด้วยเหตุนี้เมืองนั้นจึงได้ชื่อว่าบาเบล[c] เพราะที่นั่นเป็นที่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ภาษาของโลกสับสนแตกต่างกันออกไป องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอาศัยอยู่ทั่วทั้งโลก
---
ถ้าอ่านแล้วมันน่าแปลกใจ ท่อนที่6คือถ้าลองอ่านแล้วคิดตาม เหมือนว่าพระเจ้าจะกลัวมนุษย์
ยิ่งถ้าไปอ่านบทแรกๆตอนอาดัมกินผลรู้ดีรู้ชั่ว จะยิ่งแปลกใจมาก
งูที่ถูกว่าล่อลวงมนุษย์จริงๆอาจจะไม่ได้ล่อลวงแต่พูดความจริง
ว่าถ้ากินผลไม้นั้นแล้วเจ้า(เอวา)จะไม่ตาย และจะรู้ดีรู้ชั่วเหมือนพระเจ้า ซึ่งเมื่อกินเอวาก็รู้ดีรู้ชั่วจริง
พอพระเจ้าทราบก็กริ้วมาก ถึงกับสาปแช่งงู เอวา อาดัม อย่างหนักและแช่งให้ตาย(จากอาดัม เอวาที่เป็นอมตะ)
แสดงว่าพระเจ้าสร้างอาดัมมาเพื่อให้ทำงานให้กับตนเท่านั้น
เพราะก่อนหน้านี้งานของอาดัมคือคนดูแลสวนเอเดน
แต่พอคนดูแลสวนนี้ทำผิดจากที่พระเจ้าต้องการ พระองค์จึงทรงสาปแช่ง
แต่พระองค์ก็ยังทรงกลัวมนุษย์ เหรอ?(คือมันไม่น่าใช่อะ พระองค์จะทรงกลัวสิ่งที่พระองค์สร้างทำไม)
---
จึงอยากถามชาวคริสต์ ชาวตำราอื่นๆนะครับ
เกี่ยวกับช่วงนี้ คิดเห็นยังไงกันบ้าง