การเดินทางครั้งใหม่ของ5หนุ่ม นโปเลียนที่การเดินทางครั้งนี้ได้เปลี่ยนสมาชิกไปนิดหน่อยโดย Jonathan Donnaes เลือกที่จะลาออกจากวงไปใช้ชีวิตนอกวงการดนตรี โดยได้Bastien Lafaye พร้อมทั้งได้กลับมาเป็นมือเบสเหมือนเดิมแล้วหลังจากพักวงไประยะนึง (โดยได้ Jeremy Smith อดีตมือกีตาร์ลีดแห่ง City Lightsมาเล่นเบสแทนในช่วงนั้น)

ขอซักประวัติของผู้ร่วมเดินทางครั้งใหม่กันสักนิด Bastien Lafayeเป็นชาวฝรั่งเศสเช่นกันโดยไอ้หนุ่มคนนี้ได้เปิดห้องอัดMirror Studio พร้อมทั้งเคยเป็นมือกลองของวงBlack Knivesและอดีตมือกีตาร์ของวงThrough My Eyes ซึ่งการันตีถึงฝีมือและประสปการ์ณได้เลยทีเดียว

ขอพูดถึงแนวEasy Coreกันสักหน่อย Easy Core คือส่วนผสมของดนตรีเมโลดีสนุกๆสนานๆอย่างPop Punk พร้อมทั้งมีลูกเล่นจังหวะจะโคนแบบ Hardcore พร้อมทั้งการดรอปสายกีตาร์ให้ต่ำลงมานิดอย่างDrop B หรือที่เจ้าหนุ่มPaulมือกีตาร์ของวงเรียกอย่างติดตลกว่า Kind of bipolar

อัลบัมนี้เปลี่ยนแปลงผู้คุมบังเหียนอีกครั้งโดยได้ย้ายจากพ่อแว่นงานชุกJoey Sturgisมาเป็นKyle Black โดยผลงานของKyle Blackจะออกมาทางเมนสตรีมซะเป็นส่วนใหญ่และอาจจะไม่ถูกใจวัยโจ๋อย่างชุดที่ Pardon My Frenchที่Joey Sturgisทำ (สรุปผลงานสามชุดใช้โปรดิวเซอร์สามคนเลย)

แต่สิ่งที่เรียกว่าพัฒนาได้อย่างน่าชื่นชมคือสำเนียงการร้องของBertที่ชัดถ้อยชัดคำ และฟังได้เข้าใจมากขึ้น รวมไปถึงเนื้อเพลงจากปลายปากกาของเขา ที่เขียนเนื้อเพลงออกมาได้หลากหลายอารมณ์มากกว่าอัลบัมก่อนๆที่เนื้อเพลงจะออกลุยๆลูกเดียว โดยเนื้อหายังคงเป็นการต่อสู้ การใช้ชีวิต ประสปการ์ณการให้กำลังใจรวมทั้งความรู้สึกดีๆที่มีต่อแฟนๆ ที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่ายมากขึ้น

Chunk! No, Captain Chunk! เป็นอีกวงที่มีมือกีตาร์สองคนที่ฝีมือออกจะธรรมดาไปสักนิดหน่อย แต่ลายเซ็นที่Eric และ Paul ฝากไว้ ทั้งลูกริฟฟ์ติดหูและลีดกีตาร์เสียงจางๆที่ฟังดูแล้วรู้เลยว่าเป็นCN,CC! ที่ต้องชมเลยว่าคงความเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก

แม้ว่าตอนนี้กระแสEasy Coreจะยังไม่มาถึงและยังไม่ชัดเจนเท่าRockทางเลือก แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งกระแสนี้มาถึงเมื่อไหร่ Chunk! No, Captain Chunk! คือ1ในหัวหอกกระแสนี้ที่ต้องพูดถึงแน่นอนครับ