สวัสดีค่ะ สำหรับรีวิวนี้บุ๊คก้าจะมาแชร์ประสบการเดินดูโซนใหม่และหาของกินในโญนอาหารชั้นบน @EmQuartier นะคะ จริงๆ แล้วเดินดูนี่ไม่เท่าไหร่แต่หนักกินวะมากกว่า 555
จริงๆ ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโซนใหม่เปิดแล้ว เดินวนไปมาเรื่อยๆ มาเจอบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 5 อ้าว…โซนใหม่ มองขึ้นไปอลังมาก
ก็เลยโดยมนต์สะกดให้เดินตามขึ้นไปซะงั้น
ขึ้นมาถึงเรามาเจอ สวนลอยฟ้ากันที่จุดพักชั้นก่อน ด้านในก็มีร้านกาแฟ มีบ่อน้ำ และสัตว์ที่จำมาแสดงในกรง ซึ่ง ณ จุดนี้บุ๊คก้าร้อนมาก 555 ขอเลยไม่ได้เดินเล่นอะไรมากมาย ขอขึ้นไปหาของกินข้างบนต่อดีกว่า (เหตุผลที่ดูเหมือนข้ออ้างมากๆ อิอิ)
หารชั้นบนนี้ เอาจริงๆ ขอสาระภาพว่าไม่รู้ว่าจะเรียกว่าชั้นอะไรถึงชั้นอะไรดี แต่เริ่มต้นที่ชั้น 6 แน่ๆ เพราะทางเดินโซนอาหารเค้าออกแบบมาให้เดินวนเป็นก้นหอยขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็มีจุดที่เป็นบันไดเลื่อนของแต่ละชั้นอยู่ด้วย เราก็เดินวนไปเพลินๆ ดูร้านอาหารมากมายสองข้างทาง ต้องขอบอกว่าร้านเยอะมากๆเลยค่ะ ทุกร้านเปิดติดๆ กันซ้ายขวา เลือกแทบไม่ถูกเลย
ที่ชอบมาคือการออกแบบ ถ้าสังเกตจากภาพที่ถ่ายมาร้านส่วนใหญ่จะคลุมโทนสีให้ออกแนวครีมๆ น้ำตาล เทา นานๆ จะเจอสีกระโดดออกมาบ้างเป็นบางร้าน
หลังจากเดินชมครบแล้วก็ได้เวลาเลือกร้านที่จะลงหลักปักฐานกันได้แล้ว นั่นคือร้าน MISOYA RAMEN
สมาชิกของเราพร้อมแล้ว มาดูเมนูกันเลยค่ะ
นี่คือเมนูที่ทางร้านนี้ พนักงานแนะนำว่าน้ำซุปจะมีสองสูตรคือ โตเกียว กับ ฮอกไกโด แตกต่างกันตรงความเข้มข้นของน้ำซุป (จำไม่ได้เหมือนกันว่าอะไรเข้มข้นกว่ากัน 5555 ขออภัย ยังไงเรียกพนักงานถามเอาอีกทีแล้วกันนะคะ)
และอย่างแรกที่สั่งก็มาเสิร์ฟ นี้คือน้ำบ้วย ของสมาชิกในโต๊ะ บุ๊คก้าไม่ได้ลองชิมค่ะ แต่หน้าตาดูเข้มข้นมาก
ถัดมาคือปลาหมึกทอด อันนี้แอบแพงไปนะ 150 บาทแหนะ แต่อร่อยดีให้อภัย 555
ถัดมาคือ ไก่คาราเกะ 80 บาท สำหรับเมนูนี้เราว่าเอามากินกับราเมนอร่อยกว่ากินเดียวๆ นะ
และราเมนของบุ๊คก้ามาเสิร์ฟแล้วค่ะ นี่คือ มาโบเต้าหู้มิโซะ ราเม็ง (บุ๊คก้าไม่ทานผักเลยแจ้งพนักงานว่าไม่โรยต้นหอมนะคะ หน้าตาอาจดูขาดสีสันไปหน่อย) ส่วนประกอบของเมนูนี้คือน้ำซุปเข้มข้นมากๆ เหมือนมีเต้าหู้บดๆ ลงไปเป็นซุปอะไรประมาณนั้น อธิบายไม่ค่อยจะถูก กินกับไข่ลวกกำลังดี
ตัวเส้นของร้านนี้จะเป็นเส้นหนึบๆ โอ้ย เขียนรีวิวไปน้ำลายไหลไป 555 อยากกินอีก
ถัดมาเป็นของสมาชิกในโต๊ะ พี่ๆ เค้าสั่งเหมือนกัน 2 ชามเลย คือเมนู ฮอกไกโดมิโซะราเม็ง รสชาติซุปอธิบายไม่ถูกจริงๆ ต้องไปลองเอง แต่บุ๊คก้าชอบชามที่ตัวเองสั่งมามากกว่า มันเข้มข้นสุดๆ 555
พรีเซนเตอร์ของเราลงมือแล้วค่ะ อิอิ ตาหวานเชียว
สำหรับร้าน MISOYA RAMEN เช็คบิลออกมาหมดไป 1,188 บาท ถือว่าราคาแรงใช่ได้ แต่ก็นะกินบนห้างราคาก็ประมาณนี้แต่อร่อยนี้ยังไงก็ขอสู้ตาย
แต่ศึกนี้เรายังไม่หมดง่ายๆ อิ่มอาหารแล้วเราก็อยากจะต่อของหวานกันต่อ ตอนเดินผ่านร้าน FUCHEER แบบอยากกินเลยเดินกลับไป ปรากฏว่าเสียใจอย่างแรง ของหมดจ้า อดกิน
แต่ด้วยความที่อยากกินของหวานล้างปากแล้วเลยต้องหาร้านลงให้ได้ 555 สุดท้ายมาจบที่ iberry วันที่ไปของหมดเยอะเลยค่ะ เลยสั่งมาได้แค่ 2 อย่าง คือ โอริโอ้ชีสพาย (อร่อยเวอร์ อยากกินอีก)
และโทสมิคเบอร์รี่ ทั้งหมดนี้แบ่งกันกิน 3 คนล้างปากได้กำลังดี
ทั้งหมดที่เล่ามานี้หนักไปเรื่องกินมากกว่าเดินเล่น อิอิ ไว้จะไปลองร้านอื่นๆ อีก เพราะมีร้านน่าสนใจอีกมากมาย เห็นเพื่อนใน Facebook check in กันหลายร้านแล้ว น่ากินไปหมด
สำหรับวันนี้บุ๊คก้าขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาถึง ณ จุดนี้ค่ะ
Bookcamashare.com – บุ๊คก้ามาแชร์
*แก้คำผิดค่ะ
[CR] พาเดินดูโซนเปิดใหม่ห้าง EmQuartier (Quartier Water Garden และโซนร้านอาหารชั้นบน)
จริงๆ ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโซนใหม่เปิดแล้ว เดินวนไปมาเรื่อยๆ มาเจอบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 5 อ้าว…โซนใหม่ มองขึ้นไปอลังมาก
ก็เลยโดยมนต์สะกดให้เดินตามขึ้นไปซะงั้น
ขึ้นมาถึงเรามาเจอ สวนลอยฟ้ากันที่จุดพักชั้นก่อน ด้านในก็มีร้านกาแฟ มีบ่อน้ำ และสัตว์ที่จำมาแสดงในกรง ซึ่ง ณ จุดนี้บุ๊คก้าร้อนมาก 555 ขอเลยไม่ได้เดินเล่นอะไรมากมาย ขอขึ้นไปหาของกินข้างบนต่อดีกว่า (เหตุผลที่ดูเหมือนข้ออ้างมากๆ อิอิ)
หารชั้นบนนี้ เอาจริงๆ ขอสาระภาพว่าไม่รู้ว่าจะเรียกว่าชั้นอะไรถึงชั้นอะไรดี แต่เริ่มต้นที่ชั้น 6 แน่ๆ เพราะทางเดินโซนอาหารเค้าออกแบบมาให้เดินวนเป็นก้นหอยขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็มีจุดที่เป็นบันไดเลื่อนของแต่ละชั้นอยู่ด้วย เราก็เดินวนไปเพลินๆ ดูร้านอาหารมากมายสองข้างทาง ต้องขอบอกว่าร้านเยอะมากๆเลยค่ะ ทุกร้านเปิดติดๆ กันซ้ายขวา เลือกแทบไม่ถูกเลย
ที่ชอบมาคือการออกแบบ ถ้าสังเกตจากภาพที่ถ่ายมาร้านส่วนใหญ่จะคลุมโทนสีให้ออกแนวครีมๆ น้ำตาล เทา นานๆ จะเจอสีกระโดดออกมาบ้างเป็นบางร้าน
หลังจากเดินชมครบแล้วก็ได้เวลาเลือกร้านที่จะลงหลักปักฐานกันได้แล้ว นั่นคือร้าน MISOYA RAMEN
สมาชิกของเราพร้อมแล้ว มาดูเมนูกันเลยค่ะ
นี่คือเมนูที่ทางร้านนี้ พนักงานแนะนำว่าน้ำซุปจะมีสองสูตรคือ โตเกียว กับ ฮอกไกโด แตกต่างกันตรงความเข้มข้นของน้ำซุป (จำไม่ได้เหมือนกันว่าอะไรเข้มข้นกว่ากัน 5555 ขออภัย ยังไงเรียกพนักงานถามเอาอีกทีแล้วกันนะคะ)
และอย่างแรกที่สั่งก็มาเสิร์ฟ นี้คือน้ำบ้วย ของสมาชิกในโต๊ะ บุ๊คก้าไม่ได้ลองชิมค่ะ แต่หน้าตาดูเข้มข้นมาก
ถัดมาคือปลาหมึกทอด อันนี้แอบแพงไปนะ 150 บาทแหนะ แต่อร่อยดีให้อภัย 555
ถัดมาคือ ไก่คาราเกะ 80 บาท สำหรับเมนูนี้เราว่าเอามากินกับราเมนอร่อยกว่ากินเดียวๆ นะ
และราเมนของบุ๊คก้ามาเสิร์ฟแล้วค่ะ นี่คือ มาโบเต้าหู้มิโซะ ราเม็ง (บุ๊คก้าไม่ทานผักเลยแจ้งพนักงานว่าไม่โรยต้นหอมนะคะ หน้าตาอาจดูขาดสีสันไปหน่อย) ส่วนประกอบของเมนูนี้คือน้ำซุปเข้มข้นมากๆ เหมือนมีเต้าหู้บดๆ ลงไปเป็นซุปอะไรประมาณนั้น อธิบายไม่ค่อยจะถูก กินกับไข่ลวกกำลังดี
ตัวเส้นของร้านนี้จะเป็นเส้นหนึบๆ โอ้ย เขียนรีวิวไปน้ำลายไหลไป 555 อยากกินอีก
ถัดมาเป็นของสมาชิกในโต๊ะ พี่ๆ เค้าสั่งเหมือนกัน 2 ชามเลย คือเมนู ฮอกไกโดมิโซะราเม็ง รสชาติซุปอธิบายไม่ถูกจริงๆ ต้องไปลองเอง แต่บุ๊คก้าชอบชามที่ตัวเองสั่งมามากกว่า มันเข้มข้นสุดๆ 555
พรีเซนเตอร์ของเราลงมือแล้วค่ะ อิอิ ตาหวานเชียว
สำหรับร้าน MISOYA RAMEN เช็คบิลออกมาหมดไป 1,188 บาท ถือว่าราคาแรงใช่ได้ แต่ก็นะกินบนห้างราคาก็ประมาณนี้แต่อร่อยนี้ยังไงก็ขอสู้ตาย
แต่ศึกนี้เรายังไม่หมดง่ายๆ อิ่มอาหารแล้วเราก็อยากจะต่อของหวานกันต่อ ตอนเดินผ่านร้าน FUCHEER แบบอยากกินเลยเดินกลับไป ปรากฏว่าเสียใจอย่างแรง ของหมดจ้า อดกิน
แต่ด้วยความที่อยากกินของหวานล้างปากแล้วเลยต้องหาร้านลงให้ได้ 555 สุดท้ายมาจบที่ iberry วันที่ไปของหมดเยอะเลยค่ะ เลยสั่งมาได้แค่ 2 อย่าง คือ โอริโอ้ชีสพาย (อร่อยเวอร์ อยากกินอีก)
และโทสมิคเบอร์รี่ ทั้งหมดนี้แบ่งกันกิน 3 คนล้างปากได้กำลังดี
ทั้งหมดที่เล่ามานี้หนักไปเรื่องกินมากกว่าเดินเล่น อิอิ ไว้จะไปลองร้านอื่นๆ อีก เพราะมีร้านน่าสนใจอีกมากมาย เห็นเพื่อนใน Facebook check in กันหลายร้านแล้ว น่ากินไปหมด
สำหรับวันนี้บุ๊คก้าขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาถึง ณ จุดนี้ค่ะ
Bookcamashare.com – บุ๊คก้ามาแชร์
*แก้คำผิดค่ะ