สวัสดีค่ะมีเรื่องรบกวนเพื่อนๆ ค่ะ พอดีว่าถูกใจตึกแถวพระนคร 2 คูหาราคา 1x ล้านบาท มีโฉนดเรียบร้อย หลังจากพูดคุยตกลงราคากันเรียบร้อยวันนี้เราก็เลยไปวางมัดจำมา 5 แสนบาท
สัญญาที่ไปเซ็นมาวันนี้ทางผู้จะขายเป็นคนพิมพ์เตรียมไว้ให้ค่ะ (เป็นคุณลุงคุณป้า ยังอยู่อาศัยที่ตึกนี้อยู่) สัญญาเซ็นว่าเราได้มอบมัดจำให้กับคุณป้า ซึ่งคุณป้าได้รับมอบหมายให้ดูแลทุกอย่างแทนลูกๆ (ชื่อโฉนดสุดท้าย เป็นลูกๆ คุณลุงคุณป้าทั้งหมด 3 ท่าน) ทีนี้ตอนที่เราเซ็นสัญญามันไม่ได้มีหนังสือมอบอำนาจแบบทางการอย่าง ทด.21 คุณลุงคุณป้าบอกว่าแกขายมาหลายครั้ง ลูกๆก็มอบหมายให้แกดูแลไม่มีการโกงไม่การบิดพริ้ว วันโอนจิรงถึงจะมีใบมอบอำนาจแบบเป็นทางการอย่าง ทด.21 พร้อมบัตรประชาชนของลูกๆทั้ง 3 ท่านมาอีกครั้ง
1. ตรงนี้เราอยากทราบค่ะว่า สมมุตินะคะสมมุติว่า... อยู่ดีๆ วันที่นัดกันโอนเกิดมีการเบี้ยวเกิดขึ้น ไม่มาโอนให้เรา เราสามารถเรียกเงิน 5 แสนบาทนั้นคืนได้มั้ยคะ
ในสัญญาวันนี้ที่เซ็นก็จะประมาณว่า ชื่อคุณป้า .......................... ตัวแทนของ ............................. ทำการรับมัดจำ ...............................................
ส่วนอื่นๆ ของสัญญาก็ทั่วๆไปค่ะ มีกำหนดวันที่จะโอนภายในวันที่เท่าไร รับมัดจำไปเท่าไร เราต้องชำระเพิ่มอีกเท่าไร ตรงท้ายสัญญามีลายเซ็นของลูกๆทั้ง 3 ท่าน และคุณป้าซึ่งเป็นตัวแทนและเป็นผู้รับเงินมัดจำ คุณป้าเซ็นบัตรประชาชนของตนเองแนบมาด้วยว่ารับเงินเท่านี้ แต่ไม่ได้แนบสำเนาบัตรของลูกๆทั้งสามมา ส่วนเราจ่ายคุณป้าเป็นเช็ค มีให้คุณป้าเซ็นรับเช่นเดียวกันว่ารับเช็คเท่านี้มูลค่านี้เพื่อมัดจำ
แบบนี้หากมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ เราจะสามารถเรียกร้องเอาเงินคืนได้มั้ยคะ 5 แสนนั้น หรือ ไม่ได้แล้ว
2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตรงนี้ ลูกๆของคุณลุงคุณป้าได้เอาไปจำนองไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง (ซึ่งเรารู้ชื่อธนาคารแต่ดันลืมถามสาขา ไม่แน่ใจว่าควรถามมั้ยคะ) ตรงนี้เราควรต้องเช็ค หรือสามารถเช็คกับทางธนาคารได้มั้ย ว่าทรัพย์สินนี้สามารถขายและโอนให้เราได้หรือไม่ ไม่ใช่หนี้เสีย หรือ ................
และตรงนี้หากเราต้องการเช็คสามารถไปสอบถามที่สาขาไหนก็ได้มั้ยคะ หรือต้องสาขาที่จำนองเท่านั้น และใช้เอกสารอะไรบ้าง (ตรงนี้เราโทรไปถามสาขาธนาคารที่คุณลุงจำนองได้ ไม่น่าเกลียดใช่มั้ยคะ พอดีเราชอบเกรงใจ กลัวคุณลุงคุณป้าหาว่าไม่เชื่อใจ)
3. วันนี้สิ่งที่เราได้มาคือ สัญญาจะซื้อจะขายข้างต้น / สำเนาโฉนด (ชื่อเดิมเป็นคุณป้าแต่ชื่อสุดท้ายเป็นลูกๆทั้งสาม) / สำเนาบัตรคุณป้า ทั้งหมดนี้โอเคแล้วใช่มั้ยคะพอเพียงต่อการไปขอยื่นกู้ธนาคาร
4. เราควรต้องไปเช็คอะไรเพิ่มเติมมั้ยคะ เช่นเอาสำเนาโฉนดไปเช็คที่กรมที่ดิน หรือ ควรต้องดูอะไรเพิ่มเติมบ้าง
คุณลุงคุณป้าน่ารักและอัธยาศัยดีมากค่ะ เห็นบอกว่าขายมาหลายที่แล้ว ประมาณคุณลุงคุณป้าทำงานมีสมบัติพอควรแต่พอมารุ่นลูกเริ่มเป็นหนี้เป็นสินจากการขยายธุรกิจ คุณลุงคุณป้าเลยทยอยขายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อช่วยใช้หนี้ให้ลูกค่ะ เราเองก็เชื่อใจท่าน แต่พอดีกลับมาถึงบ้านมีคนทักว่าโฉนดเป็นชื่อลูก แล้วทำไมคุณป้ามารับเงินโดยไม่มีหนังสือรับมอบอำนาจแบบเป็นทางการ (ตรงนี้เราถามคุณป้า คุณป้าบอกไม่มีปัญหา หนังสือค่อยใช้วันโอน ขายมาแล้วหลายทีไม่มีปัญหา ลูกๆมอบหมายให้ป้าดูแลมาหลายทีแล้ว)
แต่พอดีเราพึ่งเคยซื้อแบบจากเจ้าของเป็นครั้งแรกค่ะ แถมติดจำนองด้วย พอมีคนทักนี่นอนไม่หลับเลย เงินเก็บก้อนแรกซะด้วย ฮ่าๆ ยังไงท่านใดมีความคิดเห็นยังไงก็ช่วยแนะนำกันทีนะคะ มือใหม่ซื้อบ้านมือสองค่ะ
อ่อ... ตอนเซ็นสัญญาเสร็จ เรานัดคุณลุงคุณป้าโอนภายในสิ้นเดือนหน้าค่ะ คุณลุงคุณป้าให้ทำเช็คออกมา 2 ใบ ใบหนึ่งให้ธนาคาร (ที่โฉนดติดจำนอง) ใบที่สองให้ชื่อคุณป้า (ไม่ใช่ชื่อลูกๆทั้งสาม) และที่เหลือนิดหน่อยให้เราถือเงินสดมา เนื่องจากคุณลุงคุณป้าจะเอาไปจัดการพวกค่าโอนต่างๆ เห็นว่าวันโอนที่กรมที่ดินคุณลุงคุณป้าต้องนัดเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรมาด้วยใช่มั้ยคะ
เราบอกคุณลุงคุณป้าเอกสารทั้งหมดที่เราได้จากท่านนี้สามารถไปยื่นกู้ธนาคารได้แล้วใช่มั้ย ท่านทำหน้าแปลกๆสักพัก ประมาณว่ากู้กสิกรหรือกรุงศรีฯ หรือเปล่า พี่เราที่ไปด้วยมันก็ดันทักเราอีกว่าทำไมลุงกะป้าทำหน้าตกใจ และถามว่ากสิกรหรือกรุงศรีฯ หรือเปล่า พี่เรามันก็มโนค่ะว่า เอ.... หรือโฉนดที่จำนองมันจะมีปัญหานู่นนี่นั่น แต่คุณลุงคุณป้าบอกว่าที่ถามเพราะไม่งั้นจะแก้ราคาให้สูงขึ้นสำหรับไปขอกู้ธนาคาร เผื่อว่าธนาคารจะประเมินวงเงินกู้ให้สูงขึ้นค่ะ เราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่บอกคุณป้าว่าไม่ต้องแก้สัญญาหรอกหนูงงละ
เล่าซะยืดยาวเลยค่ะ นอนไม่หลับเลยแวะมาเล่าก่อนนอน หวังว่าจะไม่มีอะไร และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นของชีวิตอีกช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ใครมีอะไรแนะนำได้เลยนะคะ สุดท้ายก็นอนหลับฝันดีกันค่ะ
ขอรบกวนปรึกษาเรื่องการซื้อขายบ้านที่ติดจำนองธนาคารหน่อยค่ะ วันนี้ไปวางมัดจำมาแต่นอนไม่หลับ...
สัญญาที่ไปเซ็นมาวันนี้ทางผู้จะขายเป็นคนพิมพ์เตรียมไว้ให้ค่ะ (เป็นคุณลุงคุณป้า ยังอยู่อาศัยที่ตึกนี้อยู่) สัญญาเซ็นว่าเราได้มอบมัดจำให้กับคุณป้า ซึ่งคุณป้าได้รับมอบหมายให้ดูแลทุกอย่างแทนลูกๆ (ชื่อโฉนดสุดท้าย เป็นลูกๆ คุณลุงคุณป้าทั้งหมด 3 ท่าน) ทีนี้ตอนที่เราเซ็นสัญญามันไม่ได้มีหนังสือมอบอำนาจแบบทางการอย่าง ทด.21 คุณลุงคุณป้าบอกว่าแกขายมาหลายครั้ง ลูกๆก็มอบหมายให้แกดูแลไม่มีการโกงไม่การบิดพริ้ว วันโอนจิรงถึงจะมีใบมอบอำนาจแบบเป็นทางการอย่าง ทด.21 พร้อมบัตรประชาชนของลูกๆทั้ง 3 ท่านมาอีกครั้ง
1. ตรงนี้เราอยากทราบค่ะว่า สมมุตินะคะสมมุติว่า... อยู่ดีๆ วันที่นัดกันโอนเกิดมีการเบี้ยวเกิดขึ้น ไม่มาโอนให้เรา เราสามารถเรียกเงิน 5 แสนบาทนั้นคืนได้มั้ยคะ
ในสัญญาวันนี้ที่เซ็นก็จะประมาณว่า ชื่อคุณป้า .......................... ตัวแทนของ ............................. ทำการรับมัดจำ ...............................................
ส่วนอื่นๆ ของสัญญาก็ทั่วๆไปค่ะ มีกำหนดวันที่จะโอนภายในวันที่เท่าไร รับมัดจำไปเท่าไร เราต้องชำระเพิ่มอีกเท่าไร ตรงท้ายสัญญามีลายเซ็นของลูกๆทั้ง 3 ท่าน และคุณป้าซึ่งเป็นตัวแทนและเป็นผู้รับเงินมัดจำ คุณป้าเซ็นบัตรประชาชนของตนเองแนบมาด้วยว่ารับเงินเท่านี้ แต่ไม่ได้แนบสำเนาบัตรของลูกๆทั้งสามมา ส่วนเราจ่ายคุณป้าเป็นเช็ค มีให้คุณป้าเซ็นรับเช่นเดียวกันว่ารับเช็คเท่านี้มูลค่านี้เพื่อมัดจำ
แบบนี้หากมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ เราจะสามารถเรียกร้องเอาเงินคืนได้มั้ยคะ 5 แสนนั้น หรือ ไม่ได้แล้ว
2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตรงนี้ ลูกๆของคุณลุงคุณป้าได้เอาไปจำนองไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง (ซึ่งเรารู้ชื่อธนาคารแต่ดันลืมถามสาขา ไม่แน่ใจว่าควรถามมั้ยคะ) ตรงนี้เราควรต้องเช็ค หรือสามารถเช็คกับทางธนาคารได้มั้ย ว่าทรัพย์สินนี้สามารถขายและโอนให้เราได้หรือไม่ ไม่ใช่หนี้เสีย หรือ ................
และตรงนี้หากเราต้องการเช็คสามารถไปสอบถามที่สาขาไหนก็ได้มั้ยคะ หรือต้องสาขาที่จำนองเท่านั้น และใช้เอกสารอะไรบ้าง (ตรงนี้เราโทรไปถามสาขาธนาคารที่คุณลุงจำนองได้ ไม่น่าเกลียดใช่มั้ยคะ พอดีเราชอบเกรงใจ กลัวคุณลุงคุณป้าหาว่าไม่เชื่อใจ)
3. วันนี้สิ่งที่เราได้มาคือ สัญญาจะซื้อจะขายข้างต้น / สำเนาโฉนด (ชื่อเดิมเป็นคุณป้าแต่ชื่อสุดท้ายเป็นลูกๆทั้งสาม) / สำเนาบัตรคุณป้า ทั้งหมดนี้โอเคแล้วใช่มั้ยคะพอเพียงต่อการไปขอยื่นกู้ธนาคาร
4. เราควรต้องไปเช็คอะไรเพิ่มเติมมั้ยคะ เช่นเอาสำเนาโฉนดไปเช็คที่กรมที่ดิน หรือ ควรต้องดูอะไรเพิ่มเติมบ้าง
คุณลุงคุณป้าน่ารักและอัธยาศัยดีมากค่ะ เห็นบอกว่าขายมาหลายที่แล้ว ประมาณคุณลุงคุณป้าทำงานมีสมบัติพอควรแต่พอมารุ่นลูกเริ่มเป็นหนี้เป็นสินจากการขยายธุรกิจ คุณลุงคุณป้าเลยทยอยขายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อช่วยใช้หนี้ให้ลูกค่ะ เราเองก็เชื่อใจท่าน แต่พอดีกลับมาถึงบ้านมีคนทักว่าโฉนดเป็นชื่อลูก แล้วทำไมคุณป้ามารับเงินโดยไม่มีหนังสือรับมอบอำนาจแบบเป็นทางการ (ตรงนี้เราถามคุณป้า คุณป้าบอกไม่มีปัญหา หนังสือค่อยใช้วันโอน ขายมาแล้วหลายทีไม่มีปัญหา ลูกๆมอบหมายให้ป้าดูแลมาหลายทีแล้ว)
แต่พอดีเราพึ่งเคยซื้อแบบจากเจ้าของเป็นครั้งแรกค่ะ แถมติดจำนองด้วย พอมีคนทักนี่นอนไม่หลับเลย เงินเก็บก้อนแรกซะด้วย ฮ่าๆ ยังไงท่านใดมีความคิดเห็นยังไงก็ช่วยแนะนำกันทีนะคะ มือใหม่ซื้อบ้านมือสองค่ะ
อ่อ... ตอนเซ็นสัญญาเสร็จ เรานัดคุณลุงคุณป้าโอนภายในสิ้นเดือนหน้าค่ะ คุณลุงคุณป้าให้ทำเช็คออกมา 2 ใบ ใบหนึ่งให้ธนาคาร (ที่โฉนดติดจำนอง) ใบที่สองให้ชื่อคุณป้า (ไม่ใช่ชื่อลูกๆทั้งสาม) และที่เหลือนิดหน่อยให้เราถือเงินสดมา เนื่องจากคุณลุงคุณป้าจะเอาไปจัดการพวกค่าโอนต่างๆ เห็นว่าวันโอนที่กรมที่ดินคุณลุงคุณป้าต้องนัดเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรมาด้วยใช่มั้ยคะ
เราบอกคุณลุงคุณป้าเอกสารทั้งหมดที่เราได้จากท่านนี้สามารถไปยื่นกู้ธนาคารได้แล้วใช่มั้ย ท่านทำหน้าแปลกๆสักพัก ประมาณว่ากู้กสิกรหรือกรุงศรีฯ หรือเปล่า พี่เราที่ไปด้วยมันก็ดันทักเราอีกว่าทำไมลุงกะป้าทำหน้าตกใจ และถามว่ากสิกรหรือกรุงศรีฯ หรือเปล่า พี่เรามันก็มโนค่ะว่า เอ.... หรือโฉนดที่จำนองมันจะมีปัญหานู่นนี่นั่น แต่คุณลุงคุณป้าบอกว่าที่ถามเพราะไม่งั้นจะแก้ราคาให้สูงขึ้นสำหรับไปขอกู้ธนาคาร เผื่อว่าธนาคารจะประเมินวงเงินกู้ให้สูงขึ้นค่ะ เราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่บอกคุณป้าว่าไม่ต้องแก้สัญญาหรอกหนูงงละ
เล่าซะยืดยาวเลยค่ะ นอนไม่หลับเลยแวะมาเล่าก่อนนอน หวังว่าจะไม่มีอะไร และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นของชีวิตอีกช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ใครมีอะไรแนะนำได้เลยนะคะ สุดท้ายก็นอนหลับฝันดีกันค่ะ