ญาติจะฟ้องศาลให้บังคับรื้อถอนตามสัญญาประนีประนอม

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีที่ดิน 2 แปลงติดกัน เดิมแม่เราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทั้งสองแปลง เพราะได้มาจากยาย ต่อมาแม่ได้ปลูกบ้านบนที่ดิน 2 แปลงนั้นด้วยเงินของแม่ เพื่อให้ยายมาอยู่ในบั้นปลาย แต่ใส่ชื่อเจ้าของบ้านเป็นป้า ซึ่งเป็นพี่สาวแม่ ต่อมาแม่โอนที่ดินทั้งสองแปลงให้เรา วันเวลาผ่านไป แม่กับป้าขัดแย้งกัน เรื่องที่ป้าไม่คืนเงินที่เคยลงทุนด้วยกัน แม่เลยจะให้ป้าโอนบ้านกลับมา แต่ป้าไม่ยอมโอนคืนให้ ทีนี้เราเลยยื่นฟ้องให้ป้ารื้อถอนบ้าน แต่ทนายป้าขอเจรจาทำสัญญาประนีประนอมที่ศาล จะว่าไปเราก็โง่และใจอ่อนเอง อยากให้แกมีทรัพย์สินในบั้นปลายบ้างและเราเห็นป้าไม่สบาย โดยป้าเสนอขอที่ดินแปลงนึง โดยป้าบอกว่า ที่ดินนี้ควรเป็นของป้า แต่ยายให้แม่แทน เพราะแม่จ่ายเงินรักษาป้ามาตลอด แม่เราก็ใจอ่อนด้วย แม่ก็เลยบอกว่า งั้นขอเงิน 5 แสนซึ่งเป็นเงินที่ป้าเอาไปลงทุนแล้วไม่คืน มาแลกกับที่ดินแปลงนั้น และส่วนของบ้านที่มันเกินไปที่ดินที่จะโอนให้ป้า ก็ให้เรารื้อถอนออกเมื่อครบ 5 ปีนับจากวันที่ทำสัญญาประนีประนอม ทีนี้ตอนนั้นเราก็มองว่า ส่วนที่ยื่นเกินไปยังที่ดินนั้น มันก็แค่กันสาด ซึ่งทุกคนในที่นั้นก็เข้าใจว่ามันเลยมาเฉพาะกันสาด เราจึงตกลงเซ็นสัญญาประนีประนอม ตอนนั้นเราสะเพร่า ไม่ได้ขอให้รังวัดที่ดินก่อนด้วย แต่พอครบเวลา 5 ปี ป้าขอให้เรารื้อถอนส่วนเกิน ซึ่งถ้ามาดูในแผนที่อากาศของกรมที่ดินในตอนนี้ บ้านมันอยู่แทบจะกลางที่ดินทั้ง 2 แปลงเลย ถ้ารื้อถอน บ้านพังแน่ๆ อย่างนี้เราจะสามารถขอยกเลิกสัญญาประนีประนอมที่ทำกันที่ศาลได้มั้ยคะ แล้วขอเจรจาใหม่ เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าบ้านมันอยู่เกินที่ดินแปลงนั้นไปมากขนาดนั้น ตอนนี้ป้าให้ทนายยื่น notice มาให้เรารื้อถอนแล้วน่ะค่ะ หรือมีหนทางอื่นอีกมั้ย รบกวนช่วยแนะนำให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่