ตอนนั้นเรากับเพื่อนเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ เราย้ายออกมาอยู่หอพักข้างนอก มีเบญเพื่อนสาวสมัยมัธยม จบจากลำปางมาแชร์ห้องด้วย วันนั้นเป็นวันแรกที่หวาน(เพื่อนเรียนมหาลัยของเบญมาขออยู่ด้วย เพราะมาสมัครงาน) ตอนที่หวานมา เรารู้สึกถึงบรรยากาศในห้องว่ามันเปลี่ยนไป จากห้องที่สดใสสไตล์ full house เปลี่ยนเป็นอึมครึมทึมๆยังไงบอกไม่ถูก วันนั้นออกเวรเช้า มาถึงห้องก็ประมาณห้าโมวเย็นเห็นจะได้ ก็ใช้ชีวิตตามปกติทำนู่นทำนี่ แต่ขนหัวมันลุกวาบๆอยู่บ่อยๆ ตอนนั้นยังไม่คิดอะไร เพราะ พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ( ผี95% แพ้รังสีUV )ตกค่ำดูทีวีจบ เรานอนฝอยกันตามประสาเพื่อนหญิงจนเกือบเที่ยงคืน ก็พากันนอน โดยเบญนอนคั่นกลาง หวานนอนขวา เรานอนซ้ายติดหน้าต่าง (บานกระจกสีชา+ผ้าม่าน) ผ่านไปสักพักเริ่มได้ยินเสียงเพื่อนสาวกรนเบาๆ (พองาม) ส่วนเรายังไม่หลับ รู้สึกแปลกที่มีคนมานอนเพิ่มประมาณนี้ นอนพลิกตัวไปมาแก้เมื่อย ทีนี้พลิกตัวตะแคงซ้าย ก็หันไปมองผ้าม่าน ผ้าม่านสีเหลืองค่อนข้างหนา แสงไฟส่องเข้ามาทำให้ห้องพอมีแสงสลัว แต่ต้องสะดุดเมื่อมีเงาดำลักษณะคล้ายคนทาบอยู่หลังม่าน (เห็นเป็นครึ่งตัวบนประมาณอกถึงหัว) ความรู้สึกวูบแรก โรคจิตรึเปล่านะ พอตั้งสติได้ คือห้องอยู่ชั้นสอง และมันเป็นห้องสุดท้าย เป็นผนังปูนเรียบๆ ไม่มีที่สำหรับให้คนยืนได้นี่นา ถ้าเห็นไหล่และหัวได้เนี่ย ตัวมันต้องสูงกี่เมตร? ทีนี้เริ่มเก็ท พลิกตะแคงหันหน้าไปหาเบญแล้วควานหาพระบนหัวเตียงมาคล้องคอ (เป็นคนไม่ชอบห้อยพระนอน มันเกะกะ แต่มีไว้เผื่อฉุกเฉิน จำได้ว่าเป็นเหรียญหลวงปู่แหวน ครูบาศรีวิชัย แล้วก็ตะกรุดพ่อให้มา) ห้อยพระเสร็จก็อุ่นใจ ข่มตานอน ก็หลับนะ แต่สะดุ้งตื่นตอนตี3 เห็นจะได้
___________ [ มัน ] มา กับ เพื่อน