เนื่องจากตอนนี้เรื่องของคนโรฮิงญา(หรือโรฮีนจา) กำลังเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของไทยในขณะนี้ ซึ่งสวนใหญ่ความเห็นจะเป็นไปในแง่ลบซะมากกว่า แต่ทั้งที่คนไทยวิตกกังวลกับเรื่องคนโรฮิงญามากว่าจะมาสร้างปัญหา คนไทยกับละเลยที่จะสนใจปัญหาที่เกิดจากคนที่ใกล้ตัวกว่าอย่างแขกซิกข์

พฤติกรรมของแขกซิกข์เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก คนพวกนี้เป็นคนที่เป็นเจ้ามือรายใหญ่สุดในวงการปล่อยกู้นอกระบบ คนพวกนี้เวลาปล่อยกู้ ถ้าให้กู้ 10,000 บาท จะให้แค่ 9,000 บาท และถึงจะผ่อนไปมากแค่ไหน พวกนี้ก็ยังคิดดอกเบี้ยที่ 10,000 บาท นอกจากนี้พวกนี้ถึงขนาดไม่ซื้อบ้านหรือใช้นอมินีแทนเพื่อจะได้ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน เพื่อจะได้ไม่เสียภาษี โดยถ้าเราไปที่ธนาคารจะสังเกตเห็นแขกซิกข์นั่งอยู่ตลอด พวกนี้ค่อยถอน-โอนอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้ไม่มีเงินในบัญชี เพื่อไม่ ห้ตรวจสอบร่องรอยทางการเงินได้ นอกจากนี้พวกนี้ยังสยายปีกครอบงำธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงิน การประกันภัย โรงแรม ยกตัวอย่างเช่น มิตรแท้ประกันภัยเจ้าของก็เป็นแขกซิกข์ โรงแรมดังๆไม่ว่จะเป็นโอเรียนเต็ล ,โฟร์ซีซัน,ฮอล์ลิเดย์อินตอนนี้กลายเป็นของแขกซิกข์หมดแล้ว นอกจากนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆล้วนมีแขกซิกข์อยู่เบื้องหลังทั้งนั้น

นอกจากนี้พวกนี้ยังทำการฟอกเงินโดยใช้ธุรกิจอย่างร้านขายผ้าเป็นฉากบังหน้า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อก่อนมีร้านขายผ้าชื่อ the majesty ซึ่งตอนแรกได้เปิดชั้นบนเป็นโรงแรม ต่อมาก็สร้างตึกสูงเลย คำถามคือเอาเงินมาจากไหน นอกนี้ยังมีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความคดโกงของแขกซิกข์ เช่น เอากีตาร์ถูกๆมาปล่อยให้คนซื้อ แล้วมาเก็บเงินวันละ10บาท ผ่อนมา3-4ปีก็ยังไม่หมด ยังไม่รวมถึงการเอาที่สนามกอล์ฟโหลๆมาปั่นราคาในหมู่ญาติตัวเอง จนราคาพุ่งสูง แล้วนำไปจำนำกับธนาคารตัวเอง ท้ายที่สุดความเสียหายก็ไปอยู่ที่บริษัทประกันที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ในเมืองไทยมีคนหลายชาติหลายภาษาที่เข้ามาประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งคนเหล่านั้นได้สร้างคุณูปการมากมายให้กับเมืองไทย แต่แขกซิกข์ดีแต่กอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองและขนออกนอกประเทศ

คนไทยมักพูดว่าคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้จะยึดประเทศ แต่กลับปล่อยปละละเลยปัญหาที่แท้จริง คงต้องให้เรื่องแดงก่อนกระมังถึงค่อยรู้ตัว