ทำไมคนถึงกลัวผี หรือสิ่งลี้ลับหรอคะ?

กระทู้คำถาม
เป็นเรื่องที่สงสัยมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ คุณยายรึคนรุ่นก่อนจะชอบเล่าให้ฟังให้ดูน่ากลัวเสมอ ว่าผีสามารถเสกให้เราหายไปในความมิดได้ แต่ทำไมล่ะทำไมเราต้องกลัวกัน? เราคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและค้นหามากกว่านะคะ หากสิ่งลี้ลับ ปีศาจ ผีมีจริง นี่ต้องเป็นการค้นพบครั้งสำคัญของโลกแน่ๆค่ะ สิ่งเหล่านี้เป็นระดับ Supernatural being เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหลงไหลมากๆเลยนะคะ ทำไมคนถึงกลัวกันล่ะ เราตีความว่าผี ปีศาจ สิ่งลี้ลับต่างๆเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะว่าพวกเขาสามารถนึกคิดได้ มีสัญชาตญาณที่จะทำร้ายสิ่งอื่นซึ่งสิ่งไม่มีชีวิตทำไม่ได้

ถ้าเราสามารถจับผี หรือปีศาจได้ละก็ เผ่าพันธ์ุมนุษย์ต้องก้าวไปอีกขั้นแน่ๆค่ะ ผีสามารถหายตัวได้ คิดจะมาก็มาจะไปก็ไป มันคือการ Warp ชัดๆ หากไม่ใช่การวาป อาจจะเป็นการเข้าไปยังโลกอีกมิติ (ที่เขาเรียกกันว่านรก) นี่มันน่าสนใจสุดๆเลยนะคะ เพราะถ้าเราเข้าใจการหายตัวของผีได้ ก็จะสามารถคิดค้นระบบ Warp ให้กับยานอวกาศได้ แล้วทำไมเราถึงต้องกลัวละคะ? เราต้องไล่ล่าพวกเขาตังหาก

ในกรณีต่อไปคือสิ่งดลบันดาล นี่ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีกเลยค่ะ สามารถดลบันดาลอนาคตได้ ว่าจะให้เราเป็นไปในทางที่ดีรึร้าย หากพิสูจน์ได้ละก็ เราก็จะพิสูจน์ได้ว่ามีมิติที่ 5 อยู่จริงๆ และสิ่งดลบันดาลเหล่านี้อยู่เหนือกฏของกาลเวลาแล้ว เพราะสามารถควบคุมอนาคตเราได้ บางชนิดยิ่งน่าสนใจยิ่งกว่าคือสามารถเสกสิ่งต่างๆได้เลย เช่น เสกหนังควายเข้าท้อง ตะปูในไข่(แม้จะรู้ว่าเป็นทริคในภายหลัง) หากทำเช่นนั้นได้ก็แปลว่า "พลังงานมืด" ชนิดนี้น่าสนใจสุดๆไปเลยค่ะ ที่สามารถรวมอะตอม และพลังงานรอบๆมาสร้างเป็นสสารได้ หากเราจับสิ่งดลบันดาลได้ละก็ พวกเราก็จะอยู่เหนือธรรมชาติอีกนะคะ แล้วพลังงานบนโลกก็จะไม่มีวันหมด เพราะถูกพลังของสิ่งดลบันดาลดึงไว้ไม่ให้หลุดออกไปจากโลก เป็นพลังงานหมุนวนที่ไม่จำกัด งั้นเราจะมัวแต่ขอทำไมละคะ? ในเมื่อหากเราจับพวกเขาได้ เราจะสร้างทุกสิ่งด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องขออีก

ต่อไปคือ ปีศาจ เป็น UMAs Supernatural being ที่น่าสนใจมากๆเลยค่ะ มีเรื่องเล่าว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้เป็นพันๆปี นี่มันน่าหลงไหลสุดๆเลยนะคะ ร่างกายพวกเขาทำได้ยังไงที่เก็บรักษาเซลล์ได้ขนาดนั้น มีการสร้างเซลล์มาทดแทนเท่ากับจำนวนที่สูญเสียไปเลยรึเปล่า? แบบนี้ละก็หากเราจับปีศาจได้ มนุษย์ก็มีโอกาศที่จะสร้างยาอายุวัฒนะแล้วนะคะ หากเราสามารถดัดแปลงพันธุกรรมให้สร้างเซลล์ได้เท่ากับที่เสียไปโดยวิจัยจากปีศาจละก็มันน่าตื่นเต้นมากๆ

ต่อไปก็คือ สวรรค์ และนรกค่ะ สถานที่สองแห่งนี้มันยิ่งกว่าความน่าหลงไหลอีกค่ะ มันคือความรักที่จะสนใจชัดๆ เริ่มแรกก็คือสวรรค์ ว่ากันว่ามันมี 7~ ชั้น ไม่ว่าชาติไหนๆก็มีตำนานเกี่ยวกับสวรรค์ทั้งนั้น ก็หมายความว่ามันยังมีความเป็นไปได้ที่สวรรค์จะมีอยู่จริง แล้วอะไรล่ะที่ขวางกันโลกเรากับสวรรค์ ทำไมเราไม่ค้นพบสวรรค์แม้ว่าจะบินไปจนทะลุอวกาศ คำตอบที่อาจจะเป็นไปได้คือ "มิติ" สวรรค์อยู่ไหนมิติที่ 4 แน่ๆค่ะ เพราะช่วงเวลานั้นไม่มีผลกับสวรรค์เลย เทวดาไม่มีวันแก่ ก็แปลว่าหากไปที่สวรรค์หรือศึกษาความลับของสวรรค์ได้ละก็ เราอาจจะสร้างสิ่งแวดล้อมจำลองที่มีโครงสร้างเหมือนกับสวรรค์ คืออยู่นอกเหนือเวลานั่นก็แปลว่า เราจะเป็นอมตะ!

และสุดท้ายคือนรก ทำไมถึงกลัวที่จะไปนรกกันล่ะ? เราสนใจสุดๆเลยค่ะไม่ว่าจะไปนรกรึสวรรค์ ว่ากันว่านรกมันร้อนมากๆ แต่ไม่บอกว่าทำไมถึงร้อน อะไรเป็นตัวให้ความร้อนกับนรกกัน? แล้วความร้อนที่อยู่นานนับล้านๆๆๆๆๆ หรืออาจจะอนันต์ปี มันคืออะไร? แล้วมีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน? หากเราหลุดไปในมิติของนรก ก็แปลว่าเรากลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งน่ะสิ? เพราะไม่ว่าจะโดนยมทูตแทงตายก็ครั้งก็จะฟื้นกลับมาโดนแทงได้อีกกี่รอบก็ได้ นั่นแปลว่า ยมทูตกุมความลับของชีวิตอยู่ค่ะ สิ่งมีชีวิตเมื่อตายแล้วจะไม่สามารถฟื้นคืนได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม ต่อให้ทำยังไงก็ไม่ฟื้น แต่นรกสามารถทำได้... ก็แปลว่าพวกเขารู้กุญแจที่จะทำให้โปรตีน สสารต่างๆขับเคลื่อนได้อย่างอัตโตมัติและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอีกครั้ง กุญแจนั้นคืออะไร? มันต้องเป็นอะตอมหรือสสารมืดแน่ๆค่ะ ถ้าหากเรารู้ว่ามันคืออะไรละก็ คำว่าพระเจ้า ก็ไม่อยู่ไหนไกลแล้วค่ะ!

พูดๆตรงๆก็คือทำไมต้องห้ามการเรียนรู้ ห้ามสงสัยด้วยความกลัวคะ? ความกลัวจะไม่สามารถทำให้เราพัฒนาได้ มีแต่วิ่งถอยหลัง หรือไม่ก็พัฒนาสิ่งที่รองรับความกลัวหรือบรรเทาอาการกลัวได้ เช่น สำนัก...รูปจานบินบางแห่ง ทำไมไม่กล้าที่จะเปิดความกล้าแล้วลองมองสิ่งเหล่านั้นดูคะ? ถ้ามัวแต่กลัวก็จะไม่รู้ว่าสิ่งๆนั้นคืออะไร ก็เหมือนความมืด มันมืด แต่เราก็กลัวเพราะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ แต่ถ้าเรารู้ว่ามันมีลูกแมวน่ารักอยู่ล่ะ? มันก็จะไม่น่ากลัวอีก เพราะงั้นเราว่าการปลูกฝังความกลัวในสังคมรั้งแต่จะสร้างความถดถอยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่