เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีบูธรับสมัครเครดิต (ซึ่งไม่ใช่ของธนาคารโดยตรง) มาตั้งอยู่ที่ใต้ตึกที่ทำงาน
พนักงานก็มาแนะนำให้ลองสมัครไปสัก 2-3 ที่ ซึ่งเราก็ได้ตกลงใจที่จะสมัครโดยการเซ็นต์ App
และให้เอกสารข้อมูลที่จำเป็น ส่วนรายละเอียดการกรอก App นั้น พนักงานแจ้งว่าจะกรอกให้ เราก็ไม่ได้
คิดอะไรจนต่อมาก็มีบัตรส่งมาให้ที่บ้านทั้งหมด 3 แบงก์ หนึ่งในนั้นมีแบงก์สีเหลืองส่งมาด้วย
หลังจากนั้นพนักงานที่แนะนำให้สมัครบัตรก็ติดต่อมาให้เปิดบัตรเพื่อที่เขาจะได้ค่าเปิดบัตร
เราก็นะช่วยๆกันอยากให้เขาได้เงินและก็ไม่มีอะไรเสียหาย หลังจากนั้นเราก็นำบัตรแบงก์สีเหลืองไปรูดซื้อสินค้า (แอร์)
เพราะเพิ่งซื้อคอนโดมาเงินเดือนก็ไม่ได้มากมายจะให้ซื้อเงินสดก็ไม่ไหวเลยเลือกที่จะผ่อนกับบัตรเครดิตดีกว่า
เรื่องมันเหมือนไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นานมีเจ้าหน้าที่จากแบงก์สีเหลืองติดต่อเข้ามาด้วยคำพูดที่ว่า
คุณปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับฐานเงินเดือน อ้าวเราก็เถียงสิว่าไม่ได้ทำแต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
กล่าวหาอย่างเดียวว่าเราทำและบังคับต้องให้ปิดบัตรเครดิต เราก็อ้าว ตูไม่ได้ทำนี่หว่าและเพิ่งผ่อนแอร์ไป
จะเอาเงินที่ไหนมาปิดบัตรฟร่ะ สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นก็คือต้องแจ้งความ ก็รีบลาหัวหน้าออกไปแจ้งความทันที
และแฟกซ์เอกสารไปยังเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อเข้ามา ประมาณว่าตูไม่เกี่ยว คุณต้องไปตรวจสอบพนักงานของคุณ
หรือพนักงานที่ส่งเอกสารให้กับทางคุณว่าเขามีการปลอมแปลงหรือไม่ หลังจากนั้นเรื่องราวก็เงียบไปและไม่ได้
รับการติดต่อใดจากทางเจ้าหน้าที่ของแบงก์สีเหลือนี้อีกเลย
แต่ 3 ปีต่อมามีเหตุให้เราต้องไปสมัครเครดิตอีกครั้ง (ครั้งนี้เหมือนเป็นการช่วยยอดพี่ที่อยู่ในแบงก์ด้านล่างของที่ทำงานที่ใหม่)
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งแรกผลของการอนุมัติออกมาเป็น Reject จริงๆแล้วทางเจ้าหน้าที่แบงก์จะไม่สามารถแจ้งกับลูกค้า
ได้ว่าเนื่องจากสาเหตุใดแต่ด้วยความที่พี่เขากับเรามาจากจังหวัดเดียวกันพี่เขาก็เลยมาแอบกระซิบว่าเคยไปปลอมแปลง
เอกสารอะไรหรือเปล่าทำให้เรื่องไม่ผ่าน เราก็อ้าวเรื่องมันไม่จบอย่างที่เราคิดนี่หว่าเจ้าหน้าที่แบงก์สีเหลืองที่เราเข้าใจว่า
เงียบไปกลับนำเอาข้อมูลของเราไปลงประวัติแบบนี้ เรารู้สึกว่าเราโคตรเสียหายเลย เราจึงขอคำแนะนำจากพี่เขาว่า
ควรจะทำอย่างไรพี่เขาแนะนำให้ติดต่อกับทางแบงก์สีเหลืองที่เราปัญหาเพื่อที่จะให้เขาลบประวัติเราออก
(เราได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่เขาฟัง) ซึ่งเราก็รีบติดต่อทางแบงก์สีเหลือง ตอนแรกติดต่อทุกช่องทางแต่ทาง Call Center
ของแบงก์นี้ก็ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรเราได้เลยบอกแต่ว่าประวัติเราดีเพราะเราจ่ายตรงมาตลอด
เราก็ไม่รู้จะติดต่อทางแบงก์ยังไง เราเลยลองเปิดเข้าไปในเว็บของแบงก์นั้นแล้วไปเข้าหัวข้อของการร้องเรียน
และรอการติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่แบงก์ ซึ่งระหว่างรอเราก็พยายามที่จะติดต่อหรือขอข้อมูลไปยังองค์กรต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเครดิตบูโร ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ที่กล่าวมาก็ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆกับเราได้นอกจากจะ
รอแบงก์สีเหลืองที่ว่านี้เท่านั้น จนเวลาผ่านไป 3-4 วัน มีเจ้าหน้าที่จากแบงก์สีเหลืองติดต่อกลับมาหาเรา
เราก็เริ่มเรื่องเล่าปัญหาให้เขาฟังพร้อมส่งเอกสาร ใบแจ้งความ สลิปเงินเดือน
(ที่เป็นของ 3 ปีที่แล้ว โชคดีมากที่เราเป็นคนเก็บข้อมูลทุกอย่าง) ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะติดต่อกลับมาและ
จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย (หมายถึงเราและพนักงานที่ส่ง App เราเข้าไปวันนั้น) หลังจากนั้นไม่ถึงวันเจ้าหน้าที่ก็ติด
ต่อกลับมาแจ้งว่าเขาไปตรวจสอบ App แล้ว ลายมือเกือบจะเหมือนกันถ้าไม่ใช่ผู้ชำนาญทางด้านนี้จะไม่สามารถแยกออกได้
(อันนี้เขาแจ้งเราแบบนี้นะ) เราก็สอบถามกลับประมาณว่าแล้วจะให้เราทำยังไงเพื่อลบประวัติตรงนี้ออกไป
เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้เราปิดบัตร (ตอนนั้นเรายังสามารถใช้บัตรได้ตามปกติ) เราก็โอเค เราจะยอมปิดบัตรให้คุณแต่คุณละ
จะมีหลักฐานอะไรให้เราเชื่อมั่นว่าคุณได้ดำเนินการในการลบประวัติแล้วจริง คำตอบที่เราได้รับจากเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็คือ
คุณต้องเชื่อใจผม เราก็อ้าว แต่ก็ยอมทำตามนะเรื่องราวมันจะได้จบๆไป เราก็ไม่ได้อยากจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ก็ยอมปิดบัตรไปตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เรื่องราวมันควรจบ แต่มันกลับไม่จบตรงที่ว่าเหตุผลในการปิดบัตรที่ทาง
แบงก์สีเหลืองจากฝ่ายตรวจสอบการทุจริตส่งมาให้เรา เหตุผลที่ปิดบัตรเราก็คือเราไม่ได้ติดต่อกลับทางแบงก์
เพราะแบงก์มีการขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากทางเรา เราก็อ้าวทำไมให้เหตุผลแบบนี้วะ มันไม่ใช่ละ
เราก็เลยโทรไปคุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนั้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่ามันเป็นการออกจดหมายแบบกลางๆ
ของทางแบงก์อยู่แล้ว ซึ่งเหตุผลนี้เราไม่เคลียร์เลยหลักฐานก็ลบประวัติก็ไม่ให้ แถมยังส่งจดหมายแบบนี้มาให้เราอีก
เราเลยต่อว่าเจ้าหน้าที่ท่านนั้นไปหลายอย่าง และไม่มั่นใจเลยว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการยกเลิกประวัติเราให้
ซึ่งมันก็เป็นจริงเพราะหลังจากนั้นเราลองไปยื่นทำบัตรเครดิตกับแบงก์อื่น ผลอนุมัติเพิ่งออกมาวันนี้แล้วว่า Reject
เนื่องจากการปลอมแปลงเอกสาร (เรามีเพื่อนอยู่ในแบงก์นี้เลยให้ลองเช็คเหตุผลการ Reject ดู) ซึ่งมันเป็นอย่างที่
เราคิดไว้เลยว่าทางเจ้าหน้าที่ที่ของแบงก์สีเหลืองไม่ได้ดำเนินการลบประวัติให้เราเลย ซึ่งเราควรทำอย่างไรดีคะ
ตอนนี้รู้สึกเหมือนคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วต้องมาโดนกระทำแบบนี้
หากใครรู้ว่าสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง รบกวนตอบกระทู้นี้ด้วยนะคะ
ปล.การพิมพ์ของเราอาจจะอ่านยากสักนิดนึงเนื่องจากเป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก
ก็ต้องขออภัยทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้ที่จะเข้ามาแนะนำข้อมูลหรือวิธีดีๆให้กับเราคะ
เรามืดแปดด้านแล้ว กลัวว่าอนาคตคงจะทำธุรกรรมอะไรไม่ได้อีกเลย
และเราอยากมีคำถามคะว่าทำไมทางแบงก์ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนคะว่าการปลอมแปลงเอกสารนั้นเกิดจากฝ่ายใด
ก่อนที่จะนำข้อมูลเราไปลงประวัติแบบนั้น
โดนแบงก์สีเหลืองกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารและมีประวัติเรื่องนี้กับแบงก์อื่นๆด้วยควรทำอย่างไรดีคะ
พนักงานก็มาแนะนำให้ลองสมัครไปสัก 2-3 ที่ ซึ่งเราก็ได้ตกลงใจที่จะสมัครโดยการเซ็นต์ App
และให้เอกสารข้อมูลที่จำเป็น ส่วนรายละเอียดการกรอก App นั้น พนักงานแจ้งว่าจะกรอกให้ เราก็ไม่ได้
คิดอะไรจนต่อมาก็มีบัตรส่งมาให้ที่บ้านทั้งหมด 3 แบงก์ หนึ่งในนั้นมีแบงก์สีเหลืองส่งมาด้วย
หลังจากนั้นพนักงานที่แนะนำให้สมัครบัตรก็ติดต่อมาให้เปิดบัตรเพื่อที่เขาจะได้ค่าเปิดบัตร
เราก็นะช่วยๆกันอยากให้เขาได้เงินและก็ไม่มีอะไรเสียหาย หลังจากนั้นเราก็นำบัตรแบงก์สีเหลืองไปรูดซื้อสินค้า (แอร์)
เพราะเพิ่งซื้อคอนโดมาเงินเดือนก็ไม่ได้มากมายจะให้ซื้อเงินสดก็ไม่ไหวเลยเลือกที่จะผ่อนกับบัตรเครดิตดีกว่า
เรื่องมันเหมือนไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นานมีเจ้าหน้าที่จากแบงก์สีเหลืองติดต่อเข้ามาด้วยคำพูดที่ว่า
คุณปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับฐานเงินเดือน อ้าวเราก็เถียงสิว่าไม่ได้ทำแต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
กล่าวหาอย่างเดียวว่าเราทำและบังคับต้องให้ปิดบัตรเครดิต เราก็อ้าว ตูไม่ได้ทำนี่หว่าและเพิ่งผ่อนแอร์ไป
จะเอาเงินที่ไหนมาปิดบัตรฟร่ะ สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นก็คือต้องแจ้งความ ก็รีบลาหัวหน้าออกไปแจ้งความทันที
และแฟกซ์เอกสารไปยังเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อเข้ามา ประมาณว่าตูไม่เกี่ยว คุณต้องไปตรวจสอบพนักงานของคุณ
หรือพนักงานที่ส่งเอกสารให้กับทางคุณว่าเขามีการปลอมแปลงหรือไม่ หลังจากนั้นเรื่องราวก็เงียบไปและไม่ได้
รับการติดต่อใดจากทางเจ้าหน้าที่ของแบงก์สีเหลือนี้อีกเลย
แต่ 3 ปีต่อมามีเหตุให้เราต้องไปสมัครเครดิตอีกครั้ง (ครั้งนี้เหมือนเป็นการช่วยยอดพี่ที่อยู่ในแบงก์ด้านล่างของที่ทำงานที่ใหม่)
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งแรกผลของการอนุมัติออกมาเป็น Reject จริงๆแล้วทางเจ้าหน้าที่แบงก์จะไม่สามารถแจ้งกับลูกค้า
ได้ว่าเนื่องจากสาเหตุใดแต่ด้วยความที่พี่เขากับเรามาจากจังหวัดเดียวกันพี่เขาก็เลยมาแอบกระซิบว่าเคยไปปลอมแปลง
เอกสารอะไรหรือเปล่าทำให้เรื่องไม่ผ่าน เราก็อ้าวเรื่องมันไม่จบอย่างที่เราคิดนี่หว่าเจ้าหน้าที่แบงก์สีเหลืองที่เราเข้าใจว่า
เงียบไปกลับนำเอาข้อมูลของเราไปลงประวัติแบบนี้ เรารู้สึกว่าเราโคตรเสียหายเลย เราจึงขอคำแนะนำจากพี่เขาว่า
ควรจะทำอย่างไรพี่เขาแนะนำให้ติดต่อกับทางแบงก์สีเหลืองที่เราปัญหาเพื่อที่จะให้เขาลบประวัติเราออก
(เราได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่เขาฟัง) ซึ่งเราก็รีบติดต่อทางแบงก์สีเหลือง ตอนแรกติดต่อทุกช่องทางแต่ทาง Call Center
ของแบงก์นี้ก็ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรเราได้เลยบอกแต่ว่าประวัติเราดีเพราะเราจ่ายตรงมาตลอด
เราก็ไม่รู้จะติดต่อทางแบงก์ยังไง เราเลยลองเปิดเข้าไปในเว็บของแบงก์นั้นแล้วไปเข้าหัวข้อของการร้องเรียน
และรอการติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่แบงก์ ซึ่งระหว่างรอเราก็พยายามที่จะติดต่อหรือขอข้อมูลไปยังองค์กรต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเครดิตบูโร ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ที่กล่าวมาก็ไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆกับเราได้นอกจากจะ
รอแบงก์สีเหลืองที่ว่านี้เท่านั้น จนเวลาผ่านไป 3-4 วัน มีเจ้าหน้าที่จากแบงก์สีเหลืองติดต่อกลับมาหาเรา
เราก็เริ่มเรื่องเล่าปัญหาให้เขาฟังพร้อมส่งเอกสาร ใบแจ้งความ สลิปเงินเดือน
(ที่เป็นของ 3 ปีที่แล้ว โชคดีมากที่เราเป็นคนเก็บข้อมูลทุกอย่าง) ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะติดต่อกลับมาและ
จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย (หมายถึงเราและพนักงานที่ส่ง App เราเข้าไปวันนั้น) หลังจากนั้นไม่ถึงวันเจ้าหน้าที่ก็ติด
ต่อกลับมาแจ้งว่าเขาไปตรวจสอบ App แล้ว ลายมือเกือบจะเหมือนกันถ้าไม่ใช่ผู้ชำนาญทางด้านนี้จะไม่สามารถแยกออกได้
(อันนี้เขาแจ้งเราแบบนี้นะ) เราก็สอบถามกลับประมาณว่าแล้วจะให้เราทำยังไงเพื่อลบประวัติตรงนี้ออกไป
เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้เราปิดบัตร (ตอนนั้นเรายังสามารถใช้บัตรได้ตามปกติ) เราก็โอเค เราจะยอมปิดบัตรให้คุณแต่คุณละ
จะมีหลักฐานอะไรให้เราเชื่อมั่นว่าคุณได้ดำเนินการในการลบประวัติแล้วจริง คำตอบที่เราได้รับจากเจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็คือ
คุณต้องเชื่อใจผม เราก็อ้าว แต่ก็ยอมทำตามนะเรื่องราวมันจะได้จบๆไป เราก็ไม่ได้อยากจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ก็ยอมปิดบัตรไปตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เรื่องราวมันควรจบ แต่มันกลับไม่จบตรงที่ว่าเหตุผลในการปิดบัตรที่ทาง
แบงก์สีเหลืองจากฝ่ายตรวจสอบการทุจริตส่งมาให้เรา เหตุผลที่ปิดบัตรเราก็คือเราไม่ได้ติดต่อกลับทางแบงก์
เพราะแบงก์มีการขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากทางเรา เราก็อ้าวทำไมให้เหตุผลแบบนี้วะ มันไม่ใช่ละ
เราก็เลยโทรไปคุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนั้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่ามันเป็นการออกจดหมายแบบกลางๆ
ของทางแบงก์อยู่แล้ว ซึ่งเหตุผลนี้เราไม่เคลียร์เลยหลักฐานก็ลบประวัติก็ไม่ให้ แถมยังส่งจดหมายแบบนี้มาให้เราอีก
เราเลยต่อว่าเจ้าหน้าที่ท่านนั้นไปหลายอย่าง และไม่มั่นใจเลยว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการยกเลิกประวัติเราให้
ซึ่งมันก็เป็นจริงเพราะหลังจากนั้นเราลองไปยื่นทำบัตรเครดิตกับแบงก์อื่น ผลอนุมัติเพิ่งออกมาวันนี้แล้วว่า Reject
เนื่องจากการปลอมแปลงเอกสาร (เรามีเพื่อนอยู่ในแบงก์นี้เลยให้ลองเช็คเหตุผลการ Reject ดู) ซึ่งมันเป็นอย่างที่
เราคิดไว้เลยว่าทางเจ้าหน้าที่ที่ของแบงก์สีเหลืองไม่ได้ดำเนินการลบประวัติให้เราเลย ซึ่งเราควรทำอย่างไรดีคะ
ตอนนี้รู้สึกเหมือนคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วต้องมาโดนกระทำแบบนี้
หากใครรู้ว่าสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง รบกวนตอบกระทู้นี้ด้วยนะคะ
ปล.การพิมพ์ของเราอาจจะอ่านยากสักนิดนึงเนื่องจากเป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก
ก็ต้องขออภัยทุกคนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้ที่จะเข้ามาแนะนำข้อมูลหรือวิธีดีๆให้กับเราคะ
เรามืดแปดด้านแล้ว กลัวว่าอนาคตคงจะทำธุรกรรมอะไรไม่ได้อีกเลย
และเราอยากมีคำถามคะว่าทำไมทางแบงก์ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนคะว่าการปลอมแปลงเอกสารนั้นเกิดจากฝ่ายใด
ก่อนที่จะนำข้อมูลเราไปลงประวัติแบบนั้น