คือเราลาออกมาเพื่อหางานใหม่ได้เดือนกว่าๆแล้ว เดิมทำงานเซลล์มาตลอด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว(วันพฤหัส)ได้งานเลขา ใกล้บ้านด้วย เป็นบริษัทที่เคยติดต่องานด้วยถึง 2 ครั้งจาก 2 ที่ทำงานเก่า มีความสัมพันธ์กันนิดหน่อย เข้าใจธุรกิจดี แต่ความที่เดิมนายมีเลขา 3 คน แล้วลดเหลือ 2 ล่าสุดคนที่เป็นเลขาทางฝั่งงานส่วนตัวลาออกกระทันหัน ทางนั้นจึงหาคนด่วน และขอคำตอบเราวันศุกร์เพราะเลขาเก่าจะว่างมาส่งมอบงานวันนั้นเท่านั้น เราที่ว่างงานมา ได้งานที่เงินดีกว่าเดิม แถมยังเป็นงานที่ง่ายกว่า(เพียงแค่รายละเอียดจุกจิก) ใกล้บ้าน ไม่ต้องแต่งตัวจัดแบบงานเซลล์ พูดได้ว่า comfort zoneเลยค่ะ
แต่สุดท้ายวันนี้ได้รับการเสนองานอสังหาแนวเดิมกับที่ทำ เป็นงานระดับผู้จัดการ (ไม่ใช่ผจก.เพียงแค่หัวโขนอย่างที่ผ่านๆมา คือเซลล์ตน.ไหนก็งานเหมือนกันหมด) ทีนี้ด้วยเงินที่เยอะกว่าเลขาอีก และตัวงาน/องค์กรก็น่าร่วมงานกว่ามาก แม้ยังคุยกันไม่จบเรื่องแพคเกจและขอบเขตงาน ใจเราก็อยากจะเสี่ยงกับงานอสังหานี้มากกว่า
คิดจนนาทีสุดท้าย พรุ่งนี้เป็นวันที่นัดขอเริ่มงานในงานเลขา(จริงๆเค้าอยากให้เริ่มเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำแต่เราขอไว้) สุดท้ายเราตัดสินใจที่จะทิ้งไพ่ใบ comfort zone เพื่อเดิมพันกับไพ่ที่มีในมือโดยที่เราไม่รู้ว่าจะโดนเจ้ากินรึเปล่า(แต่ดอกไพ่เราก็สูงอยู่น่า) อีเมลไปปฏิเสธงานตอนเที่ยงคืน และว่าจะโทรไปขอโทษตอนเช้า
นี่พูดเลยว่าเครียดมาก ทั้งเรื่องอนาคตความมั่นคงและความเกรงใจที่ตัดสินใจกระทันหันแบบนี้ แต่คิดว่าดีกว่าเราทำๆไปสัก 2 สัปดาห์(หรืออาจจะวันเดียวด้วยซ้ำ)แล้วเจอ better offer ลาออกไป ทางบริษัทนั้นจะยิ่งต้องเสียเวลาหาคนอีก บอกตอนนี้หวังว่าคงไม่สายไปนะ
แต่เพราะช่วงนี้ทำงานfreelance เอเจ้นอยู่ด้วยเลยต้องการความอิสระ และยังคงมีโทรนัดสัมภาษณ์งานเราเรื่อยๆทุกวัน จึงชั่งน้ำหนักแล้ววัดใจมาหางานใหม่ เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ปฏิเสธงานหลังตกปากรับคำแล้ว แถมในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้อีกด้วยซ้ำ รู้สึกผิดมากกกกกก ไม่รู้จะเล่าให้ใครเลยมาแชร์ให้ฟัง TT^TT
เพิ่งปฏิเสธงาน ก่อนที่จะเริ่มงานวันพรุ่งนี้
แต่สุดท้ายวันนี้ได้รับการเสนองานอสังหาแนวเดิมกับที่ทำ เป็นงานระดับผู้จัดการ (ไม่ใช่ผจก.เพียงแค่หัวโขนอย่างที่ผ่านๆมา คือเซลล์ตน.ไหนก็งานเหมือนกันหมด) ทีนี้ด้วยเงินที่เยอะกว่าเลขาอีก และตัวงาน/องค์กรก็น่าร่วมงานกว่ามาก แม้ยังคุยกันไม่จบเรื่องแพคเกจและขอบเขตงาน ใจเราก็อยากจะเสี่ยงกับงานอสังหานี้มากกว่า
คิดจนนาทีสุดท้าย พรุ่งนี้เป็นวันที่นัดขอเริ่มงานในงานเลขา(จริงๆเค้าอยากให้เริ่มเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำแต่เราขอไว้) สุดท้ายเราตัดสินใจที่จะทิ้งไพ่ใบ comfort zone เพื่อเดิมพันกับไพ่ที่มีในมือโดยที่เราไม่รู้ว่าจะโดนเจ้ากินรึเปล่า(แต่ดอกไพ่เราก็สูงอยู่น่า) อีเมลไปปฏิเสธงานตอนเที่ยงคืน และว่าจะโทรไปขอโทษตอนเช้า
นี่พูดเลยว่าเครียดมาก ทั้งเรื่องอนาคตความมั่นคงและความเกรงใจที่ตัดสินใจกระทันหันแบบนี้ แต่คิดว่าดีกว่าเราทำๆไปสัก 2 สัปดาห์(หรืออาจจะวันเดียวด้วยซ้ำ)แล้วเจอ better offer ลาออกไป ทางบริษัทนั้นจะยิ่งต้องเสียเวลาหาคนอีก บอกตอนนี้หวังว่าคงไม่สายไปนะ
แต่เพราะช่วงนี้ทำงานfreelance เอเจ้นอยู่ด้วยเลยต้องการความอิสระ และยังคงมีโทรนัดสัมภาษณ์งานเราเรื่อยๆทุกวัน จึงชั่งน้ำหนักแล้ววัดใจมาหางานใหม่ เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ปฏิเสธงานหลังตกปากรับคำแล้ว แถมในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้อีกด้วยซ้ำ รู้สึกผิดมากกกกกก ไม่รู้จะเล่าให้ใครเลยมาแชร์ให้ฟัง TT^TT