เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 มิ.ย.58) จขกท.เกิดอาการเบื่อๆเซ็งๆ  อยากหาที่นั่งชิลๆเพื่อพักผ่อน เลยสรุปมาเป็นทริปนี้ กรุงเทพฯ-สวนสนประดิพัทธ์
อีกหนึ่งบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ราคาสำหรับรถไฟตู้ปรับอากาศอยู่ที่คนละ 240 บาท ส่วนตู้ชั้นสามพัดลมอยู่ที่คนละ 120 บาท
เนื่องจากเห็นเพื่อนๆใน Pantip ไปกัน เลยลองไปชวนเพื่อนๆสาวในแก๊งค์ แต่สรุปว่ามีที่หยุดตรงกันแค่ 1 คน  (ทริปนี้ป้ากับยายเลยเลยต้องไปผจญภัยกัน 2 คน อิอิ)  กระทู้นี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาแนะนำ สำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบชิลๆ แบบเช้าไปเย็นกลับ ราคาไม่แพง เลยทำให้มาทำเป็น กระทู้นี้ค่ะ
และทริปนี้ เป็นครั้งแรกที่ลองใช้บริการรถไฟ ขบวนพิเศษ เพื่อท่องเที่ยว ไปเที่ยวชายทะเลหัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ แบบไปเช้า-เย็นกลับ  เป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยวในโครงการ "เที่ยวรถไฟครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก" เป็นการท่องเที่ยววิถีใหม่ ไม่เร่งรีบ (Slow Travel)
     รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟแบบเช้าไป-เย็นกลับ ซึ่งจะออกเดินทางทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  โดย จขกท .ได้จองแบบชั้น 2 แอร์ ไปค่ะ (อากาศแบบนี้นั่งแบบ open air ไม่ไหวจริงๆค่ะ)  รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ หากใครสนใจ


ช่องทางสำรองตั๋วค่ะ
1. สำรองได้โดยตรงที่สถานีรถไฟ
2. สำรองทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 1690 (รับตั๋ว+ชำระเงิน ไม่เกิน 22.00 ของวันรุ่งขึ้นหลังทำการจอง)
รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่สายด่วน 1690 หรือ แฟนเพจ https://www.facebook.com/pr.railway



ปกติเรื่องรถไฟไทยเราจะได้ยินกิตติศักดิ์ เรื่องไม่ตรงเวลาบ่อยๆ จนกลายเป็น Thailand only ไปแล้ว แต่จะขอบอกว่า ทริปนี้ ขบวนนี้ เป็นอะไร ที่ทำให้ จขกท.รู้สึก ตกใจและแปลกใจ กับความตรงเวลา และเป๊ะมากๆค่ะ (คือแบบว่า รู้สึกประทับใจ แบบดีงาม  คือแบบว่าถ้ามีโอกาส รับรองว่าจะกลับไปใช้บริการอีกแน่ๆค่ะ)

ภายในรถไฟ ถือว่าโอเคนะคะ อาจจะดูไม่ใหม่ แต่สะอาดค่ะ แถมจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการดูแล ค่อนข้างดีมากๆ อันนี้ให้เต็ม 10 เลยค่ะ  เจ้าหน้าที่บริการดี พูดดี ใส่ใจ เดินดูตลอด เรื่อยๆ ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถไฟ จนลงรถไฟเลยค่ะ (ทริปนี้ทำให้รู้สึกดีกับการรถไฟไทยขึ้นมาเยอะเลยค่ะ)



    รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีต้นทางหัวลำโพง เวลา 06.30 น. ตรงเวลาเป๊ะจริงๆค่ะ และจอดแวะรับ ผู้โดยสาร ระหว่างทาง เล็กน้อย
และก็วิ่งไปเรื่อยๆ มาจอดเอาที่หมายแรกคือ สถานีนครปฐมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อของ เสบียง และนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ค่ะ ที่นี่ จะให้เวลา 40 นาที (ซึ่งพอลงรถไฟ เดินไปทางซ้ายมือ จะเจอตลาด แล้วมองทางขวามือจะเจอทาง ที่ทอดยาวมองตรงไปจะเห็นองค์พระปฐมเจดีย์อยู่ข้างหน้าเลยค่ะ ระยะทางน่าจะซักๆราว 400 เมตร ได้ค่ะ เดินไปเรื่อยๆ (แต่อาจต้องรีบหน่อยเพราะเวลา 40 นาที ผ่านไปไวมากๆค่ะ)

แอบมองเห็นร้านนี้ระหว่างทางที่เดินไป คือว่าสมัยนี้หากินยากมากๆนะคะ  ข้าวโพดปิ้ง มันปิ้ง เวลาเอามาปิ้งแล้วกินนะคะ กลิ่นมันจะหอมหวานหว่าเอาไปต้มมากๆ (อ่อยน้ำลายไหล อยากกินเลย 555)

เราไปถึง 7.00 กว่าๆ สองบ้างทางยังมีคนทำบุญตักบาตร พระเดินบิณฑบาตร อยู่เลยค่ะ (ชอบวิถีชีวิตแบบนี้จังเลยค่ะ นึกถึงตอนเด็กๆสมัยอยู่บ้านนอกที่จะต้องตื่นแต่เช้าทุกเช้าเพื่อออกมายืนรอตักบาตรหน้าบ้านทุกวัน)










  ช่วงที่แวะนครปฐม ต้องเดินไปไหว้พระไปมองเวลาไป เพราะเวลามันกระชั้น และไวมากๆค่ะ  (เอ้อ  ก่อนจะลง เจ้าหน้าที่จะมา แจ้ง และจะให้เราเที่ยบเวลา กับ เจ้าหน้าที่ เพื่อให้ตรงกัน จะได้ไม่มีใครตกขบวน ชอบเจ้าหน้าที่เวลามาประกาศมากๆค่ะ แอบฮาทุกครั้ง มุขแต่ละมุขของเพ่ท่านสวดยอดดดดดด)
และแล้ว ก็มาถึงสถานี ที่ จขกท.จะมาลง คือทริปนี้ เลือกที่จะลงที่สถานีหัวหิน เพราะสวนสนประดิพัทธ์ เคยไปแล้ว รู้สึกเฉยๆ เพราะโซนหัวหินใกล้ๆสถานีรถไฟมีที่เที่ยวหลายที่ ตอนแรกที่แพลนไว้ ตั้งใจจะไปเที่ยวเพลินวาน ตลาดน้ําสามพันนาม ถ้ามีเวลา อาจจะไปไหว้พระ หรือนั่งรถไปขึ้นรถกลับที่สวนสนเลย เรามาถึงสถานีหัวหินประมาณ 10 โมงกว่าๆ  (มีเวลาเที่ยวประมาณ เกือบ 5 ชม.) โดยต้องกลับมาขึ้นรถที่สถานีหัวหินเวลา 15.39 น. ค่ะ


เมื่อมาถึงแล้วต้องทำการ check in ถ่ายรูปคู่กับป้าย ให้รู้ว่ามาถึงแล้วนะ อิอิ



ที่หาข้อมูลมาบอกว่าถ้าจะไปเพลินวาน ให้ออกมาขึ้นรถเขียวข้างหน้า แต่ไม่เห็น  เลยเดินเข้าไปถามป้าร้านที่ตั้งขายของหน้าสถานี ลุงกับป้าน่ารักมากๆค่ะ แนะนำ บอกเส้นทางเราดีมากๆเลย


   จากสถานี ออกมา จะเห็นถนนอยู่ซ้ายมือ เดินขึ้นไปตามถนน จะเจอสถานีดับเพลิง เดินขึ้นไปเลี้ยวซ้ายจะเข้าตลาด เดินไปจนเจอ 7-11 ขึ้นรถตรงนั้นได้เลยค่ะ ค่ารถไปเพลินวานแค่คนละ 10 เองค่ะ นั่งรถไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ



เพลิดเพลิน กับวันวาน อันแสนอบอุ่น .... เพลินวาน หัวหิน  เป็นหมู่บ้านย้อนยุคที่มีชีวิต มาชิมรสอาหาร-ขนมอร่อย เลือกซื้อเสื้อผ้า ดูหนังกลางแปลง สัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตปี พ.ศ.2499  ได้ที่นี่เลยค่ะ   ที่นี่ไม่เสียค่าเข้านะคะ  พอเดินเข้าไปข้างในก็ได้บรรยากาศย้อนยุค ตกแต่งสวยค่ะ แต่เสียอย่างที่สถานที่ค่อนข้างเล็ก เดินแป๊บเดียวก็ทั่วล่ะ







วันที่ไป แดดร้อนมากๆค่ะ คือแบบว่าเดินออกไปเจอแดดที่ งี้แบบมีอาการสะดุ้งเพราะโดนความร้อนของแดดกัดผิว  บอกเลยค่ะงานนี้ใครที่ทากันแดด spf เท่าไหร่ก็คงไม่อาจช่วยได้จริงๆค่ะ






ข้างในก็มีทั้งร้านค้าที่ขายอาหาร ของกิน ขนม และของที่ระลึก และตกแต่งร้านที่เข้ากับบรรยากาศ ทำให้ดูเพลินตามากๆค่ะ  










    เพลินวานเป็นรูปแบบของหมู่บ้าน ร้านค้า ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วง พ.ศ.2499 อีกครั้ง เป็นสถานที่ที่เน้นการขายอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์  เพลินวาน มาจาก “Play and Learn ในวันวาน” ที่อยากจะให้ทุกคนมามีความสุขด้วยกัน มานึกถึงความรู้สึกดีๆในอดีต เรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมกันค่ะ






หิวๆเลยขอแวะกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ในรา 50 บาท  รสชาติถือว่าโอเคค่ะ แอบกระซิบนิดนึงค่ะ อาหารในนี้ ถ้าเป็นของกินราคาถือว่าโอเคร แต่ถ้าเป็นพวกน้ำ นี่ ขอบอกเลยว่า ราคาแพงมากๆค่ะ แก้วนึงที่เห็นนี่ ราคา 80 บาท ขึ้นไป (ลมแทบจับค่ะ 555)



ข้างในจะเป็นโซนลานเกมส์  ในสมัยก่อนค่ะ















[/