เป็นความทุกข์ใจอย่างหนักอย่างหนึ่งของคนเป็นแม่
ที่เห็นมาโพสท์กระทู้ในเวลานี้เพราะคอยเช็ดตัวลูก ป้อนยาลูกค่ะ
ลูกสาวเข้าโรงเรียนตั้งแต่กลางเดือนก่อน ไปโรงเรียนได้ไม่กี่วัน(ไม่ครบอาทิตย์)
ก็ป่วยกลับมา อาเจียนเป็นไข้ท้องเสีย หยุดเรียนไปเป็นอาทิตย์เมื่อหายกลับไปก็ติดหวัดมา คราวนี้หนักถึงขั้นไอจามตัวร้อนจี๋
วันที่พาลูกกลับไปโรงเรียนเห็นเด็กบางคนเล่นเครื่องเล่น มีอาการไอ จาม และผู้ปกครองบางคนก็มาพร้อมกับขวดยาในมือ
ยังแอบบอกสามีว่า เดี๋ยวต้องติดกลับบ้านแน่ๆ สรุปก็จริงค่ะและก็เป็นกันเกือบทั้งห้องด้วยอาการที่เหมือนกันคือ ไอจามตัวร้อนและ
ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงกันกว่ารอบก่อน
เราเป็นแม่ไม่ได้มือใหม่ลูกคนโตสิบขวบแล้วค่ะ รู้ดีค่ะว่าการป่วยบ่อยของเด็กอนุบาลเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เราว่ามันจะลดไปได้เยอะมาก ถ้าผู้ปกครองทุกคนของเด็กอนุบาล คิดถึงลูกคนอื่นให้พอๆกับคิดถึงลูกของตัวเอง
เข้าใจดีว่าพ่อแม่บางท่านกลัวลูกเรียนไม่ทันเพื่อน บางท่านขาดงานเพื่อหยุดมาดูแลลูกไม่ได้ ไม่สะดวก
แน่นอนว่าการพามาโรงเรียนทั้งที่ยังไม่หายดีคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา
แต่รู้ไหมคะว่านั่นทำให้เด็กอีกหลายคนติดและมาเรียนไม่ได้ไปด้วย
ถ้าเสียสละและคิดถึงส่วนรวมกันมากกว่านี้สักนิด ด้วยการรักษาตัวให้หายดีก่อนไป
การติดต่อกันเป็นวงกลมของโรคของการป่วยในห้องเรียนก็จะลดลงมากค่ะ
ยอมรับว่ากลุ้มใจมาก ยิ่งทุกวันนี้โรคแปลกๆมากันเยอะและเเรงยิ่งกลุ้มค่ะ
แอบคิดถึงขั้นว่าจะให้ลาออกหรือดรอปแล้วมาทำโฮมสคูลเองเลยดีมั้ย(ได้แค่คิดค่ะ คงไม่มีปัญญา)
เฮ้ออออระหว่างพิมพ์ลูกก็ตื่นมาไอโขลกๆ ตลอดเวลา ยิ่งเห็นยิ่งสงสาร
อยากให้มีการรณรงค์จริงจังเรื่องนี้สักทีค่ะ อย่าว่าเเต่เด็กเลยผู้ใหญ่ป่วยก็ควรหยุดให้หายหรือป้องกันให้ดีก่อนจะแพร่เชื้อให้คนอื่น
และไม่ใช่แค่โรงเรียนแต่เป็นที่สาธารณะทั่วไปก็ด้วยค่ะ
"ป่วย ไม่ไป" ลด ละ เลิก ความมักง่าย
อย่าทำให้ใครไม่สบายแค่คำว่าไม่เป็นไรของคุณเลยค่ะ
#กราบแรงๆ
อยากให้มีการรณรงค์จริงจัง เรื่องไม่นำเด็กป่วยไปโรงเรียนค่ะ
ที่เห็นมาโพสท์กระทู้ในเวลานี้เพราะคอยเช็ดตัวลูก ป้อนยาลูกค่ะ
ลูกสาวเข้าโรงเรียนตั้งแต่กลางเดือนก่อน ไปโรงเรียนได้ไม่กี่วัน(ไม่ครบอาทิตย์)
ก็ป่วยกลับมา อาเจียนเป็นไข้ท้องเสีย หยุดเรียนไปเป็นอาทิตย์เมื่อหายกลับไปก็ติดหวัดมา คราวนี้หนักถึงขั้นไอจามตัวร้อนจี๋
วันที่พาลูกกลับไปโรงเรียนเห็นเด็กบางคนเล่นเครื่องเล่น มีอาการไอ จาม และผู้ปกครองบางคนก็มาพร้อมกับขวดยาในมือ
ยังแอบบอกสามีว่า เดี๋ยวต้องติดกลับบ้านแน่ๆ สรุปก็จริงค่ะและก็เป็นกันเกือบทั้งห้องด้วยอาการที่เหมือนกันคือ ไอจามตัวร้อนและ
ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงกันกว่ารอบก่อน
เราเป็นแม่ไม่ได้มือใหม่ลูกคนโตสิบขวบแล้วค่ะ รู้ดีค่ะว่าการป่วยบ่อยของเด็กอนุบาลเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เราว่ามันจะลดไปได้เยอะมาก ถ้าผู้ปกครองทุกคนของเด็กอนุบาล คิดถึงลูกคนอื่นให้พอๆกับคิดถึงลูกของตัวเอง
เข้าใจดีว่าพ่อแม่บางท่านกลัวลูกเรียนไม่ทันเพื่อน บางท่านขาดงานเพื่อหยุดมาดูแลลูกไม่ได้ ไม่สะดวก
แน่นอนว่าการพามาโรงเรียนทั้งที่ยังไม่หายดีคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา
แต่รู้ไหมคะว่านั่นทำให้เด็กอีกหลายคนติดและมาเรียนไม่ได้ไปด้วย
ถ้าเสียสละและคิดถึงส่วนรวมกันมากกว่านี้สักนิด ด้วยการรักษาตัวให้หายดีก่อนไป
การติดต่อกันเป็นวงกลมของโรคของการป่วยในห้องเรียนก็จะลดลงมากค่ะ
ยอมรับว่ากลุ้มใจมาก ยิ่งทุกวันนี้โรคแปลกๆมากันเยอะและเเรงยิ่งกลุ้มค่ะ
แอบคิดถึงขั้นว่าจะให้ลาออกหรือดรอปแล้วมาทำโฮมสคูลเองเลยดีมั้ย(ได้แค่คิดค่ะ คงไม่มีปัญญา)
เฮ้ออออระหว่างพิมพ์ลูกก็ตื่นมาไอโขลกๆ ตลอดเวลา ยิ่งเห็นยิ่งสงสาร
อยากให้มีการรณรงค์จริงจังเรื่องนี้สักทีค่ะ อย่าว่าเเต่เด็กเลยผู้ใหญ่ป่วยก็ควรหยุดให้หายหรือป้องกันให้ดีก่อนจะแพร่เชื้อให้คนอื่น
และไม่ใช่แค่โรงเรียนแต่เป็นที่สาธารณะทั่วไปก็ด้วยค่ะ
"ป่วย ไม่ไป" ลด ละ เลิก ความมักง่าย
อย่าทำให้ใครไม่สบายแค่คำว่าไม่เป็นไรของคุณเลยค่ะ
#กราบแรงๆ