ลดน้ำหนักง่ายๆ สไตล์ "คนขี้เกียจ" (ประสบการณ์ตรง 6ก.ก.)

ออกตัวก่อนนะคะว่าสไตล์ "คนขี้เกียจ" เพราะฉะนั้น อย่าพึ่งมโน ว่าแค่นี้ "ชั้นก็จะหุ่นเพรียว", "ชั้นจะฟิต & เฟิร์ม" ยังค่ะยัง มันคงเป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากคุณจะไปต่อยอดจากกระทู้นี้เอง

จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้คือ อยากจะสร้างกำลังใจให้กับคนที่อยากลดน้ำหนัก
แต่พอเสิร์ชหาข้อมูลเจอคนที่ลดหนักสำเร็จแล้วต้อแต๊ใจเหลือเกิน เนื่องจากวิธีที่เขาใช้กันนั้นโหดมาก เม่าเหม่อ
- จะให้กินคลีน (ชั้นไม่มีเวลาว่างมานั่งทำอาหารหรอกนะ)
- จะให้ออกกำลังกาย (ชั้นจะไปออกที่ไหน ออกยังไง จะเอาเวลาที่ไหนไปออก เลิกงานก็หมดเวลา หมดแรงแล้ว บลาๆ)
ด้วยอุปสรรค (ข้ออ้าง) ทั้งหลาย ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่ใช่ทางของชั้น ชั้นทำไม่ได้หรอก ก็ทำให้ล้มเลิกความตั้งใจ บ๊ายยยยย ความผอม มันต้องมีสักคนสิที่รักชั้นในแบบที่เป็นชั้น ชั้นอ้วนแต่หน้าชั้นสวยย่ะ ประมาณนั้นค่ะ คนรอบข้างเราเป็นแบบนั้นเลย

วิธีของเราไม่ยากขนาดนั้นค่ะ เพราะมันเป็นแค่ "จุดเริ่มต้น" ของความผอมเท่านั้นค่ะ เราสูง 150 ซม. ค่ะ เคยหนักสุดประมาณ 48 ก.ก. ปัจจุบันเหลือ 40-42 ก.ก. ค่ะ (เหวี่ยงประมาณนี้ เนื่องจากโดนแฟนพากิน น้ำตาจะไหล เม่าโศก) มาดูกันค่ะว่าเราลดยังไง

First Step.. ปรับพฤติกรรมการกิน
=> เลือกกินอาหาร (พยายามจะ) คลีน
ในความขี้เกียจของเรา ความเคยชินของเรา และความอยากของเรา จะให้มากินคลีน มันเป็นไปไม่ด้ายยยย ไม่มีทางเลยค่ะ แต่ แต่ แต่ จะผอมอ่ะ อยากจะผอม เพราะฉะนั้น เราหันมากินแบบพยายามจะคลีนกันดีกว่าค่ะ ไม่ยากค่ะ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เราจะไม่หักดิบ เพราะไม่งั้นจะหมดกำลังใจกันไปเสียก่อน
1. อาหารที่ต้องปรุง เช่น ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า กระเพราะปลา บลาๆๆ
เราเชื่อค่ะว่าคนส่วนใหญ่ "ติดปรุง" ไม่ว่าแม่ค้า/พ่อค้า จะปรุงมาให้แล้วก็ตามที เราคนนึงค่ะที่ติดปรุงมาก น้ำตาลนี่อย่างน้อยๆ 2 ช้อนโต๊ะค่ะ เพื่อนบอกน้ำเชื่อมรึเปล่า ข้อนี้การพยายามจะคลีนของเราคือ "ไม่ปรุง" หรือ "ปรุงน้อย" ที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ แรกๆ อาจจะยาก ไม่ถูกปาก แต่พอทำได้สักระยะ เราจะชินรส แล้วรู้สึกว่าเดิมๆ ก็อร่อยดีนะ

2. อาหารมื้อปกติ (เช้า/กลางวัน/เย็น) กินพออิ่ม
เราข้างกินตามใจปากค่ะ (บุฟเฟ่ต์ ทุกวันก็ไม่ไหวนะคุ๊ณณณ) แต่ แต่ แต่ กินในระดับที่พอดี "อย่าเสียดาย" ถ้าเสียดายจริงๆ ให้เก็บไว้เป็นอาหารมื้อถัดไปค่ะ ถ้าเน้นผักได้ควรเน้น เทคนิคของเราคือ เราจะกินผักก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ จะได้ช่วยให้อิ่มผักก่อนในระดับหนึ่ง พื้นที่ว่างของท้องที่เหลือก็เป็นเนื้อสัตว์ หรือข้าว หรืออะไรก็ว่ากันไป (จะทำให้เรากินผักเป็นนิสัย ช่วยในการขับถ่าย และดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ) ที่สำคัญ พยายามเลี่ยงทุกอย่างที่จะทำให้เราอ้วนค่ะ เช่น ไขมัน เลี่ยงเท่าที่จะเลี่ยงได้ค่ะ เราจะพยายามชั่งน้ำหนัก เมนูตัวเลือกที่เรามีอยู่ค่ะ เช่น สมมติว่าเข้าร้านสเต๊ก และสมมติว่าร้านนี้มีแค่สเต๊กปลากับสเต๊กหมู เราก็จะเลือกสเต๊กปลาค่ะ ประมาณนี้

3. อาหารมื้อดึก (หลังเที่ยงคืน) !! (สำหรับคนที่กินเป็นประจำจนชิน เราเคยเป็นค่ะ)
"ลด ละ เลิก" นะคะ การจะเลิกกินมื้อนี้นั้น ช่วงแรกๆ อาจจะลดที่ปริมาณ หรือเปลี่ยนมาทาน โยเกิร์ต นม น้ำผลไม้ หรืออะไรที่ไม่อ้วนมากแทนก่อนนะคะ พอผ่านไปสักพัก เราจะอยู่ได้เองโดยไม่อยากกินมื้อดึกแล้วค่ะ

4. น้ำอัดลม/ชานม/นมปั่น/กาแฟ/ขนม
- น้ำอัดลม
เราเป็นคนติดน้ำอัดลมค่ะ ติดมากจนกินแทนน้ำเปล่าเลยค่ะ เราเลยพยายามลดน้ำอัดลม เพราะนอกจากจะอ้วนแล้ว ยังไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยช่วงแรกๆ เราหันมากินชาเขียว กับน้ำผลไม้สดก่อนค่ะ เนื่องจากเราติดหวาน พอห่างได้สักพักเราก็เหลือน้ำผลไม้สด กับเปลี่ยนชาเขียวเป็นชาเขียว (ไม่มีน้ำตาล) กับชาอู่หลง (ไม่มีน้ำตาล) แทนค่ะ (อันนี้แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนนะคะ ว่าจะเลิกกินด้วยวิธีไหน) ปัจจุบันเรายังกินอยู่บ้างค่ะ เช่น เวลาไปดูหนังในโรง กับนานๆ ทีที่อยากค่ะ
- ชานม/นมปั่น/กาแฟ
ปัจจุบันเรายังติดอยู่ค่ะ เราพยายามเลี่ยงด้วยการลดน้ำตาลค่ะ
- ขนม
เราเคยติดมากเช่นกัน มันเพลินๆ ค่ะ ปากมันว่าง แป๊บๆ อ้าว ทำไมหมดแล้วอ่ะ 555 วิธีเลิก ไม่มีค่ะ ข่มใจลูกเดียว อ้วนหนอ เปลืองเงินหนอ ประมาณนั้นค่ะ จนอยู่ดีๆ เราห่างมาได้เฉย จากเมื่อก่อนต้องกินทุกวัน วันละหลายห่อ (พยายามอย่าซื้อมาติดห้องนะคะ ไม่เหลือแน่นอน) เราคิดว่าถ้ามันไม่เห็น หรือไม่อยู่ใกล้ตัว เราก็ไม่อยากกินหรอกค่ะ ปัจจุบันเราก็ยังกินอยู่นะคะ แต่น้อยลงเยอะค่ะ

วิธีนี้ มันอาจจะเห็นผลช้า (ยิ่งช่วงแรกๆ แทบดูไม่ออกเลยค่ะ) เนื่องจากค่อนข้างใช้เวลา เพราะเราไม่ได้ลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่เชื่อเถอะค่ะ ถ้าคุณปรับพฤติกรรมการกิน น้ำหนักจะลดลงไปได้เยอะเลยค่ะ ตัวเราไม่ได้สัมผัสน้ำหนัก 41 ก.ก. มานานมากแล้วค่ะ ประมาณ 7 ปีได้ จนอยู่ๆ วันหนึ่งเราชั่งน้ำหนักดู เราตกใจมากค่ะ เพราะเราคิดว่าน้ำหนักเราอยู่ตัวที่ 43-44 ก.ก. แล้ว

เริ่มต้นง่ายๆ ตามสไตล์คนขี้เกียจ ด้วยการปรับวิธีการกินของเราเอง อย่างน้อยก็ดีกว่าการที่เราคิดอยากจะผอม อยากจะลดน้ำหนัก แต่ทำได้แค่อยาก โดยไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย (เรารู้ เราเคยเป็น 555)

สำคัญ "อย่าอดอาหารเด็ดขาด!! นะคะ"

ปล. น้ำหนัก ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า "อ้วน" หรือ "ผอม" ทั้งหมด อยู่ที่ความเฟิร์มด้วย (ตอนเราหนัก 43 ก.ก. เท่าเมื่อก่อน เพื่อนทักว่าดูผอมลงเยอะ ทั้งๆที่หนักเท่าเดิมค่ะ) ปัจจุบันเราน้ำหนักลดลงจริง แต่ยังไม่เฟิร์มเท่าไหร่นะคะ เพราะเราออกกำลังกายน้อยค่ะ ปัจจุบันเรากำลังพยายามฟิตหุ่นให้เฟิร์มอยู่ค่ะ
ปล.2 เราชอบชั่งน้ำหนัก "หลังกิน" นะคะ คนอื่นอาจมองว่าเราบ้า แต่สำหรับเรามันเหมือนกับเป็นการคุมตัวเองว่า "หนักเกินไปแล้วนะ", "กินเยอะเกินไปแล้วนะ", "พอได้แล้ว Eอ้วน"
ปล.3 เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลดน้ำหนักมากเท่าไหร่ หากผิดพลาดตรงไหน บอกให้เราแก้ไขได้นะคะ ^^

Next Step.. "Exercise"
เราจะผอมและเฟิร์มด้วยการออกกำลังกาย
(เดี๋ยวมาต่อค่ะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่