สวัสดีค่ะ คือเรามีเรื่องอยากจะเล่ากึ่งๆ ปรึกษาเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ
เรากับแฟนคบกันมาได้เกือบปีแล้วค่ะ เราอายุ 23 แฟน 25
ตอนที่คบกันนี่ก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคู่รักทั่วๆ ไปค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาแฟนเราบวช
คือเค้าวางแผนจะบวชมานานแล้วค่ะ พอดีมีปัญหาเรื่องงานด้วย
เลยกะว่าจะบวชยาว แต่บวชยาวในที่นี้ของเค้าคือ บวชตลอดชีวิตค่ะ
ไอเราคนเคยมีความฝันร่วมกันก็ช็อคซิคะ เกิดคำถามขึ้นในใจ
"แล้วตูล่ะ" เลยทำให้ช่วงต้นเดือนพ.ค.ก่อนเค้าจะบวชนี่ดั่งนรกเลยค่ะ
เราร้องไห้ทุกวัน ไม่ใช่เสียใจที่แฟนบวชนะคะ แต่เสียใจตรงที่
เหมือนเค้าจะทิ้งเลยไปง่ายๆ เราก็บอกเค้านะคะว่าเรารอได้ บลาๆๆ
ขอร้องอ้อนวอนสารพัดว่าให้คิดดูให้ดีเรื่องบวชตลอดชีวิต เพราะเรายังทำใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ
ตอนที่แฟนเราเข้าไปนุ่งขาวอยู่วัดก่อนจะบวช เค้าก็โทรมาหาเราทุกวัน คือเค้าอยากให้เราหยุดร้องไห้ อยากให้เราเลิกเศร้า อยากให้เรายินดี แต่เราก็เป็นคนธรรมดานะคะ เราก็ต้องดีใจที่เค้าจะบวชอยู่แล้ว
แต่คำว่าตลอดชีวิตสำหรับเรามันนานเกินไป เราทำใจไม่ทันจริงๆ
และก่อนที่เค้าจะบวชสองวัน เค้าขอเราค่ะ ขอให้เราทำบางอย่าง 4 ข้อให้ คือ 1.ลดน้ำหนัก =O= 2.เก็บเงินไว้เยอะๆ 3.หาความรู้ให้มากๆ 4.เลิกร้องไห้ ถ้าทำได้เค้าจะคิดดูใหม่เรื่องบวขตบอดชีวิต
ตอนแรกเราก็รับปากอย่างดีเลยค่ะ ว่าได้ๆ จะทำสุดความสามารถงั้นงู้นงี้ (เราบอกก่อนว่าเราหนัก 75 กก. สูง 152 ซม. ถังแก๊สมีขาดีๆ นี่เองค่ะ) พอบวช ท่านก็ถามมาเป็นระยะๆ ค่ะว่า ลดไปถึงไหนแล้ว ถามบ่อย จี้เรามากๆ จนเราสงสัยค่ะว่า ที่ขอมานี่เพราะอะไร
เพราะแต่ก่อนตอนคบกันอายที่เราอ้วน หรือเพราะอยากให้เราดูดีขึ้น
วันนี้เราเลยถามไปค่ะว่า ทำไมจะต้องจริงจังเรื่องลดน้ำหนักของเรามากขนาดนี้ ท่านเลยย้อนกลับมาว่า เราอ่อนล้า สงสัย ไม่ตั้งใจ เห็นว่ามันไม่ดี ให้เรานึกถึงสภาพหุ่นตัวเองตอนใส่ชุดเจ้าสาว ชุดว่ายน้ำ ถามว่าเราเห็นสภาพตัวเองในกระจกตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงกับสภาพนี้ แล้วถ้าได้ไปใส่ชุดไซส์ปกติจะเป็นยังไง บอกว่าเราน่าเป็นห่วง ไม่มีความตระหนักในความสวยความงามของตน ปล่อยปะละเลยตน พูดซะจนเราหมดความมั่นใจเลยค่ะ
จากแต่ก่อนส่องกระจกแล้วพูดในใจว่า "คนไรแว้ อ้วนแล้วดันเจือกสวยอีก" มาตอนนี้กลายเป็น "คนไรแว้ อ้วนแล้วดันเจือกโง่อีก"
เราเองยังไม่เข้าใจสาเหตุของการที่ท่านให้เราลดน้ำหนักอยู่ดีค่ะ เพราะคบกันมาเกือบปีไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเราเลย แค่บอกว่าให้เราลดๆ เรื่องกินขนมแทนข้าวหน่อย
ทีนี้ปัญหาของเรื่องมันอยู่ที่ว่า เราดันเอ่ยออกไปว่า "ถ้าหนัก 50 แล้วจะสึกหรอ" ท่านก็รีบพูดเลยค่ะว่า "ไม่ใช่ 50 ต้อง 40 ต่างหาก"
ตอนที่ได้ยินนี่น้ำตาร่วงเลยค่ะ จาก 75 ให้เหลือ 40 นี่ถ้าตัดเนื้อตัดไขมันออกได้คงทำไปแล้วค่ะ แล้วนี่เราอ้วนมาตลอดชีวิต จะลดยังไงก่อนออกพรรษา นี่เราเจ็บปวดมากค่ะ เอาเรื่องหุ่นของเรามาต่อรองเรื่องนี้ เอาความรักของคนๆ นึงมาเดิมพันด้วยน้ำหนัก 40
เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนเราก็โมโหค่ะ บอกให้เราปล่อยไป ถ้าจะรักเราต้องรักที่เราเป็นเรา เรารู้นะคะว่าท่านอาจจะหวังดีกับเราจริงๆ แต่ 75 เหลือ 40 ในหนึ่งปีนี่แทบเป็นลม พอถามเหตุลมากๆ ว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ ก็ตอบเรากลับมาว่า พอถึงเวลาที่ลดได้ขนาดนั้นก็จะรู้เอง โอ๊ยยยยยย เรานี่เพลียมากเลยค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนพอจะมีวิธีลดน้ำหนก 30 กก ได้ขนาดนั้นในหนึ่งปีมั้ย คะ แล้วเราจะทำยังไงกับท่านต่อไปดีค่ะ ควรปล่อยท่านไปหรือเราควรทำยังไงต่อไปดี รบกวนด้วยค่ะ ㅠㅠ
ถ้าลดน้ำหนักได้ 30 กิโลแฟนจะกลับมา?
เรากับแฟนคบกันมาได้เกือบปีแล้วค่ะ เราอายุ 23 แฟน 25
ตอนที่คบกันนี่ก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคู่รักทั่วๆ ไปค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาแฟนเราบวช
คือเค้าวางแผนจะบวชมานานแล้วค่ะ พอดีมีปัญหาเรื่องงานด้วย
เลยกะว่าจะบวชยาว แต่บวชยาวในที่นี้ของเค้าคือ บวชตลอดชีวิตค่ะ
ไอเราคนเคยมีความฝันร่วมกันก็ช็อคซิคะ เกิดคำถามขึ้นในใจ
"แล้วตูล่ะ" เลยทำให้ช่วงต้นเดือนพ.ค.ก่อนเค้าจะบวชนี่ดั่งนรกเลยค่ะ
เราร้องไห้ทุกวัน ไม่ใช่เสียใจที่แฟนบวชนะคะ แต่เสียใจตรงที่
เหมือนเค้าจะทิ้งเลยไปง่ายๆ เราก็บอกเค้านะคะว่าเรารอได้ บลาๆๆ
ขอร้องอ้อนวอนสารพัดว่าให้คิดดูให้ดีเรื่องบวชตลอดชีวิต เพราะเรายังทำใจไม่ได้จริงๆ ค่ะ
ตอนที่แฟนเราเข้าไปนุ่งขาวอยู่วัดก่อนจะบวช เค้าก็โทรมาหาเราทุกวัน คือเค้าอยากให้เราหยุดร้องไห้ อยากให้เราเลิกเศร้า อยากให้เรายินดี แต่เราก็เป็นคนธรรมดานะคะ เราก็ต้องดีใจที่เค้าจะบวชอยู่แล้ว
แต่คำว่าตลอดชีวิตสำหรับเรามันนานเกินไป เราทำใจไม่ทันจริงๆ
และก่อนที่เค้าจะบวชสองวัน เค้าขอเราค่ะ ขอให้เราทำบางอย่าง 4 ข้อให้ คือ 1.ลดน้ำหนัก =O= 2.เก็บเงินไว้เยอะๆ 3.หาความรู้ให้มากๆ 4.เลิกร้องไห้ ถ้าทำได้เค้าจะคิดดูใหม่เรื่องบวขตบอดชีวิต
ตอนแรกเราก็รับปากอย่างดีเลยค่ะ ว่าได้ๆ จะทำสุดความสามารถงั้นงู้นงี้ (เราบอกก่อนว่าเราหนัก 75 กก. สูง 152 ซม. ถังแก๊สมีขาดีๆ นี่เองค่ะ) พอบวช ท่านก็ถามมาเป็นระยะๆ ค่ะว่า ลดไปถึงไหนแล้ว ถามบ่อย จี้เรามากๆ จนเราสงสัยค่ะว่า ที่ขอมานี่เพราะอะไร
เพราะแต่ก่อนตอนคบกันอายที่เราอ้วน หรือเพราะอยากให้เราดูดีขึ้น
วันนี้เราเลยถามไปค่ะว่า ทำไมจะต้องจริงจังเรื่องลดน้ำหนักของเรามากขนาดนี้ ท่านเลยย้อนกลับมาว่า เราอ่อนล้า สงสัย ไม่ตั้งใจ เห็นว่ามันไม่ดี ให้เรานึกถึงสภาพหุ่นตัวเองตอนใส่ชุดเจ้าสาว ชุดว่ายน้ำ ถามว่าเราเห็นสภาพตัวเองในกระจกตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงกับสภาพนี้ แล้วถ้าได้ไปใส่ชุดไซส์ปกติจะเป็นยังไง บอกว่าเราน่าเป็นห่วง ไม่มีความตระหนักในความสวยความงามของตน ปล่อยปะละเลยตน พูดซะจนเราหมดความมั่นใจเลยค่ะ
จากแต่ก่อนส่องกระจกแล้วพูดในใจว่า "คนไรแว้ อ้วนแล้วดันเจือกสวยอีก" มาตอนนี้กลายเป็น "คนไรแว้ อ้วนแล้วดันเจือกโง่อีก"
เราเองยังไม่เข้าใจสาเหตุของการที่ท่านให้เราลดน้ำหนักอยู่ดีค่ะ เพราะคบกันมาเกือบปีไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเราเลย แค่บอกว่าให้เราลดๆ เรื่องกินขนมแทนข้าวหน่อย
ทีนี้ปัญหาของเรื่องมันอยู่ที่ว่า เราดันเอ่ยออกไปว่า "ถ้าหนัก 50 แล้วจะสึกหรอ" ท่านก็รีบพูดเลยค่ะว่า "ไม่ใช่ 50 ต้อง 40 ต่างหาก"
ตอนที่ได้ยินนี่น้ำตาร่วงเลยค่ะ จาก 75 ให้เหลือ 40 นี่ถ้าตัดเนื้อตัดไขมันออกได้คงทำไปแล้วค่ะ แล้วนี่เราอ้วนมาตลอดชีวิต จะลดยังไงก่อนออกพรรษา นี่เราเจ็บปวดมากค่ะ เอาเรื่องหุ่นของเรามาต่อรองเรื่องนี้ เอาความรักของคนๆ นึงมาเดิมพันด้วยน้ำหนัก 40
เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนเราก็โมโหค่ะ บอกให้เราปล่อยไป ถ้าจะรักเราต้องรักที่เราเป็นเรา เรารู้นะคะว่าท่านอาจจะหวังดีกับเราจริงๆ แต่ 75 เหลือ 40 ในหนึ่งปีนี่แทบเป็นลม พอถามเหตุลมากๆ ว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ ก็ตอบเรากลับมาว่า พอถึงเวลาที่ลดได้ขนาดนั้นก็จะรู้เอง โอ๊ยยยยยย เรานี่เพลียมากเลยค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนพอจะมีวิธีลดน้ำหนก 30 กก ได้ขนาดนั้นในหนึ่งปีมั้ย คะ แล้วเราจะทำยังไงกับท่านต่อไปดีค่ะ ควรปล่อยท่านไปหรือเราควรทำยังไงต่อไปดี รบกวนด้วยค่ะ ㅠㅠ