สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน บอกไว้ก่อนนะครับว่าเนื้อหาต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ออกมาจากความคิดของผมกำลังจะสอบมากมายเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนนี้ และพบกับการศึกษาในอันดับ 8 ของอาเซียนมา 12 ปีแล้วและต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมอยากให้เปลี่ยน งดดราม่านะครับ
1.เลิกให้จดเถอะครับคำอธิบายรายวิชา จดไปก็ไม่มีใครอ่านหรอกครับ เอาความจริงไม่อิงหลักการ ผมว่าคาบแรกของการสอนให้เปลี่ยนเป็นการให้ครูพูดคุยเพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียน และให้จดไปเลยครับว่าในเทอมนี้มีการบ้านอะไรบ้าง ให้บอกหรือให้นักเรียนจดอย่างชัดเจนและทำจริงจังโดยที่ไม่มีงานอื่นนอกจากนี้จริงๆ เพื่อที่ว่านักเรียนจะได้รู้ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องทำ สะดวกแก่การจัดเวลา และจะได้ไม่มีปัญหางานยิบย่อยที่คอยสั่งกันแบบน้ำไหลไฟดับยิ่งช่วงวันหยุดก็มีการบ้านชดเชย
2.อย่าไปเสียเวลาไปกับการด่านักเรียนบางส่วน ทำให้กินเวลาเรียนไป จนเกิดปัญหาสอนไม่ทัน!! แล้วยังไงครับ สิ่งที่ตามมาก็คือ ข้อสอบออกไปแล้ว สอนเด็กไม่ทัน ต้องมีเรียนนอกรอบหรือเหตุร้ายกว่าคือปล่อยไปไม่สอนแล้วเด็กก็สอบไม่ได้
3.ข้อนี้ผมอยากให้ครูทุกคนได้เห็นนะครับ เพราะมันออกกฎแก้กันไม่ได้ เลิกเถอะครับการเปรียบเทียบเด็กโรงเรียนตัวเองกับโรงเรียนอื่น ไม่ว่าจะดีกว่าหรือด้อยกว่าก็ตาม เพราะผมว่าเด็กทุกคนก็น่าจะรู้สมรรถภาพของตัวเองอยู่บ้าง จึงได้มาเลือกเรียนในโรงเรียนที่ตัวเองคิดว่าเหมาะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรเอาเด็กที่มีความสามารถระดับหนึ่งไปเทียบกับอีกระดับหนึ่ง เพราะผมว่ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี สิ่งที่ควรทำผมว่าคุณครู อาจารย์ควรจะพลักดันเด็กไปให้ตรงกับความสามารถไม่ใช่มัวแต่เอาไปเปรียบกับเด็กโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้ไปเรื่อย
4.ข้อนี้เน้นเพื่อ ม.ปลาย สายสามัญ นะครับ เพราะการที่เด็กเลือกแผนการเรียนมาแล้วว่าจะเรียนสายไหนก็ควรจะให้เรียนในด้านที่เขาเลือกและวิชาที่จำเป็นแบบประปรายก็พอแล้วครับไม่ใช่มีอะไรก็ยัดๆๆเข้าไปเรียนวันหนึ่ง 8-9 คาบไหนจะเรียนพิเศษ การบ้านอีก ดูสภาพเด็กบ้างไหมครับ วันหนึ่งเด็กควรจะเรียนแค่ 7 คาบก็พอแล้ว เพราะนั้นคือเวลาของขีดจำกัดในการเรียนรู้ของวันนั้นๆแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะยัดเอาความรู้ส่วนเกินมาใส่อีก อย่างเช่นภาษาเพื่อนบ้านอาเซียนเรียนเทอมล่ะภาษา บอกตามตรงนะครับว่าไร้สาระเรียนไปให้รกสมอง เวลาแค่นั้นไม่มีใครสามารถเรียนจนเอาใช้ได้จริงหรอกครับ
5.ข้อนี้ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่อยากให้คุณครูฟังสิ่งที่นักเรียนจะพูดและอธิบายบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็บอกเถียงหรือไม่ให้พูดอะไรตอบเลย มันรังแกเด็กเกินไปไหมครับ
6.การลงโทษนักเรียนที่ทำผิดวินัยควรทำอย่างจริงจังนะครับ ไม่ใช่แค่ยึดของกลางแล้วปล่อยไป ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น แล้วคนที่ทำถูกต้องตามระเบียบจะรู้สึกยังไงล่ะครับ ที่ตัวเองที่ดีๆถูกต้อง แต่คนที่ทำผิดมาตลอดก็ไม่มีผลกระทบอะไร แล้วคนที่ทำดีจะไปทำทำไมล่ะครับในเมื่อทำผิดมันง่ายกว่าแถมไม่มีผลกระทบอะไรด้วย
ยังมีอีกหลายอย่างครับที่ยังค้างใจผม แต่มันไม่สะดวกกับการแชร์ลงในโลกออนไลน์แบบนี้ ถ้าใครมีข้อโต้แย้ง หรือความเห็นอย่างไรก็ตามสบายเลยครับ เพราะกระทู้นี้ผมตั้งใจให้เป็นกระทู้สนทนา ^^
กระทู้นี้เป็นแค่สิ่งที่เด็ก ม.6 โง่ๆคนหนึ่งอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
1.เลิกให้จดเถอะครับคำอธิบายรายวิชา จดไปก็ไม่มีใครอ่านหรอกครับ เอาความจริงไม่อิงหลักการ ผมว่าคาบแรกของการสอนให้เปลี่ยนเป็นการให้ครูพูดคุยเพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียน และให้จดไปเลยครับว่าในเทอมนี้มีการบ้านอะไรบ้าง ให้บอกหรือให้นักเรียนจดอย่างชัดเจนและทำจริงจังโดยที่ไม่มีงานอื่นนอกจากนี้จริงๆ เพื่อที่ว่านักเรียนจะได้รู้ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องทำ สะดวกแก่การจัดเวลา และจะได้ไม่มีปัญหางานยิบย่อยที่คอยสั่งกันแบบน้ำไหลไฟดับยิ่งช่วงวันหยุดก็มีการบ้านชดเชย
2.อย่าไปเสียเวลาไปกับการด่านักเรียนบางส่วน ทำให้กินเวลาเรียนไป จนเกิดปัญหาสอนไม่ทัน!! แล้วยังไงครับ สิ่งที่ตามมาก็คือ ข้อสอบออกไปแล้ว สอนเด็กไม่ทัน ต้องมีเรียนนอกรอบหรือเหตุร้ายกว่าคือปล่อยไปไม่สอนแล้วเด็กก็สอบไม่ได้
3.ข้อนี้ผมอยากให้ครูทุกคนได้เห็นนะครับ เพราะมันออกกฎแก้กันไม่ได้ เลิกเถอะครับการเปรียบเทียบเด็กโรงเรียนตัวเองกับโรงเรียนอื่น ไม่ว่าจะดีกว่าหรือด้อยกว่าก็ตาม เพราะผมว่าเด็กทุกคนก็น่าจะรู้สมรรถภาพของตัวเองอยู่บ้าง จึงได้มาเลือกเรียนในโรงเรียนที่ตัวเองคิดว่าเหมาะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรเอาเด็กที่มีความสามารถระดับหนึ่งไปเทียบกับอีกระดับหนึ่ง เพราะผมว่ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี สิ่งที่ควรทำผมว่าคุณครู อาจารย์ควรจะพลักดันเด็กไปให้ตรงกับความสามารถไม่ใช่มัวแต่เอาไปเปรียบกับเด็กโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้ไปเรื่อย
4.ข้อนี้เน้นเพื่อ ม.ปลาย สายสามัญ นะครับ เพราะการที่เด็กเลือกแผนการเรียนมาแล้วว่าจะเรียนสายไหนก็ควรจะให้เรียนในด้านที่เขาเลือกและวิชาที่จำเป็นแบบประปรายก็พอแล้วครับไม่ใช่มีอะไรก็ยัดๆๆเข้าไปเรียนวันหนึ่ง 8-9 คาบไหนจะเรียนพิเศษ การบ้านอีก ดูสภาพเด็กบ้างไหมครับ วันหนึ่งเด็กควรจะเรียนแค่ 7 คาบก็พอแล้ว เพราะนั้นคือเวลาของขีดจำกัดในการเรียนรู้ของวันนั้นๆแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะยัดเอาความรู้ส่วนเกินมาใส่อีก อย่างเช่นภาษาเพื่อนบ้านอาเซียนเรียนเทอมล่ะภาษา บอกตามตรงนะครับว่าไร้สาระเรียนไปให้รกสมอง เวลาแค่นั้นไม่มีใครสามารถเรียนจนเอาใช้ได้จริงหรอกครับ
5.ข้อนี้ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่อยากให้คุณครูฟังสิ่งที่นักเรียนจะพูดและอธิบายบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็บอกเถียงหรือไม่ให้พูดอะไรตอบเลย มันรังแกเด็กเกินไปไหมครับ
6.การลงโทษนักเรียนที่ทำผิดวินัยควรทำอย่างจริงจังนะครับ ไม่ใช่แค่ยึดของกลางแล้วปล่อยไป ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น แล้วคนที่ทำถูกต้องตามระเบียบจะรู้สึกยังไงล่ะครับ ที่ตัวเองที่ดีๆถูกต้อง แต่คนที่ทำผิดมาตลอดก็ไม่มีผลกระทบอะไร แล้วคนที่ทำดีจะไปทำทำไมล่ะครับในเมื่อทำผิดมันง่ายกว่าแถมไม่มีผลกระทบอะไรด้วย
ยังมีอีกหลายอย่างครับที่ยังค้างใจผม แต่มันไม่สะดวกกับการแชร์ลงในโลกออนไลน์แบบนี้ ถ้าใครมีข้อโต้แย้ง หรือความเห็นอย่างไรก็ตามสบายเลยครับ เพราะกระทู้นี้ผมตั้งใจให้เป็นกระทู้สนทนา ^^