สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์รักษาภูมิแพ้ โดยไม่พึ่งยา  อย่าเพิ่งคิดนะว่าจะมาขายอาหารเสริม โนวว ไม่ขายจ้า
เรื่องของเรื่องคือเราเป็นโรคภูมิแพ้ คือแพ้อะไรไม่รู้นะ ไม่เคยตรวจสักที อาการคือ คันหู คันตา คันคอ เวลาแมลงสัตว์กัดต่อยก็บวมแดงและเป็นแผล นูนแข็ง ทั้งที่ไม่ได้เกา เอาล่ะ ไปรักษาทีละโรคละกัน เราก็ไปพบแพทย์ผิวหนัง ซึ่งแพทย์บอกว่า เราเป็นโรคอโทรปิค คือไม่รู้ว่าแพ้อะไร ต้องคอนสังเกตเอา ช่วงนั้นเรากินยาแก้แพ้จนรู้สึกว่า ไม่ไหวละ ง่วงทั้งวันเลย ก็บอกแพทย์ เขาก็จัดอาหารเสริมตัวนึงมาให้ กล่องละพันกว่าบาท ก็ดีขึ้นนะ แต่มันก็แพงอยู่ ส่วนแผลที่นูนก็แพทย์ฉีดยาให้ เข็มละ300 ไม่รู้ว่ายาอะไรอ่ะ และก็ครีมแต้มลบรอยดำ รักษาต่อเนื่องสัก 3 เดือน ขาเริ่มหายลาย ดีใจน้ำหูน้ำตาไหล ทีนี้เอาวะ รักษาอีกที่เป็นปัญหา คือจะตาแห้ง ระคายเคืองตา ไปตรวจ หมอบอกเป็น เป็นภูมิแพ้ตา (คิดในใจภูมิแพ้อีกแล้วเหรอ) หมอก็ให้ยาหยอดแก้แพ้ 2 ตัวยา และก็หยอดน้ำตาเทียมและล้างตาด้วยน้ำเกลือ ซึ่งรักษาต่อเนื่อง 2 เดือน ก็ดีขึ้น ก็เป็นบ้างเป็นครั้งคราว ทีนี้อีกจุดที่เป็นบ่อยคือ จะคันคอ คันเพดาน คันหู โหยย ทรมานมากเว่อร์ จามบ่อย หายใจไม่สะดวก แบบว่าหายใจได้จากรูจมูกรูเดียว หมอก็จะให้พวกยาแก้แพ้ ยาฆ่าเชื้อ มันก็หายอยู่นะ แต่ก็เป็นอีก ท่าทีเหมือนไม่เวิร์ก และพอดีวันนั้นกลับต่างจังหวัด คลีนิคก็ไม่ค่อยรู้จัก เราเลยไปรักษากับโรงพยาบาลที่มีสิทธิบัตรทอง (ซึ่งไม่เคยใช้สิทธิเลย) วันนั้นเป็นวันเสาร์ แล้วเจอแพทย์แผนกฉุกเฉิน คิดในใจจะรอดไหมเนี่ย ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง หรือเราจะค่อยไปรักษาตอนกลับไปกรุงเทพ แต่ก็นะ อีกหลายวัน รอไม่ไหว อาการหนักแล้ว ก็คิดว่า ไหนๆก็ไหนๆ เอาอาการทุเลาไปก่อนก็ยังดี แพทย์ถามว่า เคยล้างจมูกไหม ก็บอกไม่เคยค่ะ เขาบอกให้ไปลองล้างจมูก
วันนั้นแพทย์ไม่จัดยาให้เลย มีแต่หลอดฉีดยา2 ขวดและน้ำเกลือขวดนึง
เภสัชบอกยาไม่มีนะคะ ล้างจมูกเอา เราก็ทำหน้างงๆ แบบว่า ล้างไง ล้างไม่เป็น เภสัชถามว่า ล้างเป็นไหมคะ ก็บอกไม่เป็นค่ะ
เภสัชบอก งั้นพี่จะบอกให้นะ ขั้นตอนแรก เอาน้ำเกลือเทใส่แก้วสะอาด ดูดน้ำเกลือมาเต็มหลอด ถ้าเราจะล้างจมูกข้างขวา ให้เอียงซ้าย ฉีดน้ำเกลือเข้าไป ข้างละ2หลอด ถ้าฉีดข้างขวา น้ำที่ฉีดเข้าไปจะไหลออกทางรูจมูก รูซ้าย ถ้าทำรูจมูก รูซ้าย น้ำที่ฉีดจะไหลรูจมูก รูขวา
เอาล่ะพอเรากลับไปทำ คือเฟลมากกกกกกกก สำลัก น้ำเกลือไม่เห็นลงออกอีกรูเลย ทำไงดี เลยไปซื้อยาแก้แพ้มากินก่อน และเริ่มดูคลิปในยูทูปการล้างจมูก เฮ้ยยยยย ทีนี้ไม่สำลักแล้วอ่ะ น้ำไหลอีกข้างและด้วย มันไม่เลวร้ายแบบครั้งแรก ดีขึ้นมากกกก แต่ก็ยังมีอาการบ้าง แต่พอมีอาการก็ล้างจมูกเอา ไม่กินยา มันก็ดีขึ้น แต่มันไม่ดีขึ้น 100% จนวันนึง เราไปหาพี่ที่สนิท แล้วบังเอิญเพื่อนเขามา เพื่อนเขาเป็นหมอ แต่เป็นหมอด้านกระดูก แล้ว....อยากจิกรี๊ด หล่อกระโชกโฮกฮากคร่าา 555 ก็ชวนคุย เขาก็เฟรนลี่ เราก็บอกว่า เรามีปัญหางี้นะ เขาก็ถามว่า เราได้กินผักไหม ออกกำลังกายไหม ห้องมีฝุ่นมั๊ย
เราคิดในใจ เอิ่มม ไม่มีซักอย่างเลย 555
เราก็กลับมาลุย ทำความสะอาดห้อง เสื้อผ้าก็ไม่สะดวกต้ม อาศัยการผสมไฮเตอร์ เคยอ่านเจอว่ามันฆ่าเชื้อโรคได้อยู่ ก็ซักด้วยผงซักฟอกสูตรแอนตี้แบค ของโอโม่ เห็นว่ามันบอกว่าช่วยฆ่าไรฝุ่นด้วย
อ่ะก็เหมือนดีขึ้น เราก็ไปบอกหมอคนนั้น (หาเรื่องคุย แอบปลื้มเขา 555) เขาก็บอกดีใจด้วย แต่ก็แอบมีจาม เขาก็ถามว่าออกกำลังกายสิ กินผักสิ ซึ่งเอาจริงๆ ฉันยี้มาก การกินผัก ออกกำลังกาย มันดีก็จริง แต่ทำใจไม่ได้ คือไม่ชอบ เขาก็แนะนำให้กินคลีน บอกเมนูนั่นนี่ และสูตร
เราก็แอ๊บว่าสนใจ เพื่อหาเรื่องคุยไปงั้น ครั้งต่อมา ด้วยความที่เขาบ้าคลั่งทำอาหารคลีนหนักมาก ก็ถามว่า เมนูนั่น รสชาตเป็นไง ซึ่งเราบอกไม่ตรง เขาก็จับจุดได้ว่าเราโม้ 555 ตอนนั้นคิดว่า เขาคงหมดความเชื่อถือในตัวเรา เพราะเขาไม่ตอบแชท เขาไม่คุยกะเราแบบก่อน นอยด์ค่ะ ทำไงดี คิดๆ เอาวะ ทำอาหารคลีน แล้วส่งรูปให้เขา รสชาติ นั่นนี่ ส่งรูปตอนกินให้ดู เขาก็กลับมาคุย คิดว่าไหนๆก็ไหนๆ ลองสักตั้ง ก็กินอาหารคลีนและเริ่มออกกำลังกาย ออกกำลัง ตอนแรก 10 นาทีก็หอบแล้ว แต่คุณหมอเขาก็ให้กำลังใจ บอกค่อยๆเพิ่มเวลา ก็เพิ่มเวลา ทีละเล็กละน้อย ก็ตอนนี้ก็เต้นแอโรบิค 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ บวกกับการทานคลีน ไม่อุดอู้ในห้อง ออกมาเดินรับแสงแดดยามเช้า สัก5 นาที เชื่อเถอะค่ะ ตอนนี้ร่างกายแข็งแรงมาก ไม่มีอาการอะไรเลย ทุกอย่างมันเริ่มต้นที่เราจริงๆ แรกๆก็ยี้บ้าง สักพักก็ชินเอง ลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ