สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของฉัน เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริงของฉัน ถ้าหากผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ดิฉันตอนนี้ก็อายุจะ 30 แล้วเรื่องนี้เกิดประมาณ 5 ปีก่อน ขอย้อนความก่อนนะค่ะ ดิฉันคบกับแฟนประมาณ 10 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งแต่อายุ 18 ตอนนั้นก็อยู่ ปวชค่ะ ดิฉันกับแฟนอายุห่างกัน 10 ปีค่ะ เรียกว่าห่างกันมากค่ะแฟนก็จะทำงาน เราก็จะเรียน แฟนก็จะเป็นคนส่งเงินให้ใช้ค่ะ ทุก ๆ เดือนค่ะ เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันหรอกค่ะ ฉันก็จะพักที่บ้าน แฟนก็จะพักบ้านที่เค้าซื้อไว้แฟนอยู่คนเดียวเพราะบ้านครอบครัวเค้าจะเข้าไปในซอยลึกมาก จึงจำเป็นต้องซื้อบ้านไว้แฟนก็พาเราไปแนะนำกับครอบครัวเค้า ครอบครัวเค้าก็จะมี แม่ มีแฟน และน้องสาวแฟน ส่วนพ่อแฟนกับพี่ชายของแฟนเสียไปแล้ว ดิฉันก็ไปค้างบ้านของครอบครัวแฟนบ้างแต่เนื่องจากเรายังเด็ก แม่กับน้องสาวแฟนก็ไม่ค่อยชอบเราเหมือนแฟนต้องมาเลี้ยงเราประมาณนี้ จนกระทั้งแม่แฟนป่วยเป็นมะเร็ง ช่วงนั้นฉันก็จบปริญญาและค่ะ แฟนเลยตัดสินใจว่าเราไปอยู่ที่บ้านของแม่กัน อ่อลืมบอกไปว่าแม่แฟนจะห่วงแฟนของเรามากเพราะแฟนเราทำอะไรไม่ค่อยเป็นแม่ต้องทำให้ประมาณนี้ แม่แฟนรักแฟนเรามากกลับดึกแค่ไหนก็จะรอเปิดประตูบ้านให้เสมอ เราทั้งคู่ก็มาพักที่บ้านของแฟน เราไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบอยู่คนเเพราะเราเหมือนเราห่างกับครอบครัวแฟนมาก จนกระทั้งแม่แฟนป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล เราเป็นคนดูแลท่านเองทำทุกๆอย่างจนต้องเลิกทำงาน (ถามว่าทำไมน้องสาวแฟนถึงไม่มาดูน้องสาวแฟนกำลังท้องใกล้คลอดเราจึงต้องมาดูท่านเอง)เราดูแลท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะแม่ชอบจะเพล้อถึงคนนู้นคนนี้ ลืมบอกไปค่ะ เราเป็นคนมานอนเฝ้าแฟนก็มานอนด้วยทุกๆคืน เพราะได้ห้องพิเศษ ท่านชอบเพล้ออยู่บ่อยชื่อมาเต็มไปหมด เราเลยถามแฟนว่ารู้จักไหมที่ท่านเรียกอ่ะ แฟนก็บอกว่าเค้าเสียไปหมดแล้วฉันก็ขนลุกเลยค่ะ แม่จะชอบพูดเยอะ แต่ก็จำพวกเราได้หมดค่ะ อยากกินนู้นก็บอกเราก็ซื้อมาให้ท่านทาน แต่ท่านจะกินน้อยมากเพราะท่านเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ท้องท่านจะโตมากต้องค่อยเรียกพยาบาลมาเจาะน้ำตลอด มีอยู่ครั้งนึงเราก็ดูแลท่านเป็นปกติ ท่านจะบอกท่านปวดฉี่เราก็ต้องหากระโถนให้ท่านนั่ง เราก็ต้องทำความสะอาด ใช้ผ้าเช็คให้ท่านท่านอึก็เช็คก้นให้ท่าน ท่านก็พูดกับเราว่าเออถ้าไม่มีเอ๊งคงแย่ ไม่มีคนทำให้แม่แน่เลยจะใช้แฟนก็ไม่ได้มันเป็นผู้ชาย แต่แม่คงอยู่กับพวกเอ็งไม่นานหรอก ไม่คงไม่ได้อยู่ยันงานแต่งงานของเอ็งกันนะ ฝากลูกแม่ด้วย น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ จนกระทั้งวันที่ท่านใกล้จะเสียจากท่านที่เคยพูดเคยเพล้อกลายเป็นคนเงียบไปเรากับแฟนเห็นท่าไม่ดีเลยเรียกน้องสาวแฟนมานอนด้วยคืนนี้(น้องสาวแฟนคลอดแล้ว)ทุกคนผลัดกันเฝ้าผลัดกันนอนฉันรับอาสาตอนเที่ยงคืน คืนนั้นมีคนนอนอยู่เยอะแต่รู้สึกวังเวงมาก ฉันก็หลับๆ ตื่นๆ กลัวด้วยเพลียด้วย วันนั้นรู้สึกแปลกๆ ไม่กล้าลุกไปดูหน้าท่านเพราะฉันกับแฟนปูเสื่อนนอนด้านล่างเตียงฉันก็อาศัยดูแค่ถุงอ๊อกซีเจนที่มันจะพลุบเข้าพลุบออก เห็นมันยังพลุบก็โอเค เลยหลับสักพักหนึ่งอยู่ดีดีเหมือนมีคนมาสะกิดให้ตื่น ดิฉันก็ก็ง่วยเงี่ยเพราะเป็นคนสายตาสั้นต้องใส่คอนเทคเลน์วันนั้นก็ไม่กล้าถอดใส่นอนเลยขยี้ตาแปปนึงเลยหันไปดูถุงอ๊อกซีเจนอีกที รู้สึกมันไม่มีพลุบมันค่อยๆๆ อ่อนลง ฉันรีบเรียกเรียกแม่ด้วยเสียงดั่งทุกคนเลยตื่น แม่ค่อยๆ จากเราไปเสียงระงมร้องไห้ดั่งห้องพิเศษ พยาบาลเข้ามาดูพยาบาลบอกท่านไปแล้ว ทุกคนกำลังร้องให้ฉันหันไปเห็นนาฬิกาตอนนั้นเป็นช่วงเวลา 6.00 น พอดีฉันก็หันไปเห็นเงาขาวๆ จากปลายเท้าท่าน เลยเรียกแฟนบอกเห็นเงาขาวๆ แฟนเลยร้องให้บอกแม่คงไปสบายแล้ว
จนกระทั่งบ่ายสามเราก็พาท่านกลับบ้าน (คนชนบทจะตั้งสวดศพไว้ที่บ้าน) เหตุการณ์ก็ผ่านไปปกติ ทุกคนก็ไม่เคยเจออะไร จนเผาเสร็จ ก็ต้องมาเก็บกระดูกมาอุทิศส่วนกุศล วันนั้นเราก็นอนบ้านท่าน ลืมบอกไปว่าบ้านชนบทเค้าจะไม่มีห้องนอนมีก็แค่ห้องเดียวคือห้องน้องสาวเค้า ฉันกับแฟนต้องนอนมุ้งข้างหน้าต่างมันเย็นดี กางมุ้งก็รู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูกเลยบอกแฟนว่าอยากกลับบ้าน แฟนบอกแค่วันเดียวพรุ่งนี้ต้องตื่นจ่ายตลาดแต่เช้า เราก็โอเคค่ะ เราเลยบอกแฟนว่าวันนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฟนเลยเอาพระไม่ห้อยคอให้ เราก็อุ่นใจบอกตรงๆโคตรกลัว แต่แฟนเลยเรียกเด็กๆ มานอนเป็นเพื่อนเราอีกสองคนเป็นหลานแฟน เราต้องถอดคอนแทคเลน์นอน หลับไปสักพักรู้สึกร้อนมากเหงื่อยแต่เลยลุกหันไปดูหลาน ว่าห่มผ้าไหม แต่เอะทำไมไม่ใช่หลาน เห็นแม่มานอนข้างๆ เราตัวดำปี้เลย เหมือนกับตอนท่านใกล้เสียเราหันกลับ เราคิดว่าตาคงฟาดเพราะสายตาสั้นเลยหั่นกลับไปดูอีกทีไม่ใช่ค่ะเป็นท่านแน่ เราเลยกริ้ดออกมา แฟนเราถามเป็นอะไร บอกเห็นแม่มากลัวๆๆๆ ร้องไห้จนถึงเช้าไม่กล้านอนเลยค่ะ
ครอบครัวแฟน!!!!
ดิฉันตอนนี้ก็อายุจะ 30 แล้วเรื่องนี้เกิดประมาณ 5 ปีก่อน ขอย้อนความก่อนนะค่ะ ดิฉันคบกับแฟนประมาณ 10 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งแต่อายุ 18 ตอนนั้นก็อยู่ ปวชค่ะ ดิฉันกับแฟนอายุห่างกัน 10 ปีค่ะ เรียกว่าห่างกันมากค่ะแฟนก็จะทำงาน เราก็จะเรียน แฟนก็จะเป็นคนส่งเงินให้ใช้ค่ะ ทุก ๆ เดือนค่ะ เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันหรอกค่ะ ฉันก็จะพักที่บ้าน แฟนก็จะพักบ้านที่เค้าซื้อไว้แฟนอยู่คนเดียวเพราะบ้านครอบครัวเค้าจะเข้าไปในซอยลึกมาก จึงจำเป็นต้องซื้อบ้านไว้แฟนก็พาเราไปแนะนำกับครอบครัวเค้า ครอบครัวเค้าก็จะมี แม่ มีแฟน และน้องสาวแฟน ส่วนพ่อแฟนกับพี่ชายของแฟนเสียไปแล้ว ดิฉันก็ไปค้างบ้านของครอบครัวแฟนบ้างแต่เนื่องจากเรายังเด็ก แม่กับน้องสาวแฟนก็ไม่ค่อยชอบเราเหมือนแฟนต้องมาเลี้ยงเราประมาณนี้ จนกระทั้งแม่แฟนป่วยเป็นมะเร็ง ช่วงนั้นฉันก็จบปริญญาและค่ะ แฟนเลยตัดสินใจว่าเราไปอยู่ที่บ้านของแม่กัน อ่อลืมบอกไปว่าแม่แฟนจะห่วงแฟนของเรามากเพราะแฟนเราทำอะไรไม่ค่อยเป็นแม่ต้องทำให้ประมาณนี้ แม่แฟนรักแฟนเรามากกลับดึกแค่ไหนก็จะรอเปิดประตูบ้านให้เสมอ เราทั้งคู่ก็มาพักที่บ้านของแฟน เราไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบอยู่คนเเพราะเราเหมือนเราห่างกับครอบครัวแฟนมาก จนกระทั้งแม่แฟนป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล เราเป็นคนดูแลท่านเองทำทุกๆอย่างจนต้องเลิกทำงาน (ถามว่าทำไมน้องสาวแฟนถึงไม่มาดูน้องสาวแฟนกำลังท้องใกล้คลอดเราจึงต้องมาดูท่านเอง)เราดูแลท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะแม่ชอบจะเพล้อถึงคนนู้นคนนี้ ลืมบอกไปค่ะ เราเป็นคนมานอนเฝ้าแฟนก็มานอนด้วยทุกๆคืน เพราะได้ห้องพิเศษ ท่านชอบเพล้ออยู่บ่อยชื่อมาเต็มไปหมด เราเลยถามแฟนว่ารู้จักไหมที่ท่านเรียกอ่ะ แฟนก็บอกว่าเค้าเสียไปหมดแล้วฉันก็ขนลุกเลยค่ะ แม่จะชอบพูดเยอะ แต่ก็จำพวกเราได้หมดค่ะ อยากกินนู้นก็บอกเราก็ซื้อมาให้ท่านทาน แต่ท่านจะกินน้อยมากเพราะท่านเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ท้องท่านจะโตมากต้องค่อยเรียกพยาบาลมาเจาะน้ำตลอด มีอยู่ครั้งนึงเราก็ดูแลท่านเป็นปกติ ท่านจะบอกท่านปวดฉี่เราก็ต้องหากระโถนให้ท่านนั่ง เราก็ต้องทำความสะอาด ใช้ผ้าเช็คให้ท่านท่านอึก็เช็คก้นให้ท่าน ท่านก็พูดกับเราว่าเออถ้าไม่มีเอ๊งคงแย่ ไม่มีคนทำให้แม่แน่เลยจะใช้แฟนก็ไม่ได้มันเป็นผู้ชาย แต่แม่คงอยู่กับพวกเอ็งไม่นานหรอก ไม่คงไม่ได้อยู่ยันงานแต่งงานของเอ็งกันนะ ฝากลูกแม่ด้วย น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ จนกระทั้งวันที่ท่านใกล้จะเสียจากท่านที่เคยพูดเคยเพล้อกลายเป็นคนเงียบไปเรากับแฟนเห็นท่าไม่ดีเลยเรียกน้องสาวแฟนมานอนด้วยคืนนี้(น้องสาวแฟนคลอดแล้ว)ทุกคนผลัดกันเฝ้าผลัดกันนอนฉันรับอาสาตอนเที่ยงคืน คืนนั้นมีคนนอนอยู่เยอะแต่รู้สึกวังเวงมาก ฉันก็หลับๆ ตื่นๆ กลัวด้วยเพลียด้วย วันนั้นรู้สึกแปลกๆ ไม่กล้าลุกไปดูหน้าท่านเพราะฉันกับแฟนปูเสื่อนนอนด้านล่างเตียงฉันก็อาศัยดูแค่ถุงอ๊อกซีเจนที่มันจะพลุบเข้าพลุบออก เห็นมันยังพลุบก็โอเค เลยหลับสักพักหนึ่งอยู่ดีดีเหมือนมีคนมาสะกิดให้ตื่น ดิฉันก็ก็ง่วยเงี่ยเพราะเป็นคนสายตาสั้นต้องใส่คอนเทคเลน์วันนั้นก็ไม่กล้าถอดใส่นอนเลยขยี้ตาแปปนึงเลยหันไปดูถุงอ๊อกซีเจนอีกที รู้สึกมันไม่มีพลุบมันค่อยๆๆ อ่อนลง ฉันรีบเรียกเรียกแม่ด้วยเสียงดั่งทุกคนเลยตื่น แม่ค่อยๆ จากเราไปเสียงระงมร้องไห้ดั่งห้องพิเศษ พยาบาลเข้ามาดูพยาบาลบอกท่านไปแล้ว ทุกคนกำลังร้องให้ฉันหันไปเห็นนาฬิกาตอนนั้นเป็นช่วงเวลา 6.00 น พอดีฉันก็หันไปเห็นเงาขาวๆ จากปลายเท้าท่าน เลยเรียกแฟนบอกเห็นเงาขาวๆ แฟนเลยร้องให้บอกแม่คงไปสบายแล้ว
จนกระทั่งบ่ายสามเราก็พาท่านกลับบ้าน (คนชนบทจะตั้งสวดศพไว้ที่บ้าน) เหตุการณ์ก็ผ่านไปปกติ ทุกคนก็ไม่เคยเจออะไร จนเผาเสร็จ ก็ต้องมาเก็บกระดูกมาอุทิศส่วนกุศล วันนั้นเราก็นอนบ้านท่าน ลืมบอกไปว่าบ้านชนบทเค้าจะไม่มีห้องนอนมีก็แค่ห้องเดียวคือห้องน้องสาวเค้า ฉันกับแฟนต้องนอนมุ้งข้างหน้าต่างมันเย็นดี กางมุ้งก็รู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูกเลยบอกแฟนว่าอยากกลับบ้าน แฟนบอกแค่วันเดียวพรุ่งนี้ต้องตื่นจ่ายตลาดแต่เช้า เราก็โอเคค่ะ เราเลยบอกแฟนว่าวันนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฟนเลยเอาพระไม่ห้อยคอให้ เราก็อุ่นใจบอกตรงๆโคตรกลัว แต่แฟนเลยเรียกเด็กๆ มานอนเป็นเพื่อนเราอีกสองคนเป็นหลานแฟน เราต้องถอดคอนแทคเลน์นอน หลับไปสักพักรู้สึกร้อนมากเหงื่อยแต่เลยลุกหันไปดูหลาน ว่าห่มผ้าไหม แต่เอะทำไมไม่ใช่หลาน เห็นแม่มานอนข้างๆ เราตัวดำปี้เลย เหมือนกับตอนท่านใกล้เสียเราหันกลับ เราคิดว่าตาคงฟาดเพราะสายตาสั้นเลยหั่นกลับไปดูอีกทีไม่ใช่ค่ะเป็นท่านแน่ เราเลยกริ้ดออกมา แฟนเราถามเป็นอะไร บอกเห็นแม่มากลัวๆๆๆ ร้องไห้จนถึงเช้าไม่กล้านอนเลยค่ะ