จากมติชนออนไลน์
2 มิ.ย.-พระมหาน้อม นมการี เจ้าคณะอำเภอเมืองบึงสามัคคี เจ้าอาวาสวัดก้องประชาราษฎร์ จ.กำแพงเพชร ให้สัมภาษณ์กรณีพระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) ทำหนังสือเรื่อง "การเตรียมกฎหมายเก็บภาษีพระและตรวจสอบทรัพย์สินของวัด" ถึงเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อให้ตอบแบบตอบรับความคิดเห็นส่งถึงนายกรัฐมนตรี ภายหลังนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้รายงานแนวทางปฏิรูปพระพุทธศาสนาต่อ สปช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) นำไปศึกษาและส่งรายงานกลับภายใน 30 วัน หรือ 12 มิถุนายน ว่า
การส่งความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏิรูปฯ ไปยังนายกรัฐมนตรี อาตมามองว่าไม่ใช่หนทางที่ถูก อาจเป็นการส่งความคิดเห็นกลืนเข้าท้องช้าง เพราะ ครม.มอบให้ พศ.นำแนวทางปฏิรูปฯดังกล่าว ไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ ดังนั้นการส่งหนังสือไปยังนายกฯ อาจถูกเรื่อง แต่ไม่ถูกคน อาตมามองว่าควรส่งไปที่ พศ.เพื่อให้ พศ.รวบรวมความคิดเห็นแนวทางปฏิรูปศาสนาจากพระสงฆ์ทั่วประเทศ ส่งรายงานไปยัง ครม.
"ส่วนเรื่องที่เจ้าอาวาสต้องมีวาระ 5 ปีนั้น ถ้าคณะผู้ปกครองมีอคติ อาจมีการสั่งย้ายเจ้าอาวาสที่อยู่ในสังกัดตนไปอยู่ในวัดที่เจริญ ในทางกลับกันเจ้าอาวาสที่ไม่มีผลงาน อาจถูกสั่งย้ายไปอยู่วัดที่กันดาร อาตมาจึงคิดว่าถ้ามีการออกกฎหมายดังกล่าว จะเกิดปัญหาเรื่องเลือกที่รักมักที่ชัง ในอนาคตถ้าพระเข้าไม่ถึงแก่น ยึดแต่เปลือก ศาสนาอาจคลอนแคลน ถ้าพระเข้าถึงแก่นพระศาสนา ไม่ว่าจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสที่ไหน ก็อยู่ได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งวัดอยู่ได้จากศรัทธาของญาติโยมที่มาทำบุญในวัด" พระมหาน้อม กล่าว
หวั่นเลือกที่รักมักที่ชัง-ทำศาสนาคลอนแคลน! ปมโยกเจ้าอาวาสทุก5ปี "มหาน้อม"เป็นห่วง
2 มิ.ย.-พระมหาน้อม นมการี เจ้าคณะอำเภอเมืองบึงสามัคคี เจ้าอาวาสวัดก้องประชาราษฎร์ จ.กำแพงเพชร ให้สัมภาษณ์กรณีพระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) ทำหนังสือเรื่อง "การเตรียมกฎหมายเก็บภาษีพระและตรวจสอบทรัพย์สินของวัด" ถึงเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อให้ตอบแบบตอบรับความคิดเห็นส่งถึงนายกรัฐมนตรี ภายหลังนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้รายงานแนวทางปฏิรูปพระพุทธศาสนาต่อ สปช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) นำไปศึกษาและส่งรายงานกลับภายใน 30 วัน หรือ 12 มิถุนายน ว่า
การส่งความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏิรูปฯ ไปยังนายกรัฐมนตรี อาตมามองว่าไม่ใช่หนทางที่ถูก อาจเป็นการส่งความคิดเห็นกลืนเข้าท้องช้าง เพราะ ครม.มอบให้ พศ.นำแนวทางปฏิรูปฯดังกล่าว ไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ ดังนั้นการส่งหนังสือไปยังนายกฯ อาจถูกเรื่อง แต่ไม่ถูกคน อาตมามองว่าควรส่งไปที่ พศ.เพื่อให้ พศ.รวบรวมความคิดเห็นแนวทางปฏิรูปศาสนาจากพระสงฆ์ทั่วประเทศ ส่งรายงานไปยัง ครม.
"ส่วนเรื่องที่เจ้าอาวาสต้องมีวาระ 5 ปีนั้น ถ้าคณะผู้ปกครองมีอคติ อาจมีการสั่งย้ายเจ้าอาวาสที่อยู่ในสังกัดตนไปอยู่ในวัดที่เจริญ ในทางกลับกันเจ้าอาวาสที่ไม่มีผลงาน อาจถูกสั่งย้ายไปอยู่วัดที่กันดาร อาตมาจึงคิดว่าถ้ามีการออกกฎหมายดังกล่าว จะเกิดปัญหาเรื่องเลือกที่รักมักที่ชัง ในอนาคตถ้าพระเข้าไม่ถึงแก่น ยึดแต่เปลือก ศาสนาอาจคลอนแคลน ถ้าพระเข้าถึงแก่นพระศาสนา ไม่ว่าจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสที่ไหน ก็อยู่ได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งวัดอยู่ได้จากศรัทธาของญาติโยมที่มาทำบุญในวัด" พระมหาน้อม กล่าว