กระแสผีมา...เล่ามั่ง

กระทู้สนทนา
บอกก่อนนะว่า เรื่องไม่ตื่นเต้น ฮอตมากๆ แบบหลายๆกระทู้ แต่มั่นใจว่าเจอจริง มั่นใจแบบ สงสัยตัวเองเหมือนว่าใช่มั้ย
ไม่เคยโดนหนักๆ นะคะ ไม่อยากโดนด้วย

ไม่เช็คเรตติ้งนะฮ่ะ เล่าทีเดียวยาว

เรื่องที่ 1
---พาร์ทแรก---
ย้อนไปสิบกว่าปี ฝึกงาน รพ แห่งหนึ่งใน สุพรรณบุรี
พี่ที่ฝึกงานให้เรากับเพื่อนๆ รวมทั้งหมด สี่ชีวิต(จากสองมหาลัย) พักตึกใหม่
(ไม่แน่ใจว่าตึกโรงพยาบาลรับผู้ป่วยในอนาคต หรือจะเอาไว้สำหรับหอพักบุคลากรทางการแพทย์กันแน่)
มันจะแยก ออกจาก หมู่ตึกโรงพยาบาลที่มี อีกหลายๆ ตึกมาเลย
ในห้องพักจะคล้ายๆ คอนโดแบบสตูดิโอ (อนาคตถ้าเป็นหอพักผู้ป่วย คงอารมณ์ ห้องพิเศษ)
เปิดประตูเจอห้องน้ำขวามือ ซ้ายมือเป็นบาร์เล็กๆ
ถัดเข้าไป เป็น เตียง เตียงแบบเตียงผู้ป่วยเลย สองเตียง สรุปแล้วคือ นอนห้องละสองคน
ถัดไปเป็นหน้าต่าง(ประตู)บานกว้างๆ แบบกว้างจากผนังด้านหนึ่งไปผนังด้านหนึ่งเลย
เป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบประตูใหญ่ๆ เดินออกไประเบียงได้
นึกภาพออกเนาะ
แล้งมันมีม่านสีขาวๆบางๆ ไว้กรองแสง ที่หน้าต่าง ใหญ่ทั้งผนังเลย
มีแอร์ให้ตัวนึง

พี่ให้พัก ก็พัก ที่พักใหม่ด้วย เลยไม่คิดอะไร
คืออารมณ์เรามาจากบ้านนอก ห้องสวยๆ นี่มันสตูดิโอแบบคอนโดหรูๆ (ตอนนั้น) ชัดๆ ฟินกันไป
ตึกรู้สึกจะสี่ชั้นไม่ได้นับ
ห้องจะแนวเดียวกันยาวไปทั้งชั้น มีโถงด้านซ้ายตึกเป็นโถงลิฟ โถงบันได
(คือถ้าเคยไป รพ มันจะออกแบบมาแนวนี้เหมือนๆ กันหมด)
ถัดจากโถง จะเป็นประตูกระจกบานใหญ่ๆ กั้นระหว่างโถงกับโซนที่เป็นห้องพัก
โอเคร เราได้ชั้น สอง ห้องจำไม่ได้ อีกห้องถัดก็ห้องเพื่อน
เข้าที่พัก เช็คห้อง เปิดระเบียง ดูลูกบิด ดูล็อค ดูว่าประตูเปิดปิดยังไง ตามนิสัย
(คือเราเที่ยวบ่อย ค้างที่นู้นที่นี่บ่อย จะเช็คของพวกนี้ก่อนอันดับแรก)
เก็บของ ก็ไปฝึกงาน

ตอนเย็นไปหาข้าวกินที่ตลาดในตัวอำเภอ อาหารอร่อย บรรยากาศดี ฟินกันไป
ซื้ออาหารน้ำ ติดมือมา แช่ตู้เย็นในห้อง (มีเฉพาะห้องเรา พี่ยกมาให้ตอนหลังใช้สี่คน)
ที่มีเฉพาะห้องเราเพราะห้องอื่นทั้งตึก คือ ว่างไง ไม่มีใครอยู่ จะมีตู้เย็นไปทำไม
สำรวจห้องอื่นๆ ในชั้นก็ถูกล็อคกุญแจแบบสายยู ที่หน้าประตูห้องเลย  ไม่ใช่ล็อคลูกบิดจากในห้อง
พี่ให้กุญแจประตูใหญ่ ชั้นสองที่กั้นโถงไว้ คือ มันจะประตูเหล็กดึงลงมาได้ เราก็ปิดกันตามปกติ มั่นใจระดับหนึ่งว่าปลอดภัย
เด็กสี่คน รวมตัวกัน ตอนแรกก็อ่านหนังสือ ทำการบ้านที่พี่ฝึกงานให้มา เตรียมท่อง อะไรว่าไป จนสักห้าทุ่ม
ก็ปิดประตูระเบียง ปิดม่าน เปิดแอร์นอน เราก็สังเกตแล้วว่า
ผ้าม่านมันกระพือๆ เผยิบผยาบนะ แต่ไม่คิดไร คือว่าลมอาจลอดช่องประตูกระจก
แล้วก็ทะยอยหลับ อ่อ คืนนี้ นอนรวมเลย ห้องเดียวสีคน ปูผ้าปูพื้นว่ากันไป

เราก็หลับที่พื้น นอนตะแคงหันหลังให้ประตูกระจกที่ติดระเบียงอ่ะ หันหน้าเข้าเตียง (ก็จะเป็นใต้เตียง)
เพื่อนนอนบนเตียง สองคน อีกคนนอนพื้นกับเรา แต่ด้านข้างเตียง คือเราหันหน้าให้เพื่อนคนนี้
แล้วเพื่อนคนนี้หันหน้าให้เราก็จะหันหน้าให้ประตูระเบียงด้วย
หลับไปสักพักก็ตื่น เพราะ รู้สึกจริงๆ ว่าเหมือนมีคนมองอยู่ข้างหลัง
ก็ทำเนียน ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ คว้ามือถือด้วย เปิดไฟห้องน้ำ เนียนฉี่ว่ากันไป แบบไม่ยอมหันไปมองข้างหลังเลย
พอจะออกจากห้องน้ำ ตั้งสติเลย เผื่อเห็น ในใจ ยังไม่คิดถึงผีนะ คิดถึงโจร
แต่พอคิดถึงโจรจะแบบตั้งคำถามในใจเข้ามาทางด้านไหน เปิดประตูระเบียงเข้ามาเหรอ มันต้องได้ยินเสียงประตูเลื่อนสิ หรือเข้ามาทางอื่น
แต่อย่างน้อย คือ โจรยังไม่ลงมืออ่ะ เอาเป็นว่า อย่างน้อยสามารถลุกเข้าห้องน้ำไม่โดนปาดคอตายไปก่อนละว่ะ
มือถือ นี่เตรียมโทรหาพี่ที่ดูแลแล้วถ้ามีอะไรจริงๆ

เปิดปุ๊ป แสงไฟจากห้องน้ำลอดออกมา เห็นห้องสลัวๆ คือไม่มีใคร เพื่อนก็นอนปกติสามคน
เราก็เงียบๆ ไม่อยากกระโตกกระตาก ให้กลัว
ก็ทำเนียนเปิดไฟท้ายเตียง (มันจะมีโต๊ะ มีโคมไฟ) ทำท่าว่าหยิบชีทไรงี้ เอามานั่งอ่านที่พื้น
เลยสังเกตว่า เพื่อนที่นอนพื้น (หันหน้าให้ประตู มันตื่นแล้ว ลืมตาแบบเงียบๆ)
สักพักแบบ ยังรู้สึกตลอดเลยนะว่า มีคนจ้อง ก็ชวนเพื่อนคุย เพื่อนก็อือๆ คุยกันเงียบๆ
แล้วก็ทำท่าว่าอ่านชีทจบล่ะ บอกเพื่อน นอนดีกว่า
แล้วลุกทำทีไปปิดประตู (คือกะเช็ค) ดูล็อคประตูอีกทีว่ามันล็อครึเปล่า (ตามประสาเด็กคิดอ่ะนะ)
ทำใจไว้เลยเผื่อเจอใครยืนที่ระเบียงข้างนอก
ประตูก็ล็อกดี ข้างนอกไม่มีใคร ตรวจประตูทั้งแผงอ่ะ ทำเป็นคุยกะเพื่อนอ่ะว่าผ้าม่านสวยเนาะ น่าจะแพง เหมือนบ้านหรูๆ
แล้วก็เนียน ลูบผ้าม่านอ่ะ (ทำไปได้) ตอนลูบนี่เพื่อนลุกขึ้นนั่งจ้องเลย เราก็แบบ คิดในใจไม่มีไรนี่หว่า สงสัยแปลกที่
(แต่ปกติเราเป็นคนหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายนะ ยิ่งมีแอร์เย็นๆ เป่า หลับสบายเลย)
ตัดประเด็นโจรไป จากสงสัย 100% เหลือ 50% ยังไม่สนิทใจ เป็นการระวังตัวเองไปในตัว
เพื่อนกับเราที่นอนพื้นก็นอนกันรอบสอง พร้อมไฟสลัวๆ จากห้องน้ำ

หลับไปสักพักเลย อาการเหมือนผีอำแหละ
ในสมองนี่คิดเลย สงสัยเครียด เหนื่อย ตะกี้ยังหวั่นใจเรื่องโจรด้วย คงยิ่งทำให้เครียด เลยไม่ได้ขัดขืน แบบ เออ อำ ก็อำ
แล้วอยู่ๆก็ รู้สึกหนาวๆ คือผ้าห่มมันเลื่อนอ่ะ แหม...ในใจก็แบบ เอาแล้ว หรือจะ....จริงๆ
แต่คือ ง่วงมากไง เหนือยมาก เป็น....จริงๆ เหรอ ในใจก็คิดแบบ คืออย่ากวนได้มั้ย เหนื่อยมากนะ พรุ่งนี้ต้องไปดูผู้ป่วยอีก
แล้วเหมือนหลุดจากอาการโดนอำอ่ะ ก็พลิกตัวหันหน้าให้ประตูที่ติดระเบียง (คือ ในใจตอนนั้นไม่กลัวเรื่อโจรแล้ว)
ก็เห็นเท้าคนอ่ะ ลอดจากขอบผ้าม่าน ก็ไล่ตาดู ดูระยะ ดูความนูนของผ้าม่านไม่มีไง เหมือนไม่มีคน ยืนแอบในผ้าม่าน โอเค ไม่ใช่โจร
ดึงผ้าห่มมาคลุมงั้นนอนต่อล่ะ...

เช้ามาก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะคิดสงสัยว่า หลับหรือตื่นหรือฝันหรือละเมอ
แต่ก็อธิษฐานไปแล้ว ว่าถ้าสะดวกๆ กลับมหาลัยเมื่อไหร่จะทำบุญล่ะ
พออีกคืนนอนบนเตียงกะเพื่อน(มหาลัยเดียวกัน)แล้ว
อีกสองคนไปนอนอีกห้องตามปกติ ซึ่งอีกห้องนั้นจะเป็นเพื่อนที่นอนพื้นกะเราในคืนแรกด้วย
ส่วนเราแบบ เอ่อ นอนล่ะ หัวถึงหมอน คร่อก ลืมกลัวแล้วด้วย

พอเช้าอีกวัน เพื่อนคนที่เคยนอนพื้นกะเรา บอกขอเปลี่ยนที่อยู่เลย พี่ก็งงๆ เอ้า งั้นไปนอนอีกบ้าน

---จบพาร์ทแรก---
ไม่มีใครพูดเรื่องนี้กัน แล้วเราก็ไม่รู้เล่าไปทำไม จนกระทั่งมาเจอกันอีกทีตอนเรียนจบได้สักพัก ไปงานแต่งงานเพื่อนคนที่นอนพื้นกับเรา
เจ้าสาว(คนที่นอนพื้นนั่นแหละ) เปิดประเด็นเล่าเลย ว่า มี....ในห้องที่นอนรวมกันคืนแรก
เห็น...ยืนอยู่ที่ผ้าม่าน ดีใจมากที่เราตื่นตอนนั้น แต่ตกใจมากที่เราจะไปปิดประตู(อีกที) แต่เหมือนไม่มีอะไร
คือ...ยืนเฉยๆ ทั้งคืนจนกระทั่งเจ้าสาวเผลอหลับไปเอง เลยเงียบๆ ไม่ได้อะไรมาก
เราฟังนี่...ไม่เฉยนะ มีอำเราด้วย อิอิ เอ๊ะหรือว่าเหนื่อยจริงๆ ร่างกายเลยล้าไปเอง เอ๊ะหรือว่ามี...อีกหลายๆ...

แต่พอคืนที่สอง ที่นอนแยกกันแล้ว เหมือนเจ้าสาวจะโดนหนัก
อาบน้ำ ก็เหมือนโดนล็อกห้องไม่ให้ออกทั้งที่ไม่มีล็อกประตู
(เป็นแนวคิดแบบ รพ ประตูห้องน้ำถ้าไม่มีล็อคได้จะดีมาก เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย เผื่เป็นลมเป็นแล้งในห้องน้ำ)
พอจะนอนก็โดนกระชากลงจากเตียง ฟกช้ำกันไป
คือไม่เหมือนคืนแรก ถ้าแบบคืนแรกก็ว่าจะพอๆ ทนอยู่ได้

--- พาร์ทสอง ---
เปลี่ยนมาอยู่บ้านหลังนึง คราวนี้บ้านอยู่ด้านหน้า รพ เกือบๆ ติดถนนเป็นบ้านไม้สองชั้น
หนักกว่าเก่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มีตุ๊กแกเป็นเพื่อนตรงหัวนอนไม่รู้วันดีคืนดี จะกระโดดตุ๊บมาบนมุ้งมั้ย ไล่ไงก็ไม่ไป หลอนกว่า....อีก
เพราะ เนื้อๆ เน้นๆ
แต่อันนี้โดนแบบคลาสสิก ประสาบ้านไม้ ตกกลางคืนกระดานก็ลั่นเอี้ยดอ้าด
วิทยาศาสตร์จ๋ามาเลยค่ะ การหดตัวของแผ่นกระดานไม้สินะเคอะ
ไม่เท่ากับ
ชั้นล่างจะมีทีวี ที่เราทั้งสี่ไม่ดู แต่มีโซฟาหนังสังเคราะห์เก่าๆ อยู่ ก็มักจะนั่งเล่นกันก่อนจะขึ้นไปนอน
ด้านหลังทีวี มันจะเป็นบันไดไม้ขึ้นชั้นสอง บันได แบบ มองเห็นระหว่างขั้น
ด้านขวาของทีวีเป็นทางไปครัว (ที่เราไม่เคยเหยียบเลยปิดประตูแบบไม่เคยเปิดออกเลย)
ถัดประตูครัวเป็นประตูห้องน้ำ (ประตูห้องน้ำก็จะถัดจากโซฟานี่แหละ)
วันที่สาม ย้ายของ...มาบ้านนี้ สวรรค์ล่มอ่ะ จากห้องหรูๆ มาอยู่บ้านไม้เก่าๆ แถมตุ๊กแกด้วย
ห้องนอนคราวนี้ ยาว มีพี่มาขนฟูกให้ 3.5 ฟุต สี่ฟูก พร้อมมุ้ง แอร์ไม่มี ว่ะฮ่ะฮ่ะ
แต่เอ้า เพื่อนย้ายก็ย้าย (ตอนนั้นไม่รู้สาเหตุไง)
คืนที่สาม ปกติมากสำหรับเรา นอกจากลงมือทำความสะอาดบ้านทั้งหลังคนเดียว กลางคืนก็หลับเป็นตายเลย
(คือเพื่อนอีกสามคน เค้าจะแนวคุณหนูหน่อยๆ นิสัยดีนะ เห็นท่าถูพื้นแล้วแบบทั้งคืนไม่เสร็จแน่ๆ มาตูทำเอง พรึ่บ เสร็จ)
มีระหว่างที่นั่งเมาท์ที่โซฟา ก็มีมานั่งยองๆ ตรงบันไดขั้นบนสุดแล้วชะโงกหน้ามามอง ให้สะดุ้ง แบบ เอ๊ะ หรือตาฝาด
นอนต้องเปิดหน้าต่าง ขอลม หน่อย
พอคืนที่สี่ ก็แบบ
มีนั่งตรงหน้าต่าง
มีมาเดินวนรอบๆมุ้ง
ในใจก็แบบ สงสัย ...จะสงสัยว่ามีใครมานอน ไม่ก็เป็นห่วงบรรดาเราสี่คนแหงๆ
ก็แบบ มาฝึกงาน ขออาศัยหน่อยนะคะ เดือนสองเดือนก็กลับบ้านแล้ว
ทุกเช้าก็ทำบุญสิค่ะ จะรออะไร ฮ่ะๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่