ทุกวันนี้การเรียนแค่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองดูเหมือนจะไม่พอซะแล้ว พ่อแม่หลายๆคนปลูกฝังให้ลูกมีความสามารถในภาษาที่สามเพิ่มเติม และหลายๆคนเองก็มีความสนใจเองอยู่แล้วด้วย ถึงตัดสินใจเรียนภาษาที่สามเพิ่มเติมกัน เราเลยอยากจะชวนคุยหน่อยว่าแต่ละคนเรียนภาษาอะไรกันอยู่บ้าง และรายละเอียดอื่นๆที่น่าสนใจและน่านำมาแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับการเรียนภาษานั้นๆ มีข้อแม้นิดนึงว่าเอาแบบที่ไปเสาะหาเรียนเองนอกจากการเรียนศิลป์ภาษาในการเรียนสายสามัญนะ เราอยากได้เคสที่ไปขวนขวายเรียนเพิ่มเองจริงๆนอกหลักสูตรกระทรวงน่ะ เราถามเป็นข้อๆละกัน น่าจะเล่าได้ง่ายกว่า
1. เรียนภาษาอะไร
2. แรงจูงใจในการเลือกเรียนภาษานี้คืออะไร
3. เรียนด้วยตัวเองหรือเรียนกับสถาบันไหน (จะรีวิวสถาบันเลยก็ได้นะ เพื่อมีใครสนใจอยากเรียนเขาจะได้ใช้ช่วยตัดสินใจ)
4. ใช้ตำราหรือสื่อสารสอนอะไรเพิ่มเติมบ้าง ซื้อหาจากไหน
5. มีปัญหาอะไรมั้ยในการเรียน
6. มีเคล็ดลับอะไรในการเรียนภาษาบ้าง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาละ เรามาตอบของเราก่อนดีกว่า จะได้รู้ว่าเรากำลังเรียนอะไรอยู่และเรียนยังไง
1. ภาษาฮินดี
2. เหตุผลหลักเลยคือบ้าหนังอินเดีย ความจริงการดูหนังอินเดียส่วนมากมันมีซับอังกฤษนะ ซึ่งเราใช้ได้ดีไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่พวกรายการสัมภาษณ์ที่เป็นคลิปต่างๆในยูทิวบ์เขาก็พูดปนกันทั้งอังกฤษและฮินดี บางรายการก็ฮินดีล้วนเลย เราก็เลยอยากจะฟังให้รู้เรื่อง จะได้ฟินกับดาราโปรดได้แบบไม่สะดุด เหตุผลรองคือมีแฟนเป็นคนอินเดีย ซึ่งก็คุยกันด้วยอังกฤษมาตลอดอยู่แล้ว ไม่เคยคิดจะเรียนมาก่อน เขาก็ไม่คิดจะสอน แต่เรียนติดไว้ก็ดี ญาติๆเขาจะได้ปลื้มที่เราพูดได้ฟังออก
3. เราเรียนกับสมาคมไทย-ภารต แถวราชดำเนิน ค่าเรียนแค่ร้อยเดียวเท่านั้น เขาจะแบ่งเป็นสามระดับ เริ่มต้น กลาง สูง เรียนทุกวันอาทิตย์ บ่ายโมงถึงบ่ายสี่ มีเอกสารประกอบการเรียนให้ด้วย เรียนเน้นไปทางการฟังและการพูด บทสนทนา คำศัพท์ที่ใช้บ่อย และการเขียนตัวเทวนาครี อาจารย์ที่สอนเป็นชาวไทยเชื้อสายอินเดีย สอนใช้ได้ เป็นกันเอง เพื่อนๆร่วมคลาสก็น่ารักดี
4. ใช้ตามที่อาจารย์แจกให้และปรินท์แบบฝึกคัดมาเอง นอกนั้นก็ฝึกกับคลิปสอนในยูทิวบ์ ฝึกฟังกับหนัง และฝึกพูดกับแฟน ฝึกพูดทีไรโดนแซวตลอดว่าสำเนียงเหมือนหญิงชาวบ้านจากรัฐพิหาร ฮ่าๆ ถือเป็นคำชมแล้วกันว่าพูดเหมือนคนท้องถิ่น
5. ยังจำตัวอักษรไม่ค่อยได้เลย จำได้แค่ประมาณสิบตัวแรก หลังจากนั้นมั่วๆแล้ว คือให้เขียนเรียงไปแบบเอบีซีดี เขียนได้นะ จำรูปลักษณ์และลำดับได้ อะไรมาก่อนหลัง ตัวไหนต่อจากตัวไหนงี้จำได้ แต่ให้อ่านออกเสียงไปด้วยนี่จะมั่ว หรือให้คนพูดมาตัวนึงแล้วให้เราเขียนรูปลักษณ์ให้ดู จะเขียนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเสียงนี้คือรูปไหน ความจริงเราตั้งใจเอาแค่ทักษะฟังพูดด้วยไง ไว้ดูหนังหรือฟังสัมภาษณ์ ดูงานประกาศรางวัลต่างๆ อย่างพวกแมกกาซีนดาราต่างๆหรือแมกกาซีนหัวนอกฉบับอินเดียก็ใช้อังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว การเขียนและอ่านเลยไม่จำเป็นสำหรับเรา แต่เวลาแชทกับคนอินเดีย เขาก็จะพิมพ์ hinglish กัน เหมือนคนไทยพิมพ์คาราโอเกะนั่นแหละ เราอยากพิมพ์อันนี้ได้ซะมากกว่าเขียนตัวฮินดีได้อีก
6. ไม่มีเคล็ดลับ อาศัยความบ้าดาราหล่อๆเป็นตัวนำ ทำให้มีกำลังใจในการสู้ต่อไป สมัยก่อนตอนหัดอังกฤษจนได้ดีแบบทุกวันนี้ก็เริ่มจากบ้าผู้ชายนี่ละ หัดจนได้ดี เลยคิดว่าเอาแนวทางเดิมมาใช้กับฮินดีก็น่าจะเวิร์คนะ
ใครที่เรียนภาษาที่สาม (หรือที่สี่แล้ว) ก็ลองมาตอบคำถามและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้นะ อยากรู้เหมือนกันว่ามีใครเรียนภาษาแปลกๆหรือที่คนไทยไม่ค่อยเรียนกันบ้างน่ะ
มีใครเรียนภาษาที่ 3 มั่งเอ่ย มาคุยกันหน่อยนะ
1. เรียนภาษาอะไร
2. แรงจูงใจในการเลือกเรียนภาษานี้คืออะไร
3. เรียนด้วยตัวเองหรือเรียนกับสถาบันไหน (จะรีวิวสถาบันเลยก็ได้นะ เพื่อมีใครสนใจอยากเรียนเขาจะได้ใช้ช่วยตัดสินใจ)
4. ใช้ตำราหรือสื่อสารสอนอะไรเพิ่มเติมบ้าง ซื้อหาจากไหน
5. มีปัญหาอะไรมั้ยในการเรียน
6. มีเคล็ดลับอะไรในการเรียนภาษาบ้าง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาละ เรามาตอบของเราก่อนดีกว่า จะได้รู้ว่าเรากำลังเรียนอะไรอยู่และเรียนยังไง
1. ภาษาฮินดี
2. เหตุผลหลักเลยคือบ้าหนังอินเดีย ความจริงการดูหนังอินเดียส่วนมากมันมีซับอังกฤษนะ ซึ่งเราใช้ได้ดีไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่พวกรายการสัมภาษณ์ที่เป็นคลิปต่างๆในยูทิวบ์เขาก็พูดปนกันทั้งอังกฤษและฮินดี บางรายการก็ฮินดีล้วนเลย เราก็เลยอยากจะฟังให้รู้เรื่อง จะได้ฟินกับดาราโปรดได้แบบไม่สะดุด เหตุผลรองคือมีแฟนเป็นคนอินเดีย ซึ่งก็คุยกันด้วยอังกฤษมาตลอดอยู่แล้ว ไม่เคยคิดจะเรียนมาก่อน เขาก็ไม่คิดจะสอน แต่เรียนติดไว้ก็ดี ญาติๆเขาจะได้ปลื้มที่เราพูดได้ฟังออก
3. เราเรียนกับสมาคมไทย-ภารต แถวราชดำเนิน ค่าเรียนแค่ร้อยเดียวเท่านั้น เขาจะแบ่งเป็นสามระดับ เริ่มต้น กลาง สูง เรียนทุกวันอาทิตย์ บ่ายโมงถึงบ่ายสี่ มีเอกสารประกอบการเรียนให้ด้วย เรียนเน้นไปทางการฟังและการพูด บทสนทนา คำศัพท์ที่ใช้บ่อย และการเขียนตัวเทวนาครี อาจารย์ที่สอนเป็นชาวไทยเชื้อสายอินเดีย สอนใช้ได้ เป็นกันเอง เพื่อนๆร่วมคลาสก็น่ารักดี
4. ใช้ตามที่อาจารย์แจกให้และปรินท์แบบฝึกคัดมาเอง นอกนั้นก็ฝึกกับคลิปสอนในยูทิวบ์ ฝึกฟังกับหนัง และฝึกพูดกับแฟน ฝึกพูดทีไรโดนแซวตลอดว่าสำเนียงเหมือนหญิงชาวบ้านจากรัฐพิหาร ฮ่าๆ ถือเป็นคำชมแล้วกันว่าพูดเหมือนคนท้องถิ่น
5. ยังจำตัวอักษรไม่ค่อยได้เลย จำได้แค่ประมาณสิบตัวแรก หลังจากนั้นมั่วๆแล้ว คือให้เขียนเรียงไปแบบเอบีซีดี เขียนได้นะ จำรูปลักษณ์และลำดับได้ อะไรมาก่อนหลัง ตัวไหนต่อจากตัวไหนงี้จำได้ แต่ให้อ่านออกเสียงไปด้วยนี่จะมั่ว หรือให้คนพูดมาตัวนึงแล้วให้เราเขียนรูปลักษณ์ให้ดู จะเขียนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเสียงนี้คือรูปไหน ความจริงเราตั้งใจเอาแค่ทักษะฟังพูดด้วยไง ไว้ดูหนังหรือฟังสัมภาษณ์ ดูงานประกาศรางวัลต่างๆ อย่างพวกแมกกาซีนดาราต่างๆหรือแมกกาซีนหัวนอกฉบับอินเดียก็ใช้อังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว การเขียนและอ่านเลยไม่จำเป็นสำหรับเรา แต่เวลาแชทกับคนอินเดีย เขาก็จะพิมพ์ hinglish กัน เหมือนคนไทยพิมพ์คาราโอเกะนั่นแหละ เราอยากพิมพ์อันนี้ได้ซะมากกว่าเขียนตัวฮินดีได้อีก
6. ไม่มีเคล็ดลับ อาศัยความบ้าดาราหล่อๆเป็นตัวนำ ทำให้มีกำลังใจในการสู้ต่อไป สมัยก่อนตอนหัดอังกฤษจนได้ดีแบบทุกวันนี้ก็เริ่มจากบ้าผู้ชายนี่ละ หัดจนได้ดี เลยคิดว่าเอาแนวทางเดิมมาใช้กับฮินดีก็น่าจะเวิร์คนะ
ใครที่เรียนภาษาที่สาม (หรือที่สี่แล้ว) ก็ลองมาตอบคำถามและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้นะ อยากรู้เหมือนกันว่ามีใครเรียนภาษาแปลกๆหรือที่คนไทยไม่ค่อยเรียนกันบ้างน่ะ